สีคิ้วโมเดล คือ การนำผลงานด้านเทคโนโลยีการผลิตมันสำปะหลังที่เหมาะสมของกรมวิชาการเกษตรไปถ่ายทอดสู่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการโรงแป้งในพื้นที่ คัดเลือกเกษตรกรเครือข่ายมาเข้าร่วมโครงการ เพื่อผลิตมันสำปะหลังตามเทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตร
นายสุกิจ รัตนศรีวงษ์ รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการผลิตพืชที่เหมาะสมกับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า สีคิ้วโมเดลมีอยู่ 5 เทคโนโลยี ได้แก่ การใช้พันธุ์ที่เหมาะสมต่อพื้นที่ การจัดการดิน การจัดการปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน การจัดการระบบน้ำหยด และที่สำคัญคือการอารักขาพืชเรื่องของการป้องกันกำจัดโรคและแมลง โดยเฉพาะเพลี้ยแป้งสีชมพู ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ทำโครงการต่อเนื่องได้รับการยอมรับจากเกษตรกรเป็นอย่างดี จนสามารถขยายผลโครงการครอบคลุมพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังในจังหวัดนครราชสีมา
สุกิจ รัตนศรีวงษ์
ปัจจุบันได้ขยายผลโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตมันสำปะหลัง โดยนำรูปแบบของสีคิ้วโมเดล มาสู่จังหวัดกำแพงเพชร เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังประมาณ 600,000 ไร่ เป็นอันดับสองของประเทศรองจากนครราชสีมา โดยร่วมมือกับผู้ประกอบการโรงแป้งที่อำเภอขาณุวรลักษบุรี ดำเนินการในพื้นที่ 4 ตำบล เกษตรกรเข้าร่วมโครงการทำแปลงต้นแบบ 60 รายๆ ละ 5 ไร่ พร้อมกันนี้กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำแปลงเรียนรู้ 2 แปลงๆ ละ 20 ไร่ ในพื้นที่ของเกษตรกร เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีการผลิตมันสำปะหลังอย่างเหมาะสมครบทั้ง 5 เทคโนโลยี
อย่างไรก็ตาม ค่าเฉลี่ยผลผลิตมันสำปะหลังในพื้นที่อำเภอขาณุวรลักษบุรีอยู่ที่ 3 ตันต่อไร่ คาดว่าผลผลิตในปีแรกหลังเข้าร่วมโครงการจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 ตัน และจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5-6 ตันในปีต่อๆ ไป แม้ว่าการใช้เทคโนโลยีน้ำหยดจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นที่ 5,000 บาทต่อไร่ การลงทุนอุปกรณ์ใช้ได้ประมาณ 2 ปี หรือคิดเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นปีละ 2,500 บาท แต่เมื่อเทียบกับผลผลิตที่จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 50% ก็นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะถึงแม้ต้นทุนเพิ่มขึ้นจริงแต่ผลผลิตก็ปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และเมื่อคำนวณกับต้นทุนค่าปุ๋ยที่ลดลงจากการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินแล้ว ก็จะทำให้เกษตรกรเหลือส่วนต่างที่เป็นรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ โรงงานแปรรูปก็ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพป้อนเข้าสู่โรงงานมากขึ้น ส่วนกรมวิชาการเกษตรเองก็ได้นำผลงานเผยแพร่สู่เกษตรกรในวงกว้างมากขึ้น เรียกว่าได้ประโยชน์ทุกฝ่าย
ศรีโพธิ์ ขยันการนาวี
ด้าน นายศรีโพธิ์ ขยันการนาวี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านห้วยแก้วสามัคคีธรรม ม.2 ต.วังชะพลู อ.ขาณุวรลักษบุรี ตัวแทนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ เล่าว่า เดิมเกษตรกรในหมู่บ้านปลูกมันสำปะหลังกันตามปกติ โดยไม่มีความรู้หรือทำตามหลักวิชาการ ลองผิดลองถูกมาตลอดทำให้ผลผลิตได้ไม่ดีเท่าที่ควร คือผลผลิตสูงสุดอยู่ไม่เกิน 3.5 ตันต่อไร่ จึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการกับกรมวิชาการเกษตร และปฏิบัติตามคำแนะนำในเรื่องเทคโนโลยีที่เหมาะสมทั้ง 5 เรื่อง สำหรับเรื่องของพันธุ์นั้นกำลังรอดูผลหลังการเก็บเกี่ยวว่าพันธุ์ไหนเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และให้ผลผลิตสูง ส่วนเรื่องการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินนั้น ยอมรับว่าดีมาก เพราะก่อนหน้าอยากใส่ปุ๋ยอะไรก็ใส่เดี๋ยวนี้ใช้ปุ๋ยตามที่ดินและพืชต้องการ ทำให้ไม่สิ้นเปลือง ลดต้นทุนไปได้มาก ส่วนเรื่องการใช้ระบบน้ำหยดที่นี่ จะนำแผงโซล่าเซลล์อาศัยพลังแสงอาทิตย์เป็นตัวปั้มน้ำส่งเข้าสู่ระบบน้ำหยด ช่วยลดต้นทุนอีกทางหนึ่ง ตอนนี้ยังไม่ได้เก็บผลผลิตยังไม่เห็นความแตกต่าง แต่แม้ว่าถ้าได้ผลผลิต 3 ตันเท่าเดิม แต่ต้นทุนลดลงจากการปรับปรุงบำรุงดิน ใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ใช้พันธุ์ที่เหมาะสม ก็น่าจะทำให้มีรายได้ของเกษตรกรดีขึ้นจากเดิม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี