พด.เดินหน้าตามรอยพ่อหลวง
ปรับปรุงดินเปรี้ยวที่ภาคใต้สำเร็จ
จังหวัดนราธิวาส เป็นจังหวัดหนึ่งในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ที่มีปัญหาดินเปรี้ยวนับแสนไร่ กระจายเป็นแนวยาวขนานกับชายฝั่งทะเล ที่ผ่านมา กรมพัฒนาที่ดิน ได้เร่งแก้ปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด โดยน้อมนำแนวทางการปรับปรุงบำรุงดินตามแนวพระราชดำริมาใช้ในการแก้ปัญหา
ที่ผ่านมา กรมพัฒนาที่ดิน โดยสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดนราธิวาส ได้นำแนวทางการปรับปรุงดินเปรี้ยวตามแนวพระราชดำริ จากโครงการแกล้งดิน ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ไปถ่ายทอดสู่เกษตรกรจนสามารถกลับมาทำนาได้อีกครั้ง แถมผลผลิตก็เพิ่มขึ้นหรืออาจจะเทียบเท่ากับพื้นที่ที่ไม่มีปัญหาดิน อีกทั้งได้ขยายผลไปยังพืชผัก พืชไร่ ไม้ผลชนิดต่างๆ ทำให้ปัจจุบันสภาพพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาสที่เคยประสบปัญหาดินเปรี้ยวจัดก็เปลี่ยนแปลงไป สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตร สร้างรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ดี แม้เราจะมีทฤษฎีการแก้ปัญหาดินเปรี้ยวจัดอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาดินเปรี้ยวจัดได้อย่างถาวร เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่เป็นตัวแปร แต่เราสามารถปรับปรุงดินให้ดีขึ้นและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
ดร.อภิชาต จงสกุล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า การแก้ไขปรับปรุงพื้นที่ดินเปรี้ยวแม้จะไม่สามารถดำเนินการแก้ไขได้ทั้งหมดในทันที แต่หลังจากที่กรมพัฒนาที่ดิน โดยสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดนราธิวาส ก็ได้นำแนวทางการปรับปรุงดินเปรี้ยวตามแนวพระราชดำริดังกล่าว มาขยายผลดำเนินการเป็นพื้นที่เฉพาะกระจายไปในอำเภอต่างๆ ตัวอย่างเช่น อำเภอตากใบ ที่มีพื้นที่ดินเปรี้ยวค่อนข้างมาก ก็มีการดำเนินการในพื้นที่โครงการหมู่บ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ คิดเป็นพื้นที่
เกือบหมื่นไร่
สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่บ้านโคกอิฐ-โคกใน ก็ดำเนินการปรับปรุงดินเปรี้ยวได้หลายพันไร่ และมีการขยายผลพัฒนาไปสู่บ้านยูโย อีกสามพันกว่าไร่ ซึ่งแต่เดิมพื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่ดินเปรี้ยวจัด การใช้ประโยชน์ที่ดินค่อนข้างลำบาก ไม่สามารถปลูกพืชได้ เกษตรกรปลูกข้าวได้ผลผลิตเพียง 10 ถังต่อไร่ หรืออย่างมากสุดก็ไม่เกิน 20 ถังต่อไร่ แต่ต้องลงทุนสูงทำให้ผลผลิตไม่คุ้มค่ากับการลงทุน แต่หลังจากที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ได้นำผลการศึกษาจากโครงการแกล้งดินตามพระราชดำริ ไปแก้ไขปัญหาจากดินเปรี้ยวที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ ให้สามารถฟื้นฟูกลับมาทำการเพาะปลูกข้าวได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 30-50 ถังต่อไร่ สร้างอาชีพและรายได้ให้เกษตรกรได้ดีขึ้น
“แม้ว่าวันนี้จะมีแนวทางการแก้ปัญหาดินเปรี้ยวตามแนวพระราชดำริ ทำให้พื้นที่ดินเปรี้ยวลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าโอกาสดินเปรี้ยวจะกลับมาก็มีตลอด เนื่องจากถ้าปรับปรุงไปแล้วเกษตรกรไม่ได้ใช้ประโยชน์ ปล่อยทิ้งไว้ความเป็นกรดก็จะกลับมา ส่งผลให้ดินเปรี้ยวเหมือนเดิมหรืออาจจะมากกว่า ดังนั้น แนะนำว่าถ้ายังไม่มีการใช้ประโยชน์พื้นที่ดินเปรี้ยวก็ปล่อย
ไว้ไม่ต้องปรับปรุงให้เสียค่าใช้จ่าย และพื้นที่นั้นจะปรับเปลี่ยนสภาพกลายเป็นป่าขึ้นมาเองเหมือนในแปลงทดลองที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์พื้นที่ดินเปรี้ยวเมื่อปรับปรุงแล้วก็ควรใช้ประโยชน์พื้นที่ต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นก็จะประสบปัญหาดินเปรี้ยวได้อีก” อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี