นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประเด็นที่ห่วงใยและต้องเร่งดำเนินการอยู่ 3 ด้านหลักเนื่องจากเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร ได้แก่ 1.หนี้สินครัวเรือนของเกษตรกร เนื่องจากพบว่าอัตราหนี้สินของเกษตรกรสะสมสูงขึ้น ทำให้เงินออมของเกษตรกรหลังชำระหนี้สินลดลง ดังนั้นกระทรวงเกษตรฯกำลังเร่งพิจารณานโยบายลดหนี้สินเกษตรกรที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงเกษตรฯ อีกส่วน คือ หนี้ครัวเรือนสะสม มีความจำเป็นต้องดูว่ารายได้ เงินรายได้สุทธิเกษตรกร จะพอเพียงจะจ่ายหนี้ครัวเรือนที่เกิดขึ้นในปีนี้หรือไม่ จะแบ่งจ่ายปีนี้เท่าไหร่ เพื่อไม่ให้หนี้สินเพิ่มขึ้น
2.ราคาสินค้าที่ผู้บริโภคต้องจ่ายกับราคาหน้าฟาร์มที่เกษตรกรขายได้ มีช่องว่างมากขึ้นเรื่อย ซึ่งแต่เดิมช่องว่างเรื่องราคาเกิดจากปัจจัยราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อระบบการขนส่งหรือโลจิสติกส์ที่มีต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันลดลงก็ไม่ได้ทำให้ช่องว่างของราคาลดลงแต่อย่างใด ดังนั้นต้องไปศึกษาหรือพัฒนาเกษตรกรผู้ผลิตให้สามารถเชื่อมโยงกับผู้บริโภค หรือนำผู้ผลิตเข้ามาสู่ห่วงโซ่อุปทานโดยตรงมากขึ้น จะได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรมมากขึ้นและผู้บริโภคก็ได้รับสินค้าในราคายุติธรรมด้วย
3.การจัดการทรัพยากรโดยเฉพาะเรื่องน้ำ โครงการชลประทานขนาดเล็ก ที่เป็นภารกิจถ่ายโอนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ต่ำกว่า 6,000 โครงการ ซึ่งหลายแห่งยังขาดการนำมาใช้ประโยชน์ หากมีการนำกลับมาพัฒนาให้เป็นแหล่งน้ำนอกเขตชลประทาน ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์มากขึ้น
ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) จำเป็นต้องเร่งดำเนินการวิเคราะห์แนวโน้มการผลิต การตลาด รวมทั้งข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องให้รอบด้าน รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น โดยเฉพาะนโยบายด้านหนี้สิน โลจิสติกส์ที่มีผลต่อราคาที่มีแนวโน้มไม่สอดคล้องกัน และการพัฒนาแหล่งน้ำนอกเขตชลประทาน
นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ เลขาธิการ สศก. กล่าวว่า ตามที่กระทรวงเกษตรฯ มอบหมายให้ดูแลติดตามนโยบายด้านต่างๆ สศก.ได้เร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะระบบโลจิสติกส์ ซึ่งได้กำหนดยุทธศาสตร์พัฒนาระบบโลจิสติกส์การเกษตร ปี 2556-2559 เน้นไปที่สินค้าเกษตรสำคัญ 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ทุเรียนและหน่อไม้ฝรั่ง โดยให้ครอบคลุมทั้ง 3 มิติ ได้แก่ มิติต้นทุน มิติเวลาและมิติความน่าเชื่อถือ ขณะนี้ยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้ผ่านคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ (กบส.) และจะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี