นายอยุทธ์ หรินทรานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ได้เร่งรัดให้หน่วยงานในสังกัดทุกพื้นที่เฝ้าระวังเชิงรุก ค้นหาสัตว์ป่วยหรือสัตว์ที่แสดงอาการสงสัยเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งจากข้อมูล ณ วันที่ 27 เมษายน จากการรายงานในระบบ ThairabiesNet พบโรคพิษสุนัขบ้า 108 ตัวอย่าง จากตัวอย่างที่ส่งตรวจ 2,423 ตัวอย่าง ในพื้นที่ 83 ตำบล 22 จังหวัด โดยเป็นพื้นที่ตำบลเดิมที่เคยเกิดโรคในปีที่ผ่านมา 25 ตำบล คิดเป็นร้อยละ 30.12 และจากจำนวนตัวอย่างสุนัขที่พบผลบวกทั้งหมด พบโรคในสุนัขจรจัดมากถึงร้อยละ 60.78 จึงจำเป็นต้องเร่งรัดให้มีการแก้ปัญหาสุนัขจรจัดที่เป็นระบบและยั่งยืน
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์ได้สนับสนุนวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าให้กับพื้นที่เกิดโรคเพื่อนำไปฉีดให้กับสัตว์กลุ่มเสี่ยง โดยมีเป้าหมายให้ครอบคลุมจำนวนประชากรสัตว์อย่างน้อยร้อยละ 80% โดยเร่งรัดให้มีการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2558 เร่งรัดให้มีการผ่าตัดทำหมันสุนัขให้ได้อย่างน้อยปีละ 80,000 ตัว เพื่อลดจำนวนประชากรสุนัขให้มากที่สุด มีการขึ้นทะเบียนสัตว์และประชาสัมพันธ์ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ซึ่งทั้งหมดนี้ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงและลดอุบัติการณ์ของการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าทั้งในคนและสัตว์ และหยุดการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าในที่สุด
ดังนั้นจึงขอเชิญชวนเจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกท่านร่วมหยุดโรคพิษสุนัขบ้า โดยนำสัตว์เลี้ยงไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคเป็นประจำทุกปี ควรเลี้ยงสัตว์โดยมีรั้วรอบขอบชิดไม่เลี้ยงปล่อยนอกบ้าน ไม่ทิ้งสัตว์ให้กลายเป็นสัตว์จรจัด และที่สำคัญที่สุดหากพบสัตว์แสดงอาการสงสัยเป็นโรคพิษสุนัขบ้า โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ได้ทั่วประเทศ หรือโทรศัพท์ 0-2653-4412 เพื่อกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทยโดยเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี