ปัดซัดคนสั่งตายพระหมอ
ดต.ปากแข็ง
ตร.ประกบเสี่ย“บ.”รอจับ
เตรียมปิดเกมไม่เกินจันทร์นี้
งมแม่น้ำชีเหลว-หาปืนไม่พบ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 มีนาคม คณะสอบสวนคดีสังหาร พระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี นำโดย พ.ต.อ.จักรกฤษณ์ จันทรัตน์ รองผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 4 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามกว่า 50 นาย ได้ควบคุมตัว นายปัญจ๋า ชารีแสน ผู้ต้องหาที่ใช้อาวุธปืนยิง พระอาจารย์บัณฑิต มรณภาพ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณหน้าวัดสว่างศรีบูรพา ต.แชแล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นจุดที่ ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ ผบ.หมู่ปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.อุดรธานี นำเงินค่าจ้างมาให้จำนวน 20,000 บาท หลังจากที่รับไปแล้ว 30,000 บาท ก่อนหน้านี้
งมชิ้นส่วนปืนที่แม่น้ำชี
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้พานายปัญจ๋า ไปไปทำแผนที่คลองส่งน้ำหน้าเขื่อนลําปาว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นจุดโยนเสื้อผ้าทิ้ง และพาไปที่วิทยาลัยสารพัดช่างกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นจุดประกอบอาวุธปืน ก่อนที่จะคุมตัวไปยังพนังกั้นแม่น้ำชี เขตรอยต่อระหว่าง อ.กมลาไสย กับ อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นจุดนำปืนมาทิ้ง หลังจากทำการตัดทำลายปืนที่บ้านพัก โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้นักประดาน้ำลงไปค้นหา แต่เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากมีกระแสน้ำเชี่ยวกราก เบื้องต้นไม่พบชิ้นส่วนอาวุธปืน
ค่าจ้าง5หมื่นใช้หมดแล้ว
นายปัญจ๋า เปิดเผยว่า เงินค่าจ้าง 50,000 บาทนั้น นำไปใช้หมดแล้ว สำหรับรถที่ใช้ก่อเหตุ มี 4 คัน คือ รถกระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีดำทะเบียน กค 8584 กาฬสินธุ์, รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ไม่ทราบทะเบียน และ รถกระบะสีขาว 2 คัน ไม่ทราบทะเบียน โดยระหว่างลงมือ ใช้รถรถกระบะสีขาวขับไปสังเกตการณ์เพื่อรอสังหารในวันที่ 27 และ 28 กุมภาพันธ์ แต่ไม่มีโอกาสได้ยิง จึงนำรถไปจอดไว้ที่โรงสีสิริยากร อ.สร้างคอม จากนั้นมีคนขับรถฮอนด้า ซีวิค มารับไปเอารถอีกคันมาใช้ก่อเหตุวันที่ 1 มีนาคม
พบรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุ
ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ได้พบรถยนต์คันที่ใช้ในการก่อเหตุแล้ว โดยจอดไว้ที่กระท่อมในที่นาของ นางปัญญา อินทร์กัณหา อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ที่ 15 บ้านศรีนคร ต.ยางหล่อ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู โดยนางปัญญา ให้การว่า ตนกับ ด.ต.ชาญชัย รู้จักกันมาได้ 2 ปีแล้ว โดยเมื่อวันที่ 21 มีนาคม เวลาประมาณ 09.00 น. ด.ต.ชาญชัย ได้มาหาตนที่บ้าน พร้อมกับลูกน้อง 3 คน โดยบอกว่า ขอฝากรถกระบะยี่ห้อมาสด้า สีขาวหมายเลขทะเบียน ผข.9158 อุดรธานี ไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้น ลูกน้อง ด.ต.ชาญชัยได้นำสีสเปรย์ สีดำมาพ่นทับรถยนต์ทั้งคันและลอกสติ๊กเกอร์ออก แต่ตนไม่ได้คิดอะไร จากนั้น ตนได้ออกไปดูไร่อ้อย โดยปล่อยให้ดาบตำรวจชาญชัย กับลูกน้องพ่นสีรถยนต์ที่กระท่อมนา จากนั้น ในตอนเย็น เมื่อกลับมาก็เห็นว่ารถยนต์ได้ถูกพ่นสีทับเป็นสีดำแล้ว และได้คลุมผ้าไว้
เพื่อนกลัวผิด รีบแจ้งตร.
นางปัญญา เล่าต่อไปว่า ในเวลาประมาณ 20.00 น. ด.ต.ชาญชัย และลูกน้องได้เดินทางกลับไป โดยใช้รถเก๋ง สีดำไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน กระทั่ง ในวันนี้ หลานสาวของตนได้มาหาที่บ้านและบอกว่า รถคันที่ ด.ต.ชาญชัยนำมาฝากไว้เป็นรถคันที่ก่อเหตุยิงพระที่ จ.อุดรธานี ตนเองตกใจ กลัวมีความผิด จึงโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ สภ.ศรีบุญเรือง มาตรวจสอบดังกล่าว โดยทางตำรวจยืนยันว่ารถคันนี้เป็นคันที่ใช้ก่อเหตุจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้นำรถกลับไปที่ จ.อุดรธานี เพื่อดำเนินการต่อไป
ส่งกำลังค้นบ้านผู้มีอิทธิพล
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)เปิดเผยว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนส่วนหนึ่งได้เข้าตรวจค้นบ้านพัก และที่สถานที่ทำงานของนักธุรกิจผู้กว้างขวางใน จ.อุดรธานี ถือเป็นการปฏิบัติตามจุดเป้าหมายโดยเฉพาะพื้นที่ของกลุ่มผู้มีอิทธิพล เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ส่วนประเด็นการสังหารพระบัณฑิต ซึ่งให้น้ำหนักไปในเรื่องชู้สาว ยังอยู่ระหว่างสืบสวนหาข้อเท็จจริง ตามพยานหลักฐานต่างๆ แต่ยังไม่สามารถสรุปว่ามีบุคคลที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ คงต้องขอเวลาสืบสวนอีกระยะหนึ่ง
รวบแล้ว“ดาบชาญ”ที่ฝั่งลาว
เวลา 15.30 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานีว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว ด.ต.ชาญชัย ได้แล้ว ที่ฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) โดย พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ หัวหน้าชุดสอบสวนและคลี่คลายคดีได้ประสานความร่วมมือไปยังตำรวจ สปป.ลาว จนสามารถจับกุม ด.ต.ชาญชัยไว้ได้ โดยหลังก่อเหตุ ด.ต.ชาญชัย ได้หลบหนีจากฝั่งไทยมากบดานที่บ้านพักของเพื่อนสนิทที่บ้านหลังหนึ่งในเขตเมืองบริคัณฑ์ แขวงบริคำไชย สปป.ลาว จากนั้น ชุดสืบสวนได้ประสานกับตำรวจท้องที่ สปป.ลาว ให้ช่วยเหลือในการควบคุมตัวมาส่งยังด่านชายแดนฝั่ง จ.บึงกาฬ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยได้เตรียมการรับตัวผู้ต้องหามาสอบสวนแล้ว
ยังไม่ซัดจอมบงการ-ตร.ประกบเสี่ยบ.
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนว่าจ้าง นายปัญจ๋า ให้ยิง พระอาจารย์บัณฑิต แต่ยังไม่ยอมสารภาพว่ารับงานมาจากใคร อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้ทราบถึงตัวของผู้บงการให้ได้
นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ส่งกำลังตามประกบ เสี่ย “บ.” ที่ถูกพาดพิงว่าเป็นผู้ว่าจ้างวานในคดีดังกล่าวเอาไว้แล้ว พร้อมกับเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอให้ศาลอนุมัติหมายจับ โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการทุกอย่างเสร็จสิ้นอย่างช้าที่สุดในวันจันทร์ที่ 30 มีนาคมนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี