27 เม.ย.58 พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม รักษาการกรมทหารพรานที่ 41 ได้เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกออกหมายจับ 5 ราย ถูกควบคุมตัวมาทำการสอบสวน สืบสวนที่ ศูนย์ซักถาม กรมทหารพรานที่ 41 ไม่เป็นความจริงอย่างที่เป็นข่าว ขณะนี้มีผู้ที่ยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่ กรมทหารพรานที่ 41 คือ นายคอศซาฟี ดือเระ และนายมูหาหมัดยากี สาแหละ ซึ่งอยู่ในขบวนการซักถาม โดยทั้ง 2 ราย ยังให้การปฏิเสธ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุที่ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัส เกาะสมุย แต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากทั้งสองคนมีประวัติในการ ก่อเหตุหลายพื้นที่ ทั้งใน จ.ยะลา และ ปัตตานี
สำหรับ นายมูหาหมัดยากี นั้น เจ้าหน้าที่เคยจับกุมในข้อหา ร่วมกันฆ่าแล้วเผานายมนูญ ศรแก้ว ผอ.โรงเรียนในพื้นที่ อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อปี 2550 แต่ในกระบวนยุติธรรม ไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ จึงสู้คดีพ้นข้อหา ซึ่งจากการสืบสวนในเชิงลึก พบว่า มีความสัมพันกับกับนายอุบดุล สาแม หนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ถูกออกหมายจับ ซึ่งถูกระบุว่า เป็นมือประกอบระเบิดในครั้งนี้ โดยมีพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่า ระเบิดที่ใช้ในการทำเป็น "คาร์บอมบ์" ประกอบในพื้นที่ จ.ปัตตานี ไม่ได้มีการประกอบในระหว่างทาง ในเขต จ.นครศรีธรรมราช อย่างที่ เจ้าหน้าที่สันนิฐานในครั้งแรก
ในขณะที่ พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจ ซึ่งเป็นหน้าชุดในการสืบสวนหาคนร้ายและรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้พบรถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค ที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ทำให้การ ติดตามหารถยนต์ที่เหลืออีก 3 คัน คือ รถยนต์กระบะมิตซูมิชิ ไตรตัน รถยนต์กระบะอีซูซู ดีแม็กซ์ และรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค มีความแคบเข้า โดยขณะนี้รถยนต์ที่เหลืออีก 2 คัน อยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ สงขลา ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส ไม่จังหวัดใด ก็จังหวัดหนึ่ง ซึ่งได้มีการหาข่าวในเชิงลึก ของที่ซ่อน โดยเชื่อว่า มีการนำไปดัดแปลงในเรื่องของสี และทะเบียนปลอม ซึ่งได้มีการสั่งการให้จุดตรวจ ป้อมยาม ของเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ตรวจสอบอย่างเข้มงวดแล้ว
ในส่วนข้อสงสัยที่ทะเบียนปลอมของรถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค ที่พบที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ตรงกับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ของเจ้าของรถยนต์ในพื้นที่ อ.ป่าบอนนั้น พล.ต.ท.สุชาติ เปิดเผยว่า เป็นการตั้งข้อสงสัยว่า อาจจะมีเบื้องหลัง โดยมีคนในพื้นที่ จ.พัทลุง อยู่ในขบวนการก่อเหตุครั้งนี้ เพราะทะเบียนรถ ตรงกันทั้ง หมวดอักษร และตัวเลข ซึ่งไม่น่าเป็นการทำป้ายทะเบียนปลอมด้วยความบังเอิญ จึงได้ประสานงานกับ ชุดสืบสวนสอบสวนของ ภ.จว.พัทลุง ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง
สำหรับการสืบสวนในเชิงลึกของ หน่วยข่าวความมั่นคง ซึ่งได้มีการเดินทางไปพบกับ แกนนำ ขบวนการบีอาร์เอ็น ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยแกนนำของ ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็นโคออดิเนต ได้เปิดเผยกับ หน่วยงานความมั่นคงว่า ไม่ได้เป็นผู้สั่งการ ให้ แนวร่วม ที่อยู่ภายในการ สั่งการ ของ บีอาร์เอ็น ในต่างประเทศดำเนินการก่อเหตุที่เกาะสมุย เนื่องจาก บีอาร์เอ็น ได้มีการ รับปากกับ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ กองทัพไทย ที่เดินทางไปประสานงานกับ บีอาร์เอ็น ว่า ระหว่างที่มีการเตรียม พบปะพูดคุย 3 ฝ่าย ที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ บีอาร์เอ็น จะไม่ก่อเหตุกับ เป้าหมายที่เป็น พลเรือน และเป้าหมายอ่อนแอ โดยบีอาร์เอ็น เชื่อว่า เหตุที่เกาะสมุย เป็น ฝีมือของ แนวร่วม ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ ที่ก่อเหตุเพราะไม่ต้องการเห็นการ พูดคุยสันติสุข และต้องการดิสเครดิตของ แกนนำ บีอาร์เอ็น ในต่างประเทศ ที่มีการ พูดคุย กับ ตัวแทนของกองทัพ ให้เห็นว่า ไม่สามารถ สั่งการ แนวร่วม ในพื้นที่ให้หยุดก่อเหตุ ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับ ที่เคยเกิดขึ้น ในปี 2556 ที่มีการ พูดคุยสันติภาพ ที่ รัฐบาลชุดเก่า เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งระหว่างการพูดคุย กลุ่มที่ไม่เห็นด้วย ก็ก่อเหตุมากมาย เพื่อทำลายการเจรจา สันติภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงาน เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ที่ชุดสืบสวนของ พล.ต.ท.สุชาติ ทำการสรุปการสืบสวน เพื่อออกหมายจับ ไม่ว่าเป็นนายฮากิม ดอเลาะ นายอัสมิน กาเต็มมาดี นายมูหาหมัดยากี สาและ นายอับดุลเลาะ ซาและ ล้วนเป็น แนวร่วม สาย ฮาร์ดคอ ที่อยู่เหนือการสั่งการของ แกนนำ บีอาร์เอ็นในต่างประเทศ ที่ก่อเหตุครั้งใกญ่มาแล้วทั้งสิ้น
และเมื่อเวลา 16.30 น. ที่ ห้องสันติภาพ โรงแรมลีการ์เดนท์พล่าซ่า อ.หาดใหญ่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ได้เป็นประสานในการพบปะกับสมาชิก สมาคมปิยะมิตร ซึ่งเป็นกลุ่มอดีตโจรจีรคอมมิวนิสต์มาลายา ที่วางอาวุธมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เมื่อครั้งที่ พล.อ.ชวลิต เป็น ผบ.ทบ.โดยพล.อ.ชวลิต ได้กล่าวถึง การวางระเบิดที่เกาะสมุยว่า เจ้าหน้าที่ ทั้งกองทัพ และ ตำรวจ ต้องแสวงหาข้อเท็จจริง ว่าเป็นการกระทำของ คนกลุ่มไหน ตนเห็นว่าวันนี้ มีข่าวที่สับสน และ ใส่ร้ายป้ายสี โดยไม่มีข้อเท็จจริง แม้แต่ตนเอง ก็ถูก ใสร้ายป้ายสี ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นอย่างนี้หลายครั้ง และสุดท้ายก็ไม่เป็นความจริง สิ่งที่ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งดำเนินการสำหรับ คาร์บอมบ์ ที่เกาะสมุยคือ ถ้าเป็นการกระทำของ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน รัฐบาลข้องเร่งป้องกัน และต้องใช้การ เจรจา เพื่อทำความเข้าใจ และให้ยุติการ ก่อเหตุ อย่างที่ ตนเองเคยทำสำเร็จ ในการนำ โจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายา ให้วางอาวุธ และเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยมาแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี