ยึดคลังยาบ้ากลางกรุง
2ล้านเม็ด-ไอซ์อีก14กิโลฯ
เครือข่ายใหญ่ขนจากพม่า
ขยายผลตามจับเรียบ8ราย
เมื่อวันที่ 15 เมษายน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.ปส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา 7 ราย ประกอบด้วย 1.นายมาฟี สุริวงษ์ (บังฟี) อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 447 ซ.ลาดพร้าว 112 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. 2.นายสักครินทร์ แก้วอำไพ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ที่ 6 ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 3.นายวิรัช บุญรอด อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/5 หมู่ที่ 1 ต.บางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 4.นายประจง เผือกนาง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ที่ 2 ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 5.นายพัฒนา เข็มเงิน อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/144 หมู่ที่ 1 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 6.นายเถลิงศักดิ์ รุ่มจิตร อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ที่ 10 ต.ย่านยาว อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี 7.นางซินมีซอ มะนอ อายุ 35 ปี สัญชาติพม่า 8.นางตินตินยอ อายุ 57 ปี สัญชาติพม่า
พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 150 มัด หรือประมาณ 300,000 เม็ด โดยพบในกระโปรงท้ายรถเก๋ง โตโยต้าวีออส ทะเบียน ษง 2675 กรุงเทพฯ ของ นายมาฟี ขณะเตรียมส่งมอบให้ นายสักครินทร์ และ นายวิรัช ก่อนขยายผลยึดยาบ้า จำนวน 269 มัด ประมาณ 538,000 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 5 ก้อน น้ำหนักรวมประมาณ 3.8 กิโลกรัม ซุกซ่อนในบ้านเลขที่ 70/208 หมู่บ้านมัณทิรา ซ.เคหะร่มเกล้า 78 แขวงและเขตสะพานสูง กทม. ซึ่งเป็นบ้านเช่าหลังที่ 1 ของ นายมาฟี
ยาบ้าจำนวน 734 มัด ประมาณ 1,468,000 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 11 ก้อน น้ำหนัก 11 กิโลกกรัม แยกซ่อนในบ้านเลขที่ 63/2147 หมู่บ้านเคหะธานี 4 แขวงและเขตสะพานสูง กทม. ซึ่งบ้านเช่าหลังที่ 2 ของ นายมาฟี รวมของกลางทั้งหมด เป็นยาบ้า 1,153 มัด ประมาณ 2,306,000 เม็ด และยาไอซ์ 14.8 กิโลกรัม
นอกจากนี้ยังยึดอาวุธปืนขนาด 9 มม.ไม่มีหมายเลขทะเบียน พร้อมซองกระสุน บรรจุลูกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 7 นัด รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีน้ำตาล ทะเบียน ษง 2675 กทม. รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า โคโรน่า สีเทา ทะเบียน 4ษ 4013 กทม. รถยนต์ตู้ โปรตรอน สีขาว ทะเบียน ฮภ-6251 กทม. จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ รวม 10 เครื่อง
พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 ได้รับแจ้งจากสายลับว่า กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่เครือข่าย นายประจง ผู้ต้องหารายที่ 4 จะติดต่อรับยาเสพติดจำนวนมากจากนายทุนชาวพม่าเพื่อลักลอบลำเลียงจากภาคเหนือเข้ามาซ่อนไว้ในเขตกทม.และปริมณฑล เพื่อรอจำหน่ายให้ลูกค้า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดย นายประจง เป็นคนสั่งการและมอบหมายให้ นายพัฒนา ผู้ต้องหารายที่ 5 ดูแลรับผิดชอบเรื่องเงิน พร้อมกับการประสานเรื่องการส่งมอบยาเสพติด ส่วน นายมาฟี เป็นเพื่อนร่วมขบวนการคอยรับยาเสพติดไปซ่อนไว้ตามบ้านที่เช่า และคอยส่งมอบให้ลูกค้าตามคำสั่งของ นายประจง จนกระทั่งเวลา 05.00 น. วันที่ 12 เมษายน เจ้าหน้าที่ได้ติดตามตรวจสอบจนพบ นายมาฟี ขับรถยนต์โตโยต้า วีออส ทะเบียน ษง-2675 กรุงเทพ ลักษณะมีพิรุธจึงตัดสินใจขอเข้าตรวจค้น กระทั่งพบยาบ้าจำนวน 150 มัด ประมาณ 300,000 เม็ด ในรถดังกล่าว จึงควบคุมตัว นายมาฟี มาสอบสวนก่อนให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังออกตามจับกุม นายประจง ได้ที่ จ.เชียงราย และจับกุม นายพัฒนา ได้ที่อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อนสอบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้ทั้ง 8 รายพร้อมของกลางดังกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา นายมาฟี นายสักรินทร์ นายวิรัช นายประจง นายพัฒนา และ นายเถลิงศักดิ์ ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 ยาบ้า ยาไอซ์ ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังแจ้งข้อหาครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยผิดกฎหมายแก่ นายมาฟี เพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา ส่วน นางซินมีซอ มะนอ นางตินตินยอ ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 ยาไอซ์ ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย โดยจะนำตัวทั้งหมดไปดำเนินคดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี