ศาสตราจารย์ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงปัญหาขยะในประเทศไทย ว่า ปริมาณขยะของประเทศไทยยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2556 สูงถึงประมาณ 27 ล้านตัน ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการกำจัดอย่างถูกสุขลักษณะและมีปริมาณมูลฝอยที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ 5.1 ล้านตันคิดเป็นร้อยละ 19 ซึ่งมีสัดส่วนที่น้อยมาก เนื่องจากยังขาดกระบวนการคัดแยกจากแหล่งกำเนิดอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ ทำให้มีปริมาณมูลฝอยเพิ่มปริมาณมากขึ้นทุกปี หากระบบการจัดการขยะไม่ถูกสุขลักษณะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนอาจเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อโรค การแพร่โรคติดต่อในระบบทางเดินอาหาร และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์และแมลงพาหะนำโรค
การแก้ไขปัญหาการจัดการขยะในขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยได้วาง 4 ยุทธศาสตร์หลัก คือ 1.จัดให้มีการคัดแยกตั้งแต่ครัวเรือนหรือแหล่งกำเนิดเพื่อนำไปใช้ประโยชน์และจัดการตามประเภทของขยะนั้นๆ ปัจจุบันมีหลายๆ ชุมชนมีการคัดแยกในครัวเรือนโดยแยกขยะนำกลับมาใช้ใหม่หรือขยะรีไซเคิล และนำไปใช้ประโยชน์ เช่น ขยะย่อยสลายได้ประเภทเศษอาหาร เปลือกผลไม้ นำไปทำน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยน้ำ หรือนำไปเป็นอาหารสัตว์ การแยกขยะในครัวเรือนทำได้ง่ายและช่วยลดภาระในการกำจัด โดยการคัดแยกที่มีประสิทธิภาพจะทำให้ได้ขยะที่มีคุณภาพต่อการนำไปใช้งานและกำจัด 2.การบังคับใช้กฎหมายเพื่อสนับสนุนการคัดแยก ณ แหล่งกำเนิด ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการลดปริมาณและการคัดแยกขยะ 3.การสนับสนุนให้ท้องถิ่นมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการจัดการขยะให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อให้ใช้งบประมาณน้อยที่สุด และ 4.การควบคุมตรวจสอบอย่างจริงจัง โดยท้องถิ่นจะต้องมีการควบคุมอย่างจริงจังไม่ให้มีการลักลอบทิ้งขยะอันตรายจากอุตสาหกรรมรวมไปกับขยะทั่วไป ตลอดจนขอความร่วมมือจากประชาชนในการทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทางเพื่อให้ประเทศไทยสะอาด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี