ภาวะอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน ทำให้มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ยังทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุดทำลายสถิติปี 2557 ที่ผ่านมา นายทวารัฐ สูตะบุตร รองปลัดกระทรวงพลังงานเปิดเผยเมื่อวันที่ 21 เมษายนว่า กระทรวงพลังงานได้รับรายงานจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ถึงสถานการณ์ใช้ไฟฟ้าสูงสุดหรือพีค(Peak) ของประเทศไทย ที่ล่าสุดสร้างสถิติใหม่มีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 27,139 เมกะวัตต์เมื่อเวลา 14.13 น. ทำลายสถิติพีคเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ระดับ 27,056.8 เมกะวัตต์ อีกทั้ง ถือเป็นการทำลายสถิติพีคของปี 2557 ที่ระดับ 26,942.1 เมกะวัตต์ โดยสถิติพีคใหม่ที่เกิดขึ้นวันนี้ มาจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว อุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 38.3 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานคาดว่ามีโอกาสที่ประเทศไทยจะได้สร้างสถิติพีคของปีนี้อีกหลายครั้ง ถ้าสภาพอากาศยังร้อนอบอ้าว มีแนวโน้มอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การใช้พลังงานเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
4จว.อีสานใช้ไฟพุ่งพันเมกกะวัตต์
เช่นเดียวกับ 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์จากสภาพอากาศร้อนจัดอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยสูงกว่าวันละ 1,000 เมกะวัตต์ โดยนายประกาญจน์ วงศ์พุฒิ ผู้อำนวยการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 3 เผยว่า ข้อมูลการใช้ไฟฟ้าใน 4 จังหวัด ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนเป็นต้นมามีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยมากกว่าวันละ 1,000 เมกกะวัตต์ ซึ่งปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด 60% อยู่ในจ.นครราชสีมา จากการตรวจสอบล่าสุดเมื่อวันที่ 19 เมษายนมีปริมาณการใช้ไฟฟ้า 1,102 เมกกะวัตต์ แต่ปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้าสูงสุดของเดือนเมษายนที่ผ่านมาคือ วันที่10 เมษายนมีปริมาณการใช้ไฟฟ้ารวมสูงถึง 1,245 เมกกะวัตต์ สาเหตุมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดมากว่าปีที่ผ่านมา
เลยทะลุ42องศาสูงสุดรอบ56ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพอากาศจากจ.เลย เมื่อเวลา 12.00 น.วันเดียวกันนี้ว่า อากาศยังร้อนจัดต่อเนื่อง วัดอุณหภูมิได้ 42.4 องศาฯ ถือว่าสูงสุดในรอบ 56 ปีที่ผ่านมา ที่อ.เมืองเลย ส่วนอำเภอต่างๆอุณภูมิอยู่ที่ 39-42 องศาฯ เช่น อ.ด่านซ้าย 40 องศาฯ อ.เชียงคาน 40 องศาฯ และอุณหภูมิต่ำสุดยอดภูวัดได้ที่อ.ภูกระดึง 18 องศาฯ
นายประมวล ลาภจิตต์ ปภ.จ.เลยเปิดเผยว่า ช่วงนี้อุณหภูมิในจ.เลย สูงขึ้นเป็น 42.4 องศาฯ ถือว่าร้อนที่สุดในรอบ 56 ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่ถือว่าร้อนที่สุด เมื่อปี 2501 วัดอุณหภูมิได้ 43.1 องศาฯ อย่างไรก็ตาม แม้จังหวัดยังไม่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยแล้ง แต่ปภ.เร่งจัดหาน้ำดื่มเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน พร้อมประกาศเตือนเรื่องพายุฝนฟ้าคะนองและลูกเห็บตกระหว่างวันที่ 21-24 เมษายนนี้
ร้อนจัดช่างเดินสายไฟดับคาห้อง
ส่วนที่จ.อ่างทอง ร.ต.ท.จักรกรี พันเอ็ด ร้อยเวรฯสภ.เมืองอ่างทอง รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตในห้องเช่าแสงทับทอง หมู่ 3 ต.ป่างิ้ว อ.เมืองอ่างทอง ทราบชื่อคือ นายแสงสุริยา กาสีคูณ อายุ 42 ปี ชาวสกลนคร สอบสวนนายสาคร อินทวงศ์ อายุ 42 ปี เพื่อนผู้ตายทราบว่า ตนและผู้ตายมารับจ้างเดินสายไฟฟ้าในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าอ.ไชโย หลังเลิกงานก็มาอาศัยเพื่อนคนงานนอนพักในห้องดังกล่าว ก่อนเข้านอนตนสังเกตเห็นผู้ตายมีอาการกระสับกระส่าย พร้อมบ่นว่าร้อนมาก จนตอนเช้าพบว่าเสียชีวิตแล้ว สาเหตุน่าจะมาจากอากาศร้อนจัด เพราะตอนทำงานที่โรงไฟฟ้าอยู่กลางแจ้ง ผู้ตายบ่นตลอดว่าร้อน แต่ก็ทนทำงานจนเลิกเวลา 20.00 น. สำหรับผู้ตายไม่มีโรคประจำตัวและไม่ได้ดื่มเหล้า เจ้าหน้าที่นำศพส่งสถาบันนิติเวชพิสูจน์สาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป
แม่เฒ่าเป็นลมช็อคตายคาสวน
เช่นเดียวกับ ที่จ.ชัยนาท ร.ต.ท.วิโชคชัย อ่อนละมัย ร้อยเวร สภ.สรรคบุรีรับแจ้งผู้เสียชีวิตในสวนบ้านเลขที่ 328 ซ.สรรคบุรี 7 ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี ทราบชื่อคือ นางยุกมุ้ย แซ่ตัน อายุ 69 ปี สภาพศพขึ้นอืดคาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 72 ชั่วโมง ผลชันสูตรไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย สอบสวนเพื่อนบ้านทราบว่า นางยุกมุ้ย มีอาชีพขายของในตลาด อาศัยอยู่ในบ้านตามลำพังและมีโรคประจำตัวผู้สูงอายุ หน้ามืดเป็นลมบ่อย ก่อนมาพบศพเพื่อนบ้านไม่เห็นนางยุกมุ้ยไปขายของที่ตลาด2วันจึงมาหาที่บ้านจนพบศพ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าอากาศร้อนจัดอุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง40 องศาเซลเซียส คงทำให้นางยุกมุ้ยที่ออกมาขุดมันสำปะหลังกลางแดดเกิดเป็นลมเสียชีวิต
เตือน6กลุ่มเสี่ยงฮีทสโตก
มีคำเตือนจาก ดร.ทพ.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ว่า สภาพอากาศปีนี้ร้อนจัดกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้มีข่าวคนเป็นโรคลมแดด หรือฮีทสโตกมากขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่ที่อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาฯ หากร่างกายระบายความร้อนไม่ได้จะเกิดอาการปวดศีรษะ หน้ามืด เพ้อ ชัก หายใจเร็วและหัวใจเต้นผิดจังหวะจนช็อก สำหรับผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคลมแดดมี 6 กลุ่มคือ ผู้ที่ทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแดด เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบและผู้สูงอายุ ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง คนอ้วน ผู้ที่อดนอนพักผ่อนน้อย และผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์
ไฟไหม้บ่อขยะบางปลา
ขณะที่ที่อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เกิดเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะบางปลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจและทหารประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าดับไฟ สอบถามชาวบ้านทราบว่า บ่อขยะแห่งดังกล่าวปิดกิจการมากว่า 2 ปีแล้ว คาดว่าน่าจะเกิดจากความร้อนสะสมจึงเกิดไฟลุกไหม้ เหมือนที่เคยเกิดปี 2557 ที่ผ่านมา หลังควบคุมเพลิงได้แล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนำหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางอากาศ
ลพบุรีหนักสุดรอบ20ปีน้ำตกแห้ง
สำหรับสถานการณ์ภัยแล้งของจ.ลพบุรีเข้าสู่ภาวะวิกฤติในรอบกว่า 20 ปี ทำให้น้ำตกแห่งเดียวของจ.ลพบุรีคือ น้ำตกวังก้านเหลือง อ.ชัยบาดาล ที่เกิดจากน้ำผุดจาดใต้ดินแห้งขอด ส่งผลให้ปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำตกดังกล่าวตายลงจำนวนมาก จังหวัดเร่งประสานประมงจังหวัดจับปลาที่เหลือรอดไปอนุบาลไว้ รอจนกว่าจะเข้าฤดูฝน น้ำตกมีน้ำอีกครั้งก่อนนำปลากลับมาปล่อยคืนที่เดิม
แห่ขายโคกระบือหนีภัยแล้ง
ชาวบ้านจ.อุตรดิตถ์ตัดใจขายโคกระบือ เพราะประสบภัยแล้งอย่างหนัก โดยนายชาลี คำด้วง นายก อบต.ป่าคาย อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์เผยว่า ชาวบ้านที่เลี้ยงโคกระบือประมาณ 1,000 ครัวเรือนจำใจต้องขายสัตว์เลี้ยง เพื่อหนีภัยแล้ง เพราะไม่มีน้ำและหญ้าให้กิน ทำให้ปริมาณโคกระบือในจังหวัดกว่า 4,000 ตัวลดลงเหลือไม่ถึง 500 ตัว ถ้ายังแล้งจัดเช่นนี้ต่อไป สัตว์เลี้ยงอาจล้มตายหมด
หนีร้อนโรงเกลือยอดขายหด60%
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.สระแก้ว สภาพอากาศร้อนจัดส่งผลให้การค้าขายในตลาดโรงเกลือซบเซา สินค้าประเภทต่างๆขายไม่ได้ พ่อค้าแม่ค้าต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าลูกค้าหายไปจำนวนมาก พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้วเผยว่า สอบถามกรรมการหอการค้าจังหวัดสระแก้วพบว่า การค้าขายในตลาดโรงเกลือช่วงนี้ลดลงไปกว่า 60% นักท่องเที่ยวลดลงกว่า 50% ถ้าอากาศยังร้อนจัดแบบนี้เกรงว่าพ่อค้า แม่ค้าชาวกัมพูชา อาจปิดร้านค้าหนีกลับไปทำการค้าในฝั่งกัมพูชากันหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี