เลาะรั้วเกษตรสัปดาห์นี้ ต้องเริ่มต้นสัปดาห์ในวันคล้ายวันก่อตั้งหนังสือพิมพ์แนวหน้า ที่บริษัทหนังสือพิมพ์แนวหน้า จำกัด ครบรอบ 35 ปี ในวันที่ 22 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งโดยมีบุคคลสำคัญทั้งนักการเมือง นักธุรกิจ ข้าราชการ ตลอดจนบุคคลจากแวดวงต่างๆ เดินทางมามอบกระเช้าดอกไม้และร่วมแสดงความยินดีอย่างเนืองแน่น
ถึงวันนี้ต้องบอกว่า ขอกราบขอบพระคุณงามๆ กับท่านผู้ใหญ่ใจดี จากกระทรวงเกษตรฯ ตั้งแต่ท่านรัฐมนตรีว่าการ “ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา” และท่านรัฐมนตรีช่วย “อำนวย ปะติเส” รวมถึงท่าน ปลัดกระทรวงเกษตรฯ อย่างท่าน “ชวลิต ชูขจร” ตลอดจนท่านอธิบดีกรมต่างๆ รวมทั้งแหล่งที่มาของข้อมูลในการเขียนข่าวสาร เพื่อสะท้อนให้สังคมได้รับทราบถึงความเคลื่อนไหวในแวดวงเกษตรด้วยดีเสมอมา และจากนี้ไปหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเมตตาในการให้ข้อมูล จากท่านๆ เพื่อนำเสนอต่อสังคมเพื่อชี้ทางให้สังคมเดินไปในทางที่ถูกที่ควรต่อไปนะขอรับ
เรื่องดีๆ ผ่านไปแล้ว มาถึงเรื่องการติดตามการทำงานของกระทรวงเกษตรฯ บ้าง วันนี้ต้องบอกว่า เรื่องที่น่าเป็นห่วงคงหนีไม่พ้น เรื่องการเร่งรัดในการแก้ปัญหาในเรื่องของสหกรณ์ แม้วันนี้เรื่องของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จะถูกศาลสั่งให้เข้าสู่โหมดการทำแผนฟื้นฟู แต่ก็ไม่ใช่ว่าผู้ได้รับผลกระทบจะได้รับการเยียวยาทันที ซึ่งขั้นตอนจากนี้ไปยังเส้นทางยาวไกล แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง คือ คนเกษียณอายุราชการและคนหาเช้ากินค่ำที่ทุ่มสุดตัวเอาเงินไปซื้อหุ้นและไปฝากเงินในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น หวังกินดอกผลจากดอกเบี้ยในบั้นปลายชีวิต ณ วันนี้ ยังทำอะไรไม่ได้ ต้องรอและรอต่อไป จนกว่าแผนฟื้นฟจะชัดเจน และที่สำคัญ คือ กรมบังคับคดี ก็ชี้ชัด เจ้าหนี้ที่จะต้องเข้าข่ายรายงานตัวเพื่อแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหนี้ได้นั้น มีเพียงผู้ฝากเงิน ส่วนคนที่ซื้อหุ้น ไม่ถือว่าเป็นเจ้าหนี้ งานนี้เล่นเอา งง กันไปเป็นแถว และมีคำถามตามมาว่า แล้วมันอย่างไง ก็ฉันซื้อหุ้น ก็น่าจะเป็นเงินที่นำไปฝากเช่นกัน แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น
เพื่อให้เกิดความกระจ่างในข้อสงสัย จึงสอบถามข้อมูลไปยังฝ่ายกฎหมายทั้งกรมบังคับคดี และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ความว่า เงินที่มีการนำไปซื้อหุ้นถือเป็นเงินลงทุนร่วมกันกับสหกรณ์ และดอกผลที่ได้มีเยอะกว่า งานนี้เครดิตยูเนี่ยนจูงใจให้ซื้อหุ้น โดยอ้างว่าให้ดอกงามถึงร้อยละ 10 บาท จึงมีคนนำเงินไปซื้อหุ้นจำนวนมาก ซึ่งวันนี้ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูเงินลงทุนจะเท่ากับศูนย์ เพราะถือว่าร่วมลงทุนด้วยกัน ต้องรอการฟื้นฟูให้กลับมามีกิจการที่ฟื้นได้ดังเดิมเข้าสู่ภาวะปกติถึงจะถอนหุ้นไปได้ “ย้ำว่าต้องฟื้นฟูให้มีกิจการยืนได้เหมือนเดิม” วันนี้ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะสหกรณ์ยังไม่ฟื้นตัวต้องรอต่อไป ส่วนเงินฝาก คือเงินที่เป็นการดำเนินการในกิจกรรมของสหกรณ์ โดยสหกรณ์มีหน้าที่รับฝากเงิน และนำเงินไปปล่อยกู้ให้กับสมาชิก และเป็นการช่วยเหลือสมาชิกตามระบบสหกรณ์ เมื่อคนมาฝากเงิน และสหกรณ์นำเงินที่ฝากไปใช้ เมื่อถึงเวลาเขามาถอน ไม่สามารถถอนได้ สหกรณ์จึงตกเป็นลูกหนี้ คนฝากจึงถือเป็นเจ้าหนี้ และตามพ.ร.บ.ฟื้นฟู ทุนเรือนหุ้นจะถือเป็นเงินลงทุน แต่ในระบบสหกรณ์คนที่เป็นสมาชิกก็มีหน้าที่จะต้องร่วมกันซื้อหุ้น เพื่อสร้างความมั่นคงให้สหกรณ์ และจะถอนหุ้นได้เมื่อต้องลาออกจากการเป็นสมาชิก ที่สำคัญคือ ต้องร่วมกันตรวจสอบการทำงานของกรรมการที่เลือกมาไม่ใช่หวังปันผล เพราะทุกคนถือเป็นเจ้าของ จากนี้ไปจะเดินหน้าอย่างไร งานนี้คงต้องรอแผนฟื้นฟูที่ชัดเจน จากทีมทำแผนฟื้นฟู ต้องเอาใจช่วยกันต่อไป
เลาะมาดูอีกเรื่องที่กระทรวงเกษตรฯ หลายวันที่ผ่านมา หลายคนคงแปลกใจ โดยเฉพาะข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ เมื่อเจอกับกะเทยไทยนายหนึ่ง เดินถือกระเป๋าหลุยส์ห้อยศอกเข้าห้องโน้นออกห้องนี้ มุ่งเป้าไปที่ชายไทยในสเปกก็แวะเวียนเข้าไปหา และรายงานตัว เล่นเอาหลายคนงงไปตามๆ กัน เพราะเจ๊เล่นแนะนำตัวไปทั่ว ที่สุดก็เขาคือ ลูกหัวแก้วหัวแหวนท่านรัฐมนตรี “อำนวย” หละจ้า ไม่ใช่ใครอื่นไกล ที่สำคัญหนุ่มๆระวัง เพราะถ้าหล่อนถูกใจ ก็จะเดินเข้าไปทักทาย และเลี้ยงอาหารอย่างไม่อั้น ไม่เชื่อลองถาม เจ้าหน้าที่แถวสำนักงานรัฐมนตรีดู เพราะว่า เจ๊ไปดันชอบพ่อหนุ่มคนหนึ่งในห้องนี้ งานนี้จึงได้อิ่มกันทั่วหน้า และเห็นแว่วว่าเจ๊ยังเสนอตัวเป็นเจ๊ดันยอมจ่ายเงินเดือนให้มากกว่าที่กระทรวงจ้างเสียอีก สนไหมล่ะตัวเอง เออไม่ทราบว่าท่านรัฐมนตรี “อำนวย” ครับ อันนี้หรือเปล่าครับ คือ แก้ปัญหาปากท้องที่ว่า เขากลัวนะตัวเอง ไปสู่ที่ชอบที่ชอบนะ
มดแดงหลวง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี