ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย2558 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา โดยกำหนดให้นำเงินจากการจัดเก็บภาษีสุราและยาสูบส่งเข้าสมทบ “กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ” เพื่อใช้ในการสนับสนุนส่งเสริมกีฬาประเภทต่างๆ โดยไม่ต้องนำส่งเข้าคลัง เหมือนกับการนำส่งเข้ากองทุน สสส.และไทยพีบีเอส โดยให้กรมสรรพสามิตและกรมศุลกากรนำส่งเข้ากองทุน
น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ กรรมการอำนวยการ ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27มีนาคมที่ผ่านมา โรงงานยาสูบได้ประกาศราคาขายส่งบุหรี่หน้าโรงงานผลิตใหม่ทั้งหมด หลังจากกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ทำให้โรงงานต้องนำส่งเงินให้กองทุนถึงปีละ1,100ล้านบาท โดยการปรับราคาขายส่งใหม่ครั้งนี้ ทำให้ราคาบุหรี่เพิ่มขึ้นซองละ 1-2 บาท โดยบุหรี่ยี่ห้อดังเพิ่มราคา 2บาท ส่วนบางยี่ห้อซึ่งกำลังออกใหม่เพื่อแข่งขันกับบุหรี่จากต่างประเทศและเริ่มได้รับความนิยมมักจะไม่ปรับเพิ่มราคา
ทั้งนี้ ช่วง 1-2วันนี้ อาจยังไม่ปรับราคา เพราะยังเป็นสตอกสินค้าเดิมที่เสียภาษีอัตราเดิม แต่ร้านค้าโชห่วยรายย่อยบางรายอาจฉวยปรับราคาทันที เพราะไม่สามารถตรวจสอบและแยกแยะได้ว่า เป็นบุหรี่สตอกเก่าหรือใหม่ อีกด้านหนึ่งมองว่า เมื่อราคาแพงขึ้นอาจทำให้มีผู้ลดจำนวนการสูบลง หรือหันไปสูบบุหรี่ที่ถูกกว่าแทน ส่งผลให้รายได้และกำไรของโรงงานอาจลดลงตามไปด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบร้านสะดวกซื้อพบว่า ยังจำหน่ายสินค้าบุหรี่และสุราราคาเดิม โดยส่วนของบุหรี่จำกัดให้ซื้อได้เพียงคนละ 2 ซอง เพราะเกรงว่าจะซื้อไว้กักตุนและทำให้สินค้าขาดตลาด ร้านค้าปลีกเตรียมราคาใหม่ในเร็ว ๆนี้
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง แจ้งว่า จากการปรับขึ้นภาษีสุรา เบียร์และยาสูบ อีก 2% จากฐานภาษีเดิมนั้น จะทำให้ราคาของสินค้าดังกล่าวขยับขึ้นตามไปด้วย แต่ไม่มากนัก เช่น บุหรี่ไทยอยู่ที่ 1-3ซองบาทต่อซอง บุหรี่นอกอาจจะแพงกว่านี้ตามฐานของภาษีเดิม ส่วนเบียร์ปรับเพิ่มขึ้นไม่ถึงกระป๋องละ 1บาท แล้วแต่ยี่ห้อ อย่างเบียร์ไทยอยู่ 0.47บาทเบียร์นอกอยู่ที่ 0.60บาท ส่วนสุราขาวราคาจะเพิ่มขึ้น 0.79บาทและสุราสีของไทยจะปรับขึ้นขวดละ 2.20บาทไปจนถึง 3.26 บาท ส่วนสุราต่างประเทศยี่ห้อดัง จะปรับขึ้นขวดละ 5.23บาทและ8.49บาท
ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตได้สอบถามถึงราคาขายปลีกพบว่าล่าสุดผู้ประกอบการยังไม่ปรับราคาขายปลีกขึ้น โดยสุราขายยังอยู่ที่ขวดละ 99บาทและเบียร์ยังคงขายในราคาเดิม จะมีเพียงสุราต่างประเทศที่ปรับราคาขายปลีกขึ้นขวดละ 10บาทและ20บาท ส่านหนึ่งเป็นเพราะยังมีสต็อกสินค้าเดิมเหลืออยู่มากน่าจะประมาณ 1สัปดาห์กว่าจะเป็นสินค้าราคาใหม่ อีกทั้งเป็นเรื่องของการแข่งขันทางการตลาดที่ผู้ประกอบการรับภาระไว้เองไม่ผลักไปผู้บริโภคแต่หากจะปรับราคาขายปลีกจริงส่วนของเบียร์ก็ไม่น่าจะเกินกระป๋องละ 1บาท สุราไทยอาจขึ้นที่ 2-3บาทต่อขวด เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี