22 มี.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากแม่น้ำมูลที่ไหลผ่าน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มีสภาพตื้นเขินและแห้งขอดเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบกับชาวบ้านและเกษตรกร บ.ท่าเรือ ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ไม่สามารถเพาะปลูกข้าวนาปรัง และเลี้ยงปลาในกระชังได้ ซึ่งเป็นอาชีพและสร้างรายได้หลักเลี้ยงครอบครัวของชาวบ้านแถบนี้ ทำให้ชาวบ้านหลายรายต้องพากันอพยพไปหาทำงานรับจ้างยังต่างจังหวัด บางรายเปลี่ยนอาชีพหันไปเก็บของเก่าขาย เพื่อหารายได้ใช้หนี้ทั้งในและนอกระบบ ที่กู้ยืมมาลงทุนเลี้ยงปลาสะสมเฉลี่ยรายละ 200,000 - 500,000 บาท และเลี้ยงครอบครัว
จากที่ก่อนหน้านี้ชาวบ้านที่มีอาชีพเลี้ยงปลากระชัง จะมีรายได้จากการเลี้ยงปลาในกระชังปีละ 100,000 - 200,000 บาท แต่หลังจากน้ำมูลตื้นเขินแห้งขอดติดต่อกันมาหลายปี ทำให้ไม่สามารถเลี้ยงปลาได้ บางรายที่เสี่ยงเลี้ยงก็ประสบปัญหาขาดทุน หลายรายต้องเลิกเลี้ยงไปทำอาชีพอื่นแทน
ด้าน นายมุ้ย มาดี อายุ 60 ปี ชาวบ้านบ้านท่าเรือ ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยเลี้ยงปลาในกระชังเฉลี่ยปีละ 3,000 ตัว แต่หลังจากประสบปัญหาน้ำมูลตื้นเขินและแห้งขอดติดต่อกันมาหลายปี ทำให้ประสบปัญหาขาดทุน เนื่องจากปลาน็อกตาย ปัจจุบันต้องแบกรับภาระหนี้สินจากการกู้ยืมมาลงทุนเลี้ยงปลากระชังสะสมอยู่ถึง 300,000 บาท ทำให้ต้องเลิกเลี้ยงปลาหันมาทำอาชีพเก็บของเก่าขาย เนื่องจากไม่สามารถไปทำงานรับจ้างต่างจังหวัดได้ โดยจะมีรายได้เดือนละ 4,000 - 5,000 บาท เพื่อหาเงินไปชำระหนี้สินและใช้จ่ายในครอบครัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี