นายไพโรจน์ สุคนธสาคร ปลัดเทศบาลตำบลหมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เปิดเผยเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ถึงความคืบหน้าการดำเนินการกับบุคคลและบริษัทเอกชน ที่ก่อสร้างบ้านพักและรีสอร์ทรุกล้ำที่ดินของรัฐและพื้นที่สาธารณะว่า ได้ประสานไปยังที่ดินจ.นครราชสีมา ทำการระบุระวางแผนที่เพื่อประกอบการแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งการรุกล้ำลำรางสาธารณะและถนนสาธารณะของโครงการคีรีมายา พบชัดเจนว่า มีการบุกรุกเปลี่ยนสภาพลำรางสาธารณะและมีการปิดกั้นเส้นทางสาธารณะ ซึ่งตนได้ลงไปตรวจสอบกับผู้ใหญ่บ้านอีกครั้งระบุว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านเคยมีที่ดินอยู่ด้านในดีรีมายาและเคยใช้เส้นทางดังกล่าว แต่หลังจากมีการปิดกั้นชาวบ้านก็ไม่สามารถเข้า-ออกได้อีก
“ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอข้อมูลจากที่ดินจังหวัด ซึ่งหลังจากได้หลักฐานมาครบถ้วนแล้ว เทศบาลจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนังงานสอบสวน สภ.หมูสี เพื่อให้ดำเนินคดีกับโครงการ ข้อหาบุกรุกลำรางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาติ และปิดกั้นเส้นทางสาธารณะประโยชน์ คาดว่าจะเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนได้ภายในสัปดาห์นี้”
นายไพโรจน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในวันที่ 7 พฤษภาคม จะเข้าแจ้งความกรณีพบการบุกรุกและเปลี่ยนแปลงสภาพลำรางสาธารณะของโครงการมูนแดนซ์ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ลำรางสาธารณะดังกล่าวมีขอบเขตติดกับโฉนดที่ดินของ นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง ห่างจากตัวบ้านประมาณ 30 เมตร ซึ่งเป็นจุดชมวิวส่วนตัวของบ้าน นายสรยุทธ์ เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้เปลี่ยนสภาพลำรางและทำฝายปิดกั้น รวมถึงการขุดลำรางดังกล่าว ซึ่งเป็นหน้าที่ของพนังกานสอบสวนที่จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนผู้ทำการบุกรุกเปลี่ยนแปลงปิดกั้นที่แท้จริงต่อไปว่า เป็นการกระทำของเจ้าของโครงการหรือเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.บัณฑิต เส็งประชา ผกก.สภ.หมูสี เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมกรณีการบุกรุกป่า พื้นที่ ส.ป.ก. และลำรางสาธารณในท้องที่ ต.หมูสี มีเพียงคดีเดียว คือ คดีบ้าน 3 หลัง ซึ่งต้องสงสัยที่บุกรุกพื้นที่ ส.ป.ก. โดยมี น.ส.ภัคมล กิจศิริกุล อายุ 34 ปี มาแสดงตนว่าเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเจ้าพนักงานได้แจ้งข้อหาไปแล้ว และอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน พร้อมสืบสวนว่ามีความเชื่อมโยงกับนายช่างรังวัดของ ส.ป.ก. ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยนำพื้นที่ ส.ค. 1 จำนวน 30 ไร่ไปออกโฉนด 155 ไร่ โดยบุกรุกพื้นที่ที่ ส.ป.ก.ไปจำนวนกว่า 130 ไร่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม น.ส.ภัคมล ยังให้การปฏิเสธว่าไม่รู้จักกับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. คนดังกล่าว และจากการสอบปากคำผู้ใหญ่บ้านทราบว่าที่ดินของ นางภัคมล ได้รับมรดกมาจากนางแก่นซึ่งเคยทำกินมาก่อน
“วันนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำหนังสือทวงถามไปยัง ส.ป.ก.นครราชสีมา เพื่อขอความชัดเจนเกี่ยวกับกรณีการบุกรุกที่ดิน 130 ไร่ดังกล่าว หากจะเข้าแจ้งความก็ให้เร่งดำเนินการเพื่อจะได้เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทางกฎหมายต่อไป” พ.ต.อ.บัณฑิต กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี