เกษตรบูรณาการวันนี้ เป็นสัปดาห์แรกที่มีการทำงานอย่างเป็นทางการ หลังจากที่หยุดยาวในเทศการสงกรานต์ ปีใหม่ไทยมาหมาดๆ วันหยุดยาวที่หลายคน ได้มีโอกาสกลับไปรดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ตามประเพณีไทย ที่ถือสืบทอดกันมายาวนาน ขณะเดียวกันวันหยุดยาว หลายคนก็น่าจะใช้เวลา นั่งทบทวน ตัวเองเช่นเดียวกันว่าที่ท่านๆทั้งหลายที่เป็นผู้ใหญ่ ที่เด็กๆ ลูกๆ หลานๆ มาขอพรแล้ว ท่านให้พรเขาเหล่านั้นอย่างไร
แต่ที่แน่ๆ คนกระทรวงเกษตรฯ เขาอยากให้ท่านผู้ใหญ่ในกระทรวงเกษตรฯทั้งหลายเดินหน้าแก้ปัญหาทางด้านการเกษตรให้ถูกที่ถูกทาง อย่าลูบหน้าปะจมูก ถือว่าธุระตัวเองไม่ใช่ ปล่อยให้กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้าพัฒนาล้าหลังไม่ไปถึงไหน โดยเฉพาะปัญหาที่แถลงนโยบายเอาไว้ ก็ยังไม่ชัดเจน ทั้งเรื่องการแก้ปัญหาสินค้าเกษตร อย่างยางพารา มัน ข้าว วันนี้ต้องบอกตรงๆว่า ยังคือเก่า ไม่คืบหน้า ทั้งที่ งบประมาณ ที่ละเลงไปหลายพันล้านบาท มันชั่งน่าละอา ส่วนเรื่องปัญหาที่ดินก็เช่นกันวันนี้ ก็เพียงเห็นการ เริ่มต้น จากที่งมโข่งกันมานาน โดยเฉพาะเรื่องของการตรวจสอบว่ามีการเปลี่ยนมือถือครอง ในพื้นที่ ส.ป.ก. จากเกษตรกรที่ได้รับแจกเป็นของคนอื่นถึงวันนี้ คนที่ยังยืนยันว่า ไม่จริงเห็นจะมีเฉพาะผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ บางคนและข้าราชการของ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. เท่านั้นที่บอกไม่มีหรอกส่วนคนทั้งประเทศ เขาทราบ!!!
จากนี้ไปอยากเห็นการเดินหน้าว่าจะจริงใจแค่ไหนกับการแก้ปัญหา เพราะที่ ส.ป.ก. ไม่ใช่เฉพาะ ที่จังหวัดนครราชสีมาที่มันมีข่าวขึ้นมา แต่มีกันทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่จังหวัดฉะเชิงเทรา แว่วว่ามีบุคคลรายเดียวครอบครองเป็นแสนไร่ ไม่รู้ ส.ป.ก. ใจดี หรืออย่างไร ให้เขาคนนั้นครอบครองมาหลายปี ส่วนของใคร ไปตามกันดู เพราะเห็นบอกว่า หลายเลขาธิการฯ ส.ป.ก. ก็ ทำอะไรไม่ได้ อยากรู้ชื่อท่านเกษตรกรผู้นั้นจริงๆ ลองไปถามดูครับ เอากันให้ชัดเจนว่า ณ เวลานี้ หากยอมรับความเป็นจริงเสียทีว่าเกตษรกรบางรายเขาขายแล้วเปลี่ยนมือกันไปแล้วจริง เพียงแต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจ เขาให้เจ้าของเดิมมาแสดงสิทธิ์แทนเท่านั้นเอง และที่ร้ายไปกว่านั้น บางพื้นที่ยังมีการนำไปออก นส.3 ด้วย อันนี้ก็ไม่ทราบว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ที่แน่ๆ มีกันแล้ว ที่นคราชสีมาตามที่เป็นข่าวกันหละครับ แล้วอย่างนี้ท่านๆ คงเข้าใจตรงกันนะขอรับว่า ทุกอย่างคือความจริงไม่ใช่มโน เพราะคนให้ข่าวคือคนกระทรวงเกษตรฯทั้งหมด ส่วนคนออก นส.3 มันมายังไง คงต้อง ไปไล่บี้กันเอง
มาถึงอีกเรื่องที่ยังเป็นเรื่องร้อนที่น่าจับตามองจากนี้ไป คงไม่ใช่เรื่องใหม่หรอกครับ แต่เป็นเรื่องเก่า ที่ไม่ยอมคิดแก้ปัญหาให้ใหม่ขึ้น เพราะมีแต่พวกเก่าๆ มาแก้ปัญหา จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากเรื่องปัญหายางพารา เพราะใกล้ถึงฤดูการเปิดกีดยางเข้ามาเต็มทีในเดือนพฤษภาคม วันนี้ยางใสต๊อกยังส่งออก ไม่ได้ตามสัญญา ไม่รู้ไปติดที่อะไร ส่วนเรื่องของโครงการมูลภัณฑ์กันชนเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางวันนี้ได้เห็นแล้วว่า เจ๊งไม่เป็นท่า ที่ท่านรัฐมนตรีที่ดูแลว่าเลิศนักหนาซื้อนำราคา เพียงร้อยละ 10 ให้เอกชนซื้อตาม วันนี้ได้ผลจริงๆครับท่านรัฐมนตรี เอกชนเขาตามท่านๆจริงๆตามมาขายยางในตลาดกลางกันหมด ไม่ต้องส่งออกเอง ง่ายดี รวยๆๆๆๆกันทั้งประเทศเลย พ่อค้ายาง ดีใจด้วยจริงๆ ส่วนคนที่ยังซวยๆๆๆๆๆๆ คือเกษตรกรเช่นเดิม แล้วอยากรู้จริงๆว่า คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่เขาไปสอบมันเป็นอย่างไร ถ้าอย่างไร ท่านๆรัฐมนตรี ช่วยแถลงผลสอบที อย่าอ้ำอึ้ง ให้คนสงสัยกันเลย
มาถึงเรื่องสุดท้าย สัปดาห์นี้คงหนีไม่พ้น เรื่องนโยบายท่านรัฐมนตรี ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ที่ท่านต้องการส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น จากความตั้งใจในการปลูกผักปลอดสารพิษ รวมไปถึง สินค้าเกษตรอินทรีย์ ซึ่งความตั้งใจเท่าที่สดับรับฟัง สรุปใจความสั้นๆว่าอยากให้มีตลาดทางเลือก เล็กๆรองรับสินค้าเกษตรดังกล่าว ให้มีช่องทางขายให้แยกสินค้าออกมา โดดเด่นชัดเจน ไม่ปะปนกับสินค้าที่ปลูกทั่วไป ให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อ ส่วนเรื่องการใช้สารเคมีนั้น ท่านย้ำว่า ให้ใช้ตามความจำเป็น และที่สำคัญต้องไม่ตกค้างอย่างเด็ดขาดในพืชผักที่นำมาจำหน่าย และหากเป็นไปได้ อยากให้ปลูกพืชผักอินทรีย์ และปลอดสารเคมี เพราะผู้บริโภคปรารถนาจำนวนมากเท่านั้นเอง จึงอยากให้มีการจัดตลาดเล็กๆให้กับเกษตรกรที่ตั้งใจผลิตสินค้าที่ว่ามาทั้งหมด มีพื้นที่เฉพาะ ได้ขาย เอาเป็นว่าเข้าใจตรงกันนะขอรับ ท่านข้าราชการทั้งหลาย ทราบแล้วปฏิบัติ ว่าแต่ท่านครับ เห็นท่าน ทั้งเขียนทั้งพูดมาหลายเดือน แต่ยังไม่เข้าใจจะเอาอย่างไงต่อ เพราะแม้แต่ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ หรือ มกอช. ยังไม่เข้าใจ เพราะวันนี้ ไทยแพน ยังสุ่มตรวจสินพิษตกค้างในพืชผัก ที่จำหน่ายในท้องตลาด พบมากถึงร้อยละ 24 แต่ มกอช. กับมาบอกไม่จริง มันมีแค่ ร้อยละ 18 เท่านั้นเอง ชัดขนาดนี้แล้วจะให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นอย่างไร ยังไง สางปัญหาสารพิษตกค้างใน มกอช. ก่อนไหมครับท่าน เผื่ออะไรจะดีขึ้น สวัสดี...
ดอกปีบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี