24 เม.ย.58 ตำรวจ ยกกำลัง ลงพื้นที่ ปัตตานี มีหลักฐานเชื่อมโยงมือระเบิด เป็นโจรใต้ ทั้งหมด เคยก่อเหตุระเบิด 30 จุด เมื่อปี 53 ชุดติดตามรถโจร ปวดหัว พบคน 3 จังหวัด ซื้อรถไม่มีการโอน พบว่า "ดีแม็กซ์" ที่ใช้ในการนำมือระเบิดกลับปัตตานี ซื้อเมื่อปี 51 ขายเปลี่ยนมือโดยไม่โอน 5 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ที่เป็นผู้รับผิดชอบคดี "คาร์บอมบ์" ที่ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล อ.เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี ได้นำภาพสเก็ตซ์ ของบุคคลที่สเก็ตซ์ตามการให้การของ พยาน ที่เห็นหน้าของ มือระเบิดคาร์บอมบ์ และเห็นหน้าของ คนร้ายที่ร่วมทีม ซึ่งเดินทางไปกับรถเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค มายังสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน จ.ปัตตานี เพื่อตรวจสอบภาพสเก็ตซ์ดังกล่าวกับภาพในแฟ้มประวัติอาชญากรรม ของผู้ก่อการร้ายใน จ.ปัตตานี ซึ่งมีแฟ้มประวัติ และมีภาพถ่าย เพื่อตรวจสอบว่า มีใครบ้างที่มีใบหน้าคล้ายกับภาพสเก็ตซ์ ตามคำบอกเล่าของพยานผู้เห็นหน้าของคนร้ายหรือผู้ต้องสงสัย ซึ่งผลจากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต่างไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
ซึ่งจากการตรวจสอบภาพในแฟ้มกลุ่มผู้ก่อการร้าย ขบวนการแบ่งแยกดินแดนครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ต้องการนำภาพที่สเก็ตซ์ไดไปเทียบเคียงกับภาพของ นายอัสมีน กาเต็มมาดี และนายฮากีม ดอเลาะ ซึ่งเป็น 2 ในกลุ่มของ แนวร่วม ขบวนการแบ่งแยกดินแดน ที่ก่อเหตุวางระเบิดใน อ.เมือง จ.ปัตตานี 32 จุด เมื่อ ปี พ.ศ.2556 ซึ่งมีหมายจับตาม พรก.แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี
โดย พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจ ผู้เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนหารถยนต์และคนร้าย ที่ก่อเหตุ คาร์บอมบ์ ที่เกาะสมุย ได้เปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า จากการตรวจสอบ วิธีการประกอบระเบิด และอุปกรณ์ ที่คนร้ายใช้ในการประกอบระเบิด พบว่าการประกอบระเบิดของ แนวร่วม ขบวนการแบ่งแยกดินแดน ที่ก่อคดีในพื้นที่ จ.ปัตตานี จึงมั่นใจว่าคนร้าย ทั้งหมด ที่อยู่เบื้องหลังการทำ”คาร์บอมบ์” ที่ห้างเซ็นทรัล เฟสติวึล เกาะสมุย เป็นทีมของ แนวร่วม จ.ปัตตานี ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่หลายส่วน ทั้ง ศชต. และ กองปราบ จากสอบสวนกลาง อยู่ระหว่างการลงพื้นที่ จ.ปัตตานี เพื่อหาจุดเชื่อมโยง และหาหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ และติดตามจับกุมคนร้าย
ในขณะที่ พ.ต.อ.ปพนวัฒน์ ขัตติยะวรานนท์ ผกก.สภ.ยะหา ได้เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ในส่วนของคดีการ ปล้นรถยนต์ยี่ห้อ มาสด้า ของ อบต.ละแอ อ.ยะหา ไปประกอบเป็น”คาร์บอมบ์” ที่ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล เกาะสมุยและมีการออกหมาย พรก.ฉุกเฉิน มีเพียง 2 คน คือ นายอับดุลราซะ ดูมีแด พนักงานขับรถของ อบต.ละแอ และนายอับดุลรอนิง ดือราแม พนักงานขับรถ สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.ปัตตานี ส่วนผู้ที่ยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่ กรมทหารพรานที่ 41 จ.ยะลา อีก 2 คน เพื่อเข้าสู่ขบวนการซักถามคือนาย ซาบีดิง ซาและดิง ซึ่งควบคุมตัวได้จากพื้นที่ ต.ปะแต เป็นคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.ปะแต อ.ยะหา จ.ยัลา และ นายคอศซาพี ดือเระ ซึ่งควบคุมตัวมาจาก จ.ปัตตานี ยังไม่ทราบว่า ผลการซักถาม จะเชื่อมโยงถึงนายอับดุลราซะ และนายอับดุลรอนิง หรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายว่า สำหรับนายซาบีดิง สามะบิง ครูอัตราจ้าง ร.ร.บ้านประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานีนั้น ในวันที่ 25 เม.ย.จะครบ 7 วัน ซึ่งหากการซักถามพบว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ”คาร์บอมบ์” และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ รถยนต์ ที่ใช้ประกอบคดี จะถูกปล่อยตัว แต่ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ไม่ว่าจะเป็นด้านใด ก็ต้องทำการขอหมายศาล เพื่อส่งตัวให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเข้าสู่ขบวนการ ซักถาม และสอบสวน ที่ ศูนย์ปฏิบัติการ ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้อีก 30 วัน
เจ้าหน้าที่ของศูนย์ซักถาม ได้ให้รายละเอียดว่าในส่วนของนายอับดุลรอนิง ดือราแม นั้น จากการซักถามเพิ่มเติม ได้ให้การเป็นประโยชน์ว่า เป็นผู้ที่ซื้อรถยนต์ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็กซ์ 4 ประตู มาจากเต็นท์รถจริง โดยซื้อมารตั้งปี 2551 และได้ขายไปนานแล้ว เพราะ ตนเองมีงานอดิเรก ในการซื้อขายรถ เมื่อนำมาใช้ และขายได้กำไร ก็ขายไป เพื่อหาซื้อรถยนต์คันใหม่ แต่เมื่อ เจ้าหน้าที่ติดตามไปสอบสวน ผู้ที่ซื้อรถไป พบว่า มีการขายต่อไปแล้ว จนถึงขณะนี้มีการขายไปแล้ว 5 ทอด และ เป็นการขายต่อ ที่ผู้ขายตอบไม่ได้ว่า สุดท้ายรถยนต์คันนี้ อยู่ในความครอบครองของใคร เนื่องจากทะเบียนรถยนต์ ยังเป็นชื่อของนายอับดุลรอนิง เพราะยังไม่ได้มีการโอนให้กับผู้ซื้อรายแรก แต่ผู้ซื้อได้ขายต่อ และมีการขายต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการโอนชื่อตามกฎหมาย
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า คนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นจำนวนมาก ที่ ซื้อ และ ขายรถ โดยไม่มีการโอนทะเบียนเป็นของตนเอง และผู้ที่ซื้อต่อ ก็ซื้อไปโดยไม่มีการโอนเช่นกัน ในขณะที่บางรายซื้อ-ขาย ด้วยการโอนลอยไว้ ส่วนผู้ซื้อจะขายต่อให้ใคร ค่อยดำเนินการกรอกชื่อในภายหลัง และมีเป็นจำนวนมาก ที่เจ้าของผ่อนไม่ไหว และขายให้ผู้ซื้อในราคาถูกๆ โดยไม่มีการโอน ซึ่งในการแกะรอยรถทั้ง 3 คัน สร้างความปวดหัวให้กับ เจ้าหน้าที่เป็นอย่างยิ่ง
ในขณะเดียวกัน ผู้ที่มีอาชีพ ขายรถมือสอง ในจังหวัดปัตตานี ต่างหวาดหลัว เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบ รถยนต์ที่ครอบครอง เนื่องจากมีผู้คนเป็นจำนวนมาก ที่มีอาชีพซื้อ-ขายรถยนต์มือ 2 โดยที่ไม่มีเต็นท์รถ แต่นำรถยนต์ 2-3 คัน มาจอดไว้ที่บ้าน เพื่อหาลูกค้า และรถยนต์เหล่านั่นส่วนหนึ่ง เป็นรถที่มีการ โอนลอย และบางส่วน หลักฐานยังอยู่ที่เจ้าของเดิม ซึ่งหากมีการตรวจค้น หรือตรวจสอบ จะต้องถูกดำเนินคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี