เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 มีนาคม พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานฝ่ายกฎหมายกองทัพภาคที่ 2 นายอรรถพล เจริญชันษา ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ และ พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เจ้าหน้าที่สำนักที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เดินทางเข้าตรวจสอบสนามแข่งรถอินเตอร์เนชั่นเนล โบนันซ่า สปีดเวย์ (International Bonanza Speed Way) ซึ่งตั้งอยู่ภายในโครงการโบนันซ่า หมู่ 11 บ้านโบนันซ่า ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านให้ตรวจสอบว่า มีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า เขานกยูง เขาอ่างหิน ซึ่งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่หรือไม่
พ.ต.อ.ดุษฎี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ที่ดินในส่วนของสนามแข่งรถมีหลักฐาน น.ส.3 ก. รวม 5 แปลง พื้นที่ 47 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมด 151 ไร่ ส่วนที่เหลืออีกกว่า 100 ไร่ เข้าข้ายเป็นพื้นที่ของป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวอีกว่า พื้นที่ในบริเวณดังกล่าว แต่เดิมมีการประกาศเป็นพื้นที่ป่าถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี พ.ศ.2506 ต่อมาปี พ.ศ.2509 มีการออกกฎกระทรวงประกาศให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ในส่วนของป่าไม้ถาวร และ ในปี 2519 กรมที่ดินได้เข้าไปเดินสำรวจออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในเขตป่าไม้ถาวร และป่าสงวนแห่งขาติป่าเขาเสียดอ้า ซึ่งตามประกฎหมายที่ดินห้ามมิให้เดินสำรวจออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
ต่อมาปี พ.ศ.2536 กรมป่าไม้ยกที่บางส่วนให้ สปก. นำไปจัดให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ทำกิน แต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะกรมที่ดินนำไปออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก.แล้ว จากนั้นในปี 2549 มีการเดินสำรวจออกเอกสารสิทธิ์โฉนดที่ดินในเขตป่าไม้ถาวร จึงมีการนำ น.ส.3ก. ซึ่งเคยเดินสำรวจออกเมื่อปี พ.ศ.2519 มาขอออกโฉนดที่ดินอีกรอบหนึ่ง
พ.ต.อ.ดุษฏี กล่าวอีกว่า จากการสำรวจครั้งนี้ค่อนข้างชัดเจนว่า พื้นที่ของ สนามแข่งรถอินเตอร์เนชั่นเนล โบนันซ่า สปีดเวย์ ส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า และอยู่ในเขตป่าไม้ถาวร มีการสร้างทับทางสาธารณประโยชน์และลำรางสาธารณะ โดยส่วนที่มีการบุกรุกได้มอบหมายให้กรมป่าไม้ ซึ่งเป็นผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีข้อหากระทำความผิดตาม ม.14 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ปี 2507 ฐานบุกรุกแผ้วถางก่อสร้าง ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มีโทษจำคุก 20 ปี ปรับ 150,000 บาท/ไร่ และจะต้องทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด พร้อมดำเนินคดีทางแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายต่อไป
ส่วนเอกสารสิทธิ์ที่มีการออก น.ส. 3 ก. เมื่อปี พ.ศ.2519 ได้มอบหมายให้สำนักงาน ป.ป.ท.ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ และทำการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว นอกจากนี้จะได้ทำการตรวจสอบสนามกอล์ฟ หมู่บ้านจัดสรร สวนสัตว์ ภายในโครงการว่ามีการบุกรุกด้วยหรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นการออกเอกสารสิทธิ์ น.ส. 3 ก. เมื่อปี 2519 และนำมาออกโฉนดที่ดินในภายหลัง ซึ่งจะส่งเรื่องให้สำนักงาน ป.ป.ท. ดำเนินการ และหากพบว่าผิดจริง จะต้องมีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ร่วมกับนายทุนออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ดังกล่าวทั้งหมด และเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ทั้งหมดที่ออกไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ด้าน พ.อ.สมหมาย กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า พื้นที่หลายส่วนของโครงการโบนันซ่า อาจรุกล้ำพื้นที่ป่า นอกจากนี้ยังมีการจัดคอนเสิรต์ 2-3 ครั้งต่อปี ซึ่งส่งผลกระทบระบบนิเวศน์วิทยา ซึ่ง อบต.ขนงพระ จะต้องรับไปดำเนินการตามกฎหมายทันที อย่างไรก็ตาม บริเวณ อ.ปากช่อง พบมีพื้นที่ถูกบุกรุกทั้งหมดประมาณ 1 แสนไร่ เป็นการบุกรุกโดยนายทุนรายใหญ่ เฉลี่ยรายละพันไร่
ด้าน นายคเชนทร์ ใยสุ่น ปลัด อบต.ขนงพระ อ.ปากช่อง กล่าวว่า การก่อสร้างสนามแข่งรถของบริษัท ไม่ได้มีการขออนุญาต ในส่วนตัวอาคาร ทาง อบต.จะขอเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง
นายสิรภพ ดอนดี หัวหน้าสวนป่าปากช่อง กล่าวว่า เมื่อหลายปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เคยเข้ามาตรวจสอบ พบว่า มีการก่อสร้างสนามแข่งรถล้ำเข้าไปในแนวเขตของสวนป่าปากช่องกว่า 10 ไร่ แต่ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้เมื่อพบความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ ชัดเจน ก็จะเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางบริษัท อย่างไรก็ตาม นายสิรภพ ไม่ยอมชี้แจงเหตุผลว่า เหตุใดสวนป่าปากช่อง จึงละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กฎหมาย ทั้งที่พบความผิดชัดเจน
น.ส.พัทธมน เตชะณรงค์ เจ้าของโครงการโบนันซ่า กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวมีชาวบ้านมาขายให้กับพ่อของตน ส่วนตนมารับบริหารต่อในรุ่น 2 ไม่ทราบว่า มีเอกสารสิทธิ์หรือไม่ เนื่องจากข้อมูลต่างๆ อยู่สำนักงานที่ดินที่กรุงเทพฯ แต่หากเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและพบว่ามีการรุกล้ำเข้าไปในเขตป่าสงวนฯ ตนพร้อมและยินดีที่จะส่งคืนให้กับทางรัฐ เพราะไม่มีเจตนาที่จะกระทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้เมื่อ 3 ปีก่อนครอบครัวของตนได้เข้ามาพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นสนามแข่งรถและพื้นที่จัดงานคอนเสิร์ต ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาแจ้งให้ทราบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมให้ตรวจสอบทุกพื้นที่ทั้งหมดของโบนันซ่า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี