เกษตรเฮเตรียมปลดหนี้ล็อตใหญ่ จ่อชงครม.อนุมัติแฮร์คัทแสนล้าน
วันอาทิตย์ ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558, 19.33 น.
Tag :
22 มี.ค. 58 นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าหลังจาก ครม.ฝ่ายเศรษฐกิจ เห็นชอบแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร ในส่วนสมาชิกกองทุนสำนักกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพ (กฟก.) มีมูลหนี้สูงถึง 1 แสนล้านบาท และเกษตรกรที่เป็นหนี้ สำนักบริหารกองทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและรับเรื่องร้องเรียน (สกร.) สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีมูลหนี้รวมกันกว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งเกษตรกรจะได้รับการลดหนี้กว่า 2 แสนรายโดยมีวิธีการการปรับปรุงหนี้หรือแฮร์คัท ขณะได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปเตรียมแนวปฏิบัติที่ชัดเจนแล้วจะนำเสนอให้ ครม.ชุดใหญ่ให้ความเห็นชอบได้ช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้
ด้านว่าที่ ร.ต.สมพูนทรัพย์ กล้าวิกรณ์ ผอ.สำนักบริหารกองทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและรับเรื่องร้องเรียน กระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่ากำลังเร่งจัดทำขั้นตอนปฏิบัติงานแก้ไขหนี้สินให้กับเกษตรกรที่จะมีทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งสองส่วน แต่ที่สำคัญเตรียมเสนอ ครม.เพื่อออกกฎหมายพิเศษเพื่อปกป้องที่ดินให้เกษตรกรไม่ให้ถูกยึด และจะยืดเวลาใช้หนี้ให้เกษตรกรนานถึง 20 ปี โดยบางส่วนรัฐบาลจะช่วยชดเชยดอกเบี้ยหากเป็นธนาคารพาณิชย์ทั่วไป แต่ถ้าเป็นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กระทรวงการคลังเป็นผู้ดูแล
ว่าที่ ร.ต.สมพูนทรัพย์ กล่าวต่อว่า ระยะเริ่มต้นจะเข้าไปแก้ไขในส่วนเกษตรกรที่เป็นหนี้ของ ธ.ก.ส. และสหกรณ์การเกษตร มีมูลหนี้ราว 1 แสนล้านบาท และอนาคตจะลดบทบาทของกองทุนฟื้นฟูฯ ให้ทำภารกิจฟื้นฟูอาชีพอย่างเดียว ในส่วนที่ 2 เป็นหน่วยงานที่ สกร.รับผิดชอบโดยตรง เป็นกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน
"ต้องเป็นรัฐบาลชุดนี้เท่านั้น จะแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรได้ในระยะยาว เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลในอดีตพยายามแก้ไขหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ พักหนี้เกษตรกรหลายครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ท้ายสุดเกษตรกรก็กลับมาเป็นหนี้อีก โดนฟ้อง โดนยึดที่ดินไป เป็นวงจรอุบาทว์ เกษตรกรกลายเป็นหนี้ถาวรจำนวนมาก ไปกู้ยืมหนี้นอกระบบมาใช้หนี้ในระบบ ดังนั้นต้องมีกฎหมายพิเศษเพื่อให้ธนาคารต่างๆ ปฏิบัติตามและไม่ยึดที่ดินเกษตรกรแต่ให้ยืดเวลาการชำระหนี้ออกไป โดยจะเริ่มนำร่องที่ ธ.ก.ส.ก่อน มีสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ จำนวน 1.03 แสนราย และในส่วนของสหกรณ์การเกษตร จำนวน 5.64 หมื่นราย รวมมูลหนี้ประมาณแสนล้าน ทั้งปรับโครงสร้างหนี้ ขยายเวลาการชำระหนี้" ผอ.สำนักบริหารกองทุนฯกล่าว และว่าในส่วนหนี้ธนาคารพาณิชย์ทั่วไปจะใช้วิธีการช่วยจ่ายดอกเบี้ยให้กับเกษตรกร ปรับโครงสร้างหนี้ พร้อมกับออกกฎหมายพิเศษ ประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกา ไม่ให้ที่ดินของเกษตรกรถูกยึด และจะมีความยืดหยุ่นให้กับเกษตรกรมากกว่าในอดีต มั่นใจว่าหากกฎหมายฉบับนี้ออกมาจะช่วยเกษตรกรปลดเปลื้องหนี้สินได้ยั่งยืน
ขณะที่นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่าเห็นด้วยกับมาตรการลดหนี้หรือแฮร์คัท หนี้สินเกษตรกร ในส่วนที่ขึ้นทะเบียนเอาไว้กับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเกษตรกร ที่อยู่ในขั้นตอนถูกฟ้องร้องยึดที่ดินทำและอยู่ในส่วนทำแผนฟื้นฟูอาชีพ ให้เกษตรกรที่เป็นลูกหนี้ชั้นดีและสามารถกลับมามีรายได้เลี้ยงชีวิตเลี้ยงครอบครัวได้
ประธานสภาเกษตรกรฯ กล่าวว่า มาตรแฮร์คัทหนี้ช่วยแล้วต้องให้จบ ต้องมีเส้นกำหนดระยะเวลาถึงเมื่อไหร่เพื่อไม่ส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงิน และภาครัฐต้องมีการตรวจสอบถึงการเป็นหนี้ของเกษตรกรว่า เป็นหนี้เสียแท้หรือหนี้เสียเทียมด้วย เพราะจำนวนเกษตรกรเป็นหนี้มีหลายหมื่นรายขึ้นทะเบียนไว้แล้ว พร้อมกับต้องทำแผนฟื้นฟู ให้เขามีหนี้คุณภาพให้ได้เป็นหนี้ที่มีรายได้และมีแผนอาชีพบริหารให้เกิดรายได้ต่อเนื่อง ซึ่งมาตรการลดหนี้มีมติครม.มาหลายสิบปี ตั้งแต่สมัยที่ตนเป็นรมช.เกษตรฯก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้มีขั้นตอนที่ติดขัดไปหมด ดังนั้นรัฐบาลคสช.มีอำนาจพิเศษ ควรเร่งรีบให้จบ เพราะปัญหาหนี้สินควรดำเนินการได้จบโดยเร็วเพื่อไม่ให้กระทบต่อสถาบันการเงินโดยรวมของประเทศ