28 เม.ย.58 เมื่อเวลา 14.30 น. นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง นายนเรศ ชมบุญ ผู้อำนวยการกลุ่มงานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า นายธนะบดี เอี่ยมสุขประเสริฐ หัวหน้าหน่วยปฎิบัติการพิเศษที่ 1 กาญจนบุรี ( สปป.ที่ 1 ภาคกลาง) พร้อมด้วย อ.ดร.น.สพ.มาโนชญ์ ยินดี ผอ.โรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่า ปศุปาลัน คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะสัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เดินทางไปที่วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยประชุมร่วมกับ นายศิริ หวังบุญเกิด ตัวแทนวัดป่าหลวงตามหาบัวฯ พ.ต.อ.ศุภิฎพงศ์ ภักดิ์จรุง รองประธานมูลนิธิวัดป่าฯ นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัวฯ พร้อมทีมสัตวแพทย์มูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัวฯ เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการสแกนไมโครชิพลูกเสือที่มีอยู่จำนวน 11 ตัว โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที จึงแล้วเสร็จ จากนั้น คณะทั้งหมดได้เดินทางไปที่เกาะเสือ เพื่อสแกนไมโครชิพทันที
อ.ดร.น.สพ.มาโนชญ์ ยินดี ผอ.โรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่า ปศุปาลัน คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ในส่วนของคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับการประสานจาก กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้เข้ามาร่วมตรวจสอบเสือเพิ่มอีกหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งเราก็ได้ปรึกษากับกรมอุทยานฯว่า ขอเข้ามาร่วมตรวจสอบในฐานะคนกลาง เพื่อที่จะได้ตรวจพิสูจน์ให้ได้ความจริงที่เที่ยงแท้แน่นอน และจะไม่ให้มีการบกพร่องในการตรวจสอบของแต่ละฝ่าย ที่ผ่านมาเราได้เข้ามาร่วมตรวจสอบประมาณสามครั้งแล้ว พบว่า มีเสืออยู่กลุ่มหนึ่งที่เป็นเสือกลุ่มใหญ่ที่สามารถสแกนไมโครชิพได้โดยไม่มีปัญหา
สำหรับการเข้ามาในวันนี้ ก็จะร่วมกันปฏิบัติอีกภารกิจหนึ่งคือตรวจกลุ่มของเสืออีกกลุ่มหนึ่งที่มีอยู่ประมาณ 20 ตัว ซึ่งเป็นกลุ่มเสือเล็กทั้งหมด ซึ่งเรามีโปรแกรมร่วมกันว่า จะเข้ามาฝังไมโครชิพ และกำหนดตั๋วรูปพรรณให้ถูกต้องเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งในทะเบียนจำนวนของเสือ และมีเสืออยู่อีกกลุ่งหนึ่งมีอยู่ประมาณ 12 ตัว เสือส่วนนี้เราได้สแกนไมโครชิพแล้วบางส่วนแต่บางส่วนเราไม่พบไมโครชิพ เนื่องจากการสแกนแต่ละครั้งเราจะต้องทำพร้อมกันในทุกพื้นที่ ซึ่งค่อนข้างกว้าง หากพบเสืออยู่ในสภาวะขัดขืนค่อนข้างจะอันตราย จุดนี้เราจะไม่ไปบังคับมาก เพราะฉะนั้น ภารกิจหลักในวันนี้ จึงเน้นสแกนไมโครชิพในส่วนของเสือจำนวน 12 ตัวที่เรายังสแกนไม่ได้ เป็นลูกเสือทั้งหมด ตามกำหนดการในวันนี้เวลาค่อนข้างจำกัด เราตกลงกันว่า ทำได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น จะไม่มีการระบุว่าต้องทำได้กี่ตัว สำหรับในส่วนกลุ่มเสือที่ค่อนข้างดุ ตรงนี้เราจำเป็นจะต้องวางแผนเข้าดำเนินการในวันข้างหน้า ด้วยการวางยาสลบเพื่อแสกนหาไมโครชิพต่อไป
สำหรับการวางยาสัตว์ทุกครั้งถือว่ามีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการวางยาสลบคน เพราะฉะนั้น จะต้องมีการวางแผนที่ค่อนข้างรัดกุม และต้องเลือกใช้ขนาดของยาให้เหมาะสมกับลักษณะของเสือในแต่ละตัว เช่นหากเสืออายุมากจะต้องใช้ปริมาณยาน้อยกว่าเสือที่อยู่ในวัยที่แข็งแรง หลังจากวางยาเสร็จ เมื่อเสือสลบจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยสังเกตสภาพของเสือให้ดีเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเสือ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วย
ส่วน พ.ต.อ.ศุภิฎพงศ์ ภักดิ์จรุง รองประธานมูลนิธิวัดป่าฯ กล่าวว่า หลังจากที่อดีตนายสัตวแพทย์ออกมาให้ข่าวต่อสื่อมวลชนว่า เสือของกลางหายไป จำนวน 3 ตัว จนทำให้ชื่อเสียงของวัดเสียหาย ซึ่งขณะนี้ทราบว่า ทางพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ได้พยายามเรียกตัวอดีตนายสัตวแพทย์คนดังกล่าว มาให้ข้อมูลเพื่อเติมปรากฎว่า นายสัตวแพทย์ไม่ยอมมาพบพนักงานสอบสวน ส่วนทางวัดเอง เตรียมที่จะแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่ออดีตนายสัตวแพทย์คนดังกล่าว แต่ขณะนี้ ยังไม่มีการดำเนินการอย่างใด คาดว่า คงในเร็ววันนี้ อยากฝากไปถึง นายสัตวแพทย์สมชัย วิเศษมงคลชัย หากมั่นใจว่า ตนเองกระทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจก็ขอให้ไปพนักงานสอบสวนโดยเร็ว เพราะเจ้าหน้าที่กำลังรออยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เวลา 18.00 น.เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสแกนไมโครชิพของลูกเสือได้ทั้งหมด คาดว่าคงจะแล้วเสร็จภายในพรุ่งนี้ ( 29 เม.ย.58)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี