27 มี.ค.58 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 , พ.ต.อ.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผกก.สส.บก.น.6 แถลงผลการจับกุม นายกุลเดช หรือบัส เชาว์เฉียบ อายุ 20 ปี , นายศิริธรรม หรือแชมป์ จำรูญ อายุ 19 ปี , นายพัชรพล หรือมาร์ค บุญเที่ยง อายุ 21 ปี , นายจิรพัส หรือแจ๊ค ไชยกิจไพบูลย์ศรี อายุ 21 ปี, นายภาคภูมิ หรือแบ๊ะ ประดับธนกิจ อายุ 19 ปี ในข้อหาปล้นทรัพย์ และร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น MSX 125 สีแดง-ดำ ทะเบียน 3กม1329กทม.โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 225/278 หมู่บ้านสินทวี กรีนวิลล์ ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
พ.ต.อ.นพสิทธิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากในพื้นที่ บก.น. 5 , 6 , 7 , 8 , 9 ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ร่วมกันก่อเหตุปล้นทรัพย์ และวิ่งราวทรัพย์สร้อยทองคำบ่อยครั้ง โดยมักจะเลือกก่อเหตุในย่านธุรกิจการค้า ย่านเยาวราช เอเชียทีค และศาลเจ้าพ่อเสือ โดยทุกครั้งที่ลงมือก่อเหตุมีพฤติการเดียวกัน คือ คนร้ายมักจะสวมหมวกกันน็อคครึ่งใบ สีขาว สีแดง และสีเทา สวมเสื้อแจ็คเก็ต แขนยาว สีดำ สีขาว และสีชมพูอ่อน และใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ ส่วนเส้นทางที่ใช้หลบหนี คือ เส้นทางฝั่งธนบุรี ทำงานเป็นทีมวางแผนอย่างดี มีผู้ดูต้นมีผู้ลงมือก่อเหตุและมีผู้เฝ้าระวังหลักจากก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 และฝ่ายสืบสวน สน.บางกอกใหญ่ จึงร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม จนทราบว่ากลุ่มคนร้ายดังกล่าวใช้ชื่อว่า "แก๊งพลอยแก้ว" มีนายกุลเดช เป็นหัวหน้าแก๊ง ซึ่งจากการตรวจสอบมีหมายจับในคดีปล้นทรัพย์พื้นที่ สน.บางกอกใหญ่ จำนวน 8 คดี
พ.ต.อ.นพสิทธิ์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนทราบว่านายกุลเดช พร้อมพวก ได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้านเลขที่ 225/278 หมู่บ้านสินทวี กรีนวิลล์ ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่จึงขออนุมัติศาลออกหมายค้น ผลการตรวจค้นพบนายกุลเดชกับพวกรวม 5 คน จึงเชิญทั้งหมดมาสอบสวนที่ กก.สส.บก.น.6
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์มาตั้งแต่ปี 56 ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ครั้ง จะเน้นการกระซากสร้อยคอทองคำเท่านั้น หลังนั้นนำไปขายทอดตลาดย่านวงเวียนใหญ่ ก่อนที่จะนำเงินไปแบ่งกันพร้อมกับนำไปเที่ยวเตร่
พ.ต.อ.นพสิทธิ์ ทางเจ้าหน้าที่จึงประสาน สน.ต่างๆ ติดตามผู้เสียหายที่ร้องทุกข์ไว้มาชี้ยืนยันตัวผู้ต้องหา จนสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับนายกุลเดช รวม 9 ราย จำนวนหมายจับทั้งสิ้น 29 หมาย และผู้ต้องหาได้นำชี้สถานที่เกิดเหตุและร้านรับซื้อของโจร ที่นำสร้อยคอทองคำที่ได้จากการก่อเหตุไปจำหน่าย นอกจากนี้ ยังดำเนินคดีร้านรับซื้อสร้อยคอทองคำจากผู้ต้องหา ในข้อหา ประกอบกิจการค้าของเก่าโดยไม่ได้รับอนุญาต และรับของโจร
พ.ต.อ.นพสิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ 3 ราย คือ นายสหรัฐ หรือบิ๊ก ทองอุดม อายุ 19 ปี, นายศราวุธ หรือเบล หรือมอเร่ ปานทอง อายุ 26 ปี และนายนรวิชญ์ หรือไปรท์ สุขเจริญ อายุ 20 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี