3 มี.ค.58 เนื่องในวันมาฆบูชาของปีนี้ ตรงกับวันพุธที่ 4 มี.ค.58 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "ใครรู้บ้างว่า วันมาฆบูชามีความสำคัญอย่างไร" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 23 - 24 ก.พ.58 กรณีศึกษาจากประชาชนชาวพุทธทั่วประเทศ กระจายทั่วทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,252 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการรับรู้ถึงความสำคัญทางพระพุทธศาสนาของวันมาฆบูชา และการห่างไกลศาสนาของชาวพุทธ
จากผลการสำรวจ เมื่อถามถึงการรับรู้ของประชาชนถึงความสำคัญ หรือเหตุการณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนาในวัน "วันมาฆบูชา" พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 65.34 ระบุว่า ไม่ทราบถึงเหตุการณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนาในวัน "วันมาฆบูชา" ขณะที่ ร้อยละ 34.66 ระบุว่า ทราบ (สามารถระบุได้ถูกต้อง ว่า เป็นวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 และมีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เพื่อสักการะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6 และเป็นพระสงฆ์ที่ได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า (เอหิภิกขุอุปสัมปทา)
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจใน ปี 2556 พบว่า มีสัดส่วนของผู้ที่ไม่ทราบความสำคัญ หรือเหตุการณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนาในวัน "วันมาฆบูชา" ลดลง หรือกล่าวได้ว่า มีสัดส่วนของผู้ที่ทราบเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หรือหากมองอีกนัยหนึ่งคือผลการสำรวจทั้ง 2 ครั้งแทบไม่แตกต่างกันเลย จึงแสดงให้เห็นว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไม่ได้มีการดำเนินการอย่างจริงจังในเรื่องการประชาสัมพันธ์ถึงความสำคัญของ "วันมาฆบูชา"
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อคำกล่าวที่ว่า "ทุกวันนี้ชาวไทยพุทธห่างไกลศาสนา" พบว่า ประชาชน ร้อยละ 48.80 ระบุว่า เห็นด้วยอย่างมาก ร้อยละ 27.64 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 9.50 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 12.78 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย และร้อยละ 1.28 ไม่แน่ใจ/ไม่ระบุ ซึ่งในจำนวนผู้ที่ระบุว่าค่อนข้างเห็นด้วย - เห็นด้วยอย่างมากให้เหตุผลว่า เด็กและผู้คนสมัยนี้ไม่ค่อยเข้าวัด ส่วนใหญ่มีแต่ผู้สูงอายุที่เข้าวัด และพฤติกรรมของพระสงฆ์ไม่น่าเลื่อมใสศรัทธา ไม่น่าเคารพนับถือ และระบบการศึกษาที่ขาดการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม และการรณรงค์ในเรื่องหลักของพระพุทธศาสนา เน้นความเจริญทางด้านวัถตุนิยม และเทคโนโลยีมากกว่า ตามสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป ขณะที่ผู้ที่ระบุว่าไม่ค่อยเห็นด้วย - ไม่เห็นด้วยเลยให้เหตุผลว่า ประชาชนยังมีความเลื่อมใสและศรัทธาในพระพุทธศาสนาอยู่ ยังคงเห็นผู้คนหมั่นเข้าวัดฟังธรรม ทำบุญ กันอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสังคมต่างจังหวัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี