'บิ๊กต๊อก’ถก5รมต.
ขันนอตปราบรุกป่า
ตร.โวยสปก.โคราช
ยื้อจับนายช่างฮุบที่
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.)เรียกประชุมรัฐมนตรี 5 กระทรวงคือ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงคมนาคม รวมถึง 20 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ และป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ หาแนวทางแก้ปัญหาแบบบูรณาการ เพื่อขยายผลตรวจสอบให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยจะเริ่มจากสนามแข่งรถโบนันซ่า และคีรีมายา รีสอร์ท ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า การหารือครั้งนี้ เพื่อรับทราบปัญหาบุกรุกทำลายป่า และหาแนวทางแก้ไขพร้อมจัดระบบการทำงานแบบบูรณาการ ซึ่งตนให้แต่ละหน่วยงานสรุปภาพรวมวิธีการทำงาน การจัดการ การควบคุมพื้นที่ รวมถึงปัญหาข้อขัดข้องกลไกลที่ใช้มีปัญหาอย่างไร โดยสั่งทุกหน่วยงานสำรวจแนวเขตพื้นที่ในความรับผิดชอบของตัวเอง นำเสนอที่ประชุมครั้งต่อไปวันที่ 15 พฤษภาคม
สำหรับปัญหาใหญ่เรื่องการบกรุกที่ดินนั้น มี 2 ประเด็นคือ การบุกรุกที่ดินโดยมีเอกสารสิทธิกับไม่มีเอกสารสิทธิ โดยผู้ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์จะดำเนินการได้ง่าย ส่วนผู้มีเอกสารสิทธิ์ต้องเข้าไปดูว่าเจตนาบุกรุกหรือไม่ ส่วนธุรกิจที่ดำเนินการไป รัฐบาลเข้าใจทุกอย่าง เพราะบางกรณีเป็นการซื้อที่ดินมาจากหน่วยงานของรัฐ ยกตัวอย่างเช่น คีรีมายา ที่ซื้อที่ดินมาจากกรมบังคับคดี ตรงนี้ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ แต่ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่าเอกสารสิทธิ์ออกมาโดยไม่ถูกต้อง ก็ต้องแก้ไข รัฐบาลจะเข้าไปดูแลให้เกิดความเป็นธรรม
รมว.ยุติธรรมกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตนกำชับแต่ละหน่วยให้ไปประชาสัมพันธ์กับประชาชนทุกจังหวัดรับทราบว่า ระหว่างนี้หากใครมั่นใจว่าตนเองได้เอกสารสิทธิมาถูกต้อง สามารถนำหลักฐานเข้าชี้แจงแสดงความบริสุทธิ์ใจกับเจ้าหน้าที่ได้ทันที ไม่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ เราจะดูว่าจะให้ความเป็นธรรมอย่างไร เพราะอาจเกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐไปเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ปัญหาการบุกรุกป่า ส่วนหนึ่งมาจากเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงานมีไม่เพียงพอในการดูแลพื้นที่ของตัวเอง เช่น กระทรวงเกษตรฯ ตนจึงให้ประสานหน่วยงานภายในให้เกษตรตำบล เกษตรอำเภอเข้าไปช่วยเสริมการดูแลที่ดินในเขต ส.ป.ก. รวมทั้งขอให้กระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ใหญ่บ้านกำนันในท้องถิ่นช่วยดูแลด้วย ขณะที่กระทรวงทรัพยากรฯ จะเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำแนวเขตพื้นที่ป่าทั่วประเทศ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าหน่วยงานกำหนดแนวเขตล้ำพื้นที่ป่าอย่างไร เมื่อได้แนวเขตหลักแล้ว จะเชิญหน่วยงานทั้งหมดมาดูว่าถูกต้องหรือไม่ เพื่อดำเนินคดีกับผู้บุกรุกที่มีเอกสารสิทธิ์และไม่มีเอกสารสิทธิ์
“เชื่อว่าหลังวันที่ 15 พฤษภาคม ถ้าได้ข้อมูลครบทั้งหมด เราจะมาลงรายละเอียดอีกครั้ง เป็นการสร้างระบบใหญ่ กำหนดทิศทางตรวจสอบที่ดินแปลงอื่นทั่วประเทศ ขณะเดียวกันได้กำชับทุกพื้นที่ให้รายงานว่าพื้นที่ใดมีปัญหาเรื่องผู้มีอิทธิพลเข้าไปครอบครอง ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่กล้าดำเนินการ ศอตช.จะเข้าไปแก้ปัญหาให้ และจะไม่โทษเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยปัญหา”พล.อ.ไพบูลย์กล่าว
ความคืบหน้ากรณีชุดปฏิบัติการพิเศษกระทรวงยุติธรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ที่เจ้าหน้าที่รัฐนำไปออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบที่ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมานั้น
พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจ สภ.หมูสีรับแจ้งความจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพียงคดีเดียวคือ คดีบ้าน 3 หลังที่บุกรุกพื้นที่ป่าหมู่ 3 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นของนางพรทวี สุตันติราษฎร์ นายช่างรังวัด ส.ป.ก.นครราชสีมาเท่านั้น ในข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484
ส่วนคดีที่นางพรทวี นำ ส.ค.1 เลขที่ 19 หมู่ 4 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เนื้อที่ 30 ไร่ ไปออกเอกสารสิทธิในนามสามีตนเองคือ นายสุวัฒน์ สุตันติราษฎร์โดยออกโฉนดที่ดินรุกล้ำเข้าไปในที่ดิน ส.ป.ก.มากกว่า 130 ไร่ แม้มติที่ประชุมชุดปฎิบัติการพิเศษให้ส.ป.ก.เข้าแจ้งความ แต่จนถึงขณะนี้ส.ป.ก.เบี้ยวไม่มาแจ้งความ แม้ทวงถามไปแล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงขอฝากไปถึงส.ป.ก.ให้รีบมาแจ้งความ เพื่อจะได้เริ่มตรวจสอบไปตามกระบวนการของกฎหมาย
สำหรับโครงการคีรีมายานั้น พล.ต.ต.ธเนษฐเปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากเจ้าของโครงการหลังภาครัฐเข้าตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า ขณะนี้ธุรกิจหยุดนิ่ง ไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ ได้ ลูกค้าไม่มั่นใจ จึงขอให้ภาครัฐเร่งสรุปผลการตรวจสอบให้ชัดเจน เพราะพื้นที่ของคีรีมายามีมากกว่า 1,600 ไร่และมีเพียงบางส่วนที่มีปัญหา ถ้าพื้นที่จุดไหนผิดก็พร้อมแก้ไข และเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย แต่ตอนนี้จะทำอย่างไรให้ผลการตรวจสอบเสร็จสิ้นโดยเร็ว
ด้านพ.ต.อ.บัณฑิต เส็งประชา ผกก.สภ.หมูสี อ.ปากช่องเผยความคืบหน้าคดีบ้าน 3 หลังว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบความเชื่อมโยงของผู้ต้องหาที่มาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่คือ น.ส.ภัคมล กิจศิริกุล อายุ 34 ปี กับนางพรทวี โดยการแจ้งการตรวจสอบจากท้องถิ่นและการไฟฟ้า ซึ่งคณะทำงานคดีบุกรุกป่าของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ที่มีพ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เป็นหัวหน้าคณะนั้น เรียกประชุมทีมสอบสวนให้คดีเดินหน้าต่อเนื่อง พร้อมกำชับให้เร่งรัดการทำคดีและทุกคดีต้องละเอียดรอบคอบให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี