1 เม.ย.58 วันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าตรวจสอบบ้าน ของนายยม จู๋ยืนยง อายุ 76 ปีบ้านเลขที่47หมู่ 2 ต.ท่ากระชับ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ที่พักอาศัยอยู่กับภรรยา น.ส.ซกกี จู๋ยืนยง อายุ 83 ปีที่อยู่เดียวกันแต่ น.ส.ซกกีเสียชีวิตตั้งแต่ 17 มิ.ย. 57 ที่ผ่านมา โดยที่ ลุงยมได้เก็บร่างภรรยาไว้บนที่นอนเป็นเวลากว่า 10 เดือนจนเหลือแต่โครงกระดูกมีผ้าห่มปิดอยู่เท่านั้นโดยที่ลุงยมก็นอนอยู่ด้วยกันตั้งแต่ภรรยาเสียชีวิตไป
จนมาเมื่อวันที่ 30 มี.ค.58 ที่ผ่านมา ข้างบ้านของลุงยมได้กลิ่นเหม็น จึงได้ไปแจ้งให้ทาง อบต.มาตรวจสอบ จากนั้น นายณรงค์ชัย คงยั่งยืน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ท่ากระชับ มาตรวจดูก็พบว่า ลุงยมได้เก็บศพภรรยาคนเองไว้ในบ้านและไม่ยอมให้ใครเข้าไปใกล้ศพอีกด้วย และบอกอย่างเดียวว่า ไม่ต้องการนำศพเมียตนเองไปเผาหรือทำพิธีแต่อย่างใด จนต้องคุยกับลุงยมหลายรอบจึงยอมให้นำศพใส่โลงและมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ในวันที่ 5 เม.ย.58 ที่จะถึงนี้ เป็นคืนแรก เป็นเวลา3คืน จากนั้นลุงยมก็จะเก็บศพภรรยาตนเองไว้ที่บ้านหลังดังกล่าวต่อไป
นายวัชรินทร์ รัตนบรรณกิจ นายอำเภอนครชัยศรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้กลิ่นศพ เมื่อเข้าไปตรวจสอบ พบศพผู้เสียชีวิตสภาพเหลือแต่กระดูก ห่อด้วยผ้าห่มสีแดง และมีมุ้งครอบศพไว้ อยู่ภายในบ้านนานกว่า 10 เดือน ในบ้าน จึงได้สั่งการให้ นายจักรกฤษณ์ ไขว้พันธุ์ ปลัดอำเภอนครชัยศรี พร้อมกับผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรีเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นยกพื้น บริเวณบ้านเต็มไปด้วยขวดพลาสติก ขวดแก้ว และวัสดุเหลือใช้ พอเข้าไปตรวจสอบถึงกับผงะ เพราะด้านบนพบศพ น.ส.ซกกี อายุ 81 ปี สภาพศพแห้งเหลือแต่โครงกระดูก มีกลิ่นสาบ คลุมด้วยผ้าห่มสีแดง และกางมุ้งครอบไว้อีกที จากการสอบถามทราบว่า บ้านหลังดังกล่าว ผู้ตายอาศัยอยู่กับสามี นายยม อายุ 76 ปี เพียงลำพัง โดยลูกชายไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด ครอบครัวมีฐานะยากจน ต้องรับจ้างเก็บของเก่าประทังชีวิต และจากการสอบถาม นายยม ทราบว่า ภรรยาเสียชีวิตด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.57 ที่บ้านหลังดังกล่าว โดยภรรยาได้สั่งเสียไว้ให้เก็บศพไว้ที่บ้าน ประกอบกับฐานะที่ยากจน จึงไม่ได้นำศพมาบำเพ็ญกุศล และไม่มีการแจ้งกับผู้ปกครองท้องถิ่นแต่อย่างใด และนายยมได้นอนข้างศพภรรยาทุกวัน
นายยม จู๋ยืนยง กล่าวว่า ภรรยาของตนเองป่วยเป็นโรคความดันมานานหลายปี และเมื่อปีที่ผ่านมา เมียของลุงก็ได้เสียชีวิต และลูกชายคนเดียวก็ไปมีครอบครัวที่ต่างจังหวัด ตนเองก็ใช้ชีวิตอยู่กับภรรยา มานานกว่า 40 ปี จึงไม่อยากที่จะพรากจากกัน จึงได้เก็บศพไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว โดยไม่บอกให้ใครๆได้รู้เลย เพราะตั้งใจว่าเราจะอยู่ด้วยกันอย่างนี้ไปจนวันตาย
ลุงยม ยังบอกอีกว่า ตั้งแต่ภรรยาเสียชีวิต ตนเองเศร้าเสียใจจนถึงทุกวันนี้ พอมองศพภรรยา เป็นน้ำตาไหลทุกครั้ง และรู้สึกว่าเมียตัวเองยังอยู่กับตนเอง ถึงทุกวันนี้ไม่ได้จากกันไปไหนเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี