วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เล็งใช้เกาะร้างระนอง ผุดศูนย์อพยพ  รองรับโรฮีนจา-อุยกูร์

เล็งใช้เกาะร้างระนอง ผุดศูนย์อพยพ รองรับโรฮีนจา-อุยกูร์

วันพฤหัสบดี ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558, 06.00 น.
Tag :
  •  

เล็งใช้เกาะร้างระนอง

ผุดศูนย์อพยพ

รองรับโรฮีนจา-อุยกูร์

ไทยถกด่วน15ชาติ29พค.

แก้ปัญหา‘ลอบค้ามนุษย์’

จับเพิ่ม3-‘โกหย่ง’มอบตัว

ฮึ่ม‘โกโต้ง’อย่ายื่นต่อรอง

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ว่า ปัญหาค้ามนุษย์ และการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติของชาวโรฮีนจา เป็นปัญหาที่ซับซ้อนและมีความรุนแรง เป็นหนึ่งในปัญหาเร่งด่วนของภูมิภาคนี้ โดยรัฐบาลไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ในมหาสมุทรอินเดีย ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ที่กรุงเทพฯ โดยจะเชิญเจ้าหน้าที่อาวุโสจากประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 15 ประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม บังคลาเทศ เข้าร่วมประชุม รวมทั้งเชิญประเทศผู้สังเกตการณ์ อาทิ สหรัฐฯ ตลอดจนผู้แทนองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(UNHCR) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน(IOM) และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ(UNODC) เข้าร่วมด้วย

วอนนานาชาติร่วมแก้ปัญหา


พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นประเทศกลางทางของปัญหา และแน่นอนว่า เราคนเดียวไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ประเทศในภูมิภาคร่วมมือกัน เพื่อรับมือกับการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติทางทะเล โดยเฉพาะในอ่าวเบงกอลที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต้องร่วมมือกัน เพื่อหาแนวทางรับมือที่ครอบคลุมทุกด้าน และเร่งแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ โดยในที่ประชุม จะเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและข่าวกรองเกี่ยวกับสถานการณ์การโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติทางทะเล และอาจจะมีการบังคับใช้กฎหมายร่วมกันเพื่อทลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ

กองทัพเตรียมจัดศูนย์อพยพ

แหล่งข่าวจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) เปิดเผยกับ“แนวหน้า” ว่า ทางกองทัพมีแนวคิด และอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อจัดหาพื้นที่จัดตั้งเป็นศูนย์อพยพ หรือศูนย์ผู้ลี้ภัยให้กับกลุ่มชาวโรฮีนจา รวมถึงกลุ่มอื่นๆ เช่น ชาวตะวันออกกลางที่หลบหนีการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม(ไอเอส)และชาวอุยกูร์ เป็นต้น ที่อพยพเข้ามาในประเทศไทยมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปพื้นที่ที่เหมาะสม อีกทั้งติดปัญหาประชาชนในพื้นที่อาจต่อต้านได้ เพราะเกรงว่าผู้อพยพเหล่านี้จะเข้าไปทำให้ชุมชนของตัวเองเกิดความไม่ปลอดภัย ซึ่งรัฐบาลชุดก่อนมีแนวคิดที่จะใช้พื้นที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช แต่ถูกต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่ จึงต้องมาหาพื้นที่ใหม่

เล็งใช้เกาะร้างในจ.ระนอง

“ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสำรวจพื้นที่อยู่ เบื้องต้นอาจจะใช้เกาะในจังหวัดต่างๆ ที่หมดสัมปทานไปแล้ว และไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรมาจัดตั้งศูนย์ผู้ลี้ภัย อาจเป็นเกาะที่ตั้งอยู่กลางทะเลและไม่มีปัญหาเรื่องสัมปทานที่ดิน เช่น จ.ระนอง เนื่องจากมีเกาะแก่งจำนวนมาก และเป็นเมืองหน้าด่านที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนเป็นจังหวัดแรกที่ติดกับน่านน้ำทะเล ซึ่งผู้อพยพมักจะเดินทางผ่านมาทางนี้ โดยสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะชี้เป้าว่า จะใช้พื้นที่จังหวัดใด จากนั้นกระทรวงมหาดไทย จะลงพื้นที่ศึกษาความเป็นไปได้และประกาศนโยบายใช้พื้นที่ ส่วน กอ.รมน.จะทำหน้าที่ผลักดันผู้อพยพไปไว้ในพื้นที่” แหล่งข่าวจาก กอ.รมน.กล่าว

นักวิชาการหวั่นแก้ไม่ถูกจุด

ด้าน นายศิววงศ์ สุขทวี ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรที่ทำงานด้านประชากรข้ามชาติ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 28เมษายนที่ผ่านมา มีมติให้หาพื้นที่ควบคุมผู้อพยพแห่งใหม่ให้กับชาวโรฮีนจาและชาวมุสลิมไม่ทราบสัญชาติหรือ อุยกูร์ ไปอยู่ในความดูแลที่บริเวณสถานควบคุมพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล หรือเรือนจำชั่วคราวหลักสี่ กรุงเทพฯ และที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพราะสามารถควบคุมดูแลได้ง่าย การจะใช้เกาะใดเกาะหนึ่งในพื้นที่ต่างจังหวัด หรือพื้นที่ติดชายฝั่งอันดามัน ตนไม่มั่นใจกลไกของเจ้าหน้าที่ว่า จะดูแลได้ครอบคลุมหรือไม่ ซึ่งถ้าดูแลไม่ดีพอ จะเป็นการนำสินค้ามารอให้ขบวนการค้ามนุษย์เลือกซื้อได้เลย

ปูพรมค้น-จับเพิ่มอีก3ราย

วันเดียวกัน พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รอง ผบช.ภ.8 ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร อาสา และฝ่ายปกครอง กว่า 100 นาย แบ่งเป็น 10 ชุด เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้าชาวโรฮีนจาหลายแห่ง ซึ่งพบว่า มีการขนย้ายทรัพย์สินภายในบ้านออกไปหมดแล้ว และปิดล็อคประตูอย่างแน่นหนาก่อนเจ้าหน้าที่มาถึง อย่างไรก็ตาม สามารถจับผู้ต้องหาได้ 3คน เป็นคนในเครือข่ายค้ามนุษย์ จ.สตูล 2 คนและ จ.ระนอง 1 คน ทำให้ขณะนี้จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 22 คน จากที่ออกหมายจับไปแล้ว 61คน เหลืออีก 39 ราย ที่ยังหลบหนี ส่วนการให้ความช่วยเหลือต่างด้าวมีทั้งหมด 312 คนเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ 63 คนที่เหลืออีก 243 คนหลบหนีเข้าเมือง

ค้นแคมป์โรฮิงญาพบ4หลุม

ที่ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจภูธรภาค9 ส่วนหน้า สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันทน์ ผบช.ภ.9 และ พล.ต.ต.พุทธชาติ เอกฉันท์ รอง ผบช.ภาค 9 แถลงความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์ โดยระบุว่า ในการเปิด “ยุทธการปิดปลายทาง” เพื่อสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างด้าวชาวโรฮีนจาสรุปได้ว่า มีการพบแคมป์ทั้งหมด 7แห่งประกอบด้วยอาคารชั่วคราว 117หลัง รวมถึงจุดที่พบที่เทือกเขาแก้ว ม.8 บ้านตะโล๊ะ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา ซึ่งเป็นแคมป์ใหญ่ มีอาคารถึง 21หลังและห้องน้ำ 18ห้อง ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ที่ร่วมกันตรวจสอบภายในแคมป์อย่างละเอียดว่าเจอหลุมต้องสงสัย 4หลุม ซึ่งได้ประสานเจ้าหน้าที่และแพทย์ขึ้นไปเพื่อขุดตรวจสอบแล้ว

ตอกโกโต้งอย่ายื่นเงื่อนไข

พล.ต.ท.มนตรี ยังเปิดเผยถึงการติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจาอีก 39ราย ว่า ได้ระดมทีมพนักงานสอบสวนฝีมือดี จาก บช.ภ.8และบช.ภ.9 เข้ารวบรวมพยานหลักฐานอย่างรัดกุมแน่นหนา เชื่อว่าจะเอาผิดผู้ต้องหาทั้งหมดได้อย่างแน่นอน ในส่วนของนายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ผู้ต้องหาคนสำคัญ ขณะนี้แม้จะมีการติดต่อขอเข้ามอบตัว แต่ยืนยันว่าไม่สามารถต่อรองใดๆ กับเจ้าหน้าที่ได้ โดยเฉพาะในประเด็นการขอประกันตัว เนื่องจากที่ผ่านมาศาลจังหวัดนาทวีไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาในคดีนี้แม้แต่รายเดียว และในวันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคมนี้ เจ้าหน้าที่สันติบาลมาเลเซียจะเดินทางมารับทราบข้อมูลเพื่อประสานงานในการช่วยจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีออกนอกประเทศ โดยเฉพาะโกโต้ง พร้อมพวกซึ่งมีรายงานว่าหลบหนีไปยังเกาะลังกาวี

“โกหย่ง”มอบตัว-ปฏิเสธข้อหา

บ่ายวันเดียวกัน พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. และคณะ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ จากสนามบิน ทภ.4 ค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ไปยังพื้นที่ อ.ขนอม เพื่อตรวจกิจการเรือประมง และการใช้แรงงานต่างด้าวในพื้นที่ อ.ขนอม บริเวณแพปลาโชควรพจน์ จากนั้น พล.ต.อ.เอก ได้รับมอบตัว นายปิยวัฒน์ พงษ์ไทย หรือ โกหย่ง อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/29 หมู่ 5 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง ที่ถูกออกหมายจับในคดีค้ามนุษย์ จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายปิยวัฒน์ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังพื้นที่ สภ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป เบื้องต้น นายปิยวัฒน์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และก่อนหน้านี้ นายปิยวัฒน์ ได้ติดต่อเข้ามอบตัว กับ พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รอง ผบก.ภ.8 และ พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.ภ.จว.ระนอง ที่ สภ.เมืองระนอง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

ยึดทรัพย์ค้ามนุษย์แล้ว112ล.

ส่วนการตรวจค้นเป้าหมาย 9 จุด ใน จ.ระนอง เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยึดทรัพย์ขบวนการค้ามนุษย์ได้กว่า 112 ล้านบาท เตรียมส่งต่อให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปง.) ตรวจสอบ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปง.) ได้ทยอยยึดทรัพย์เครือข่ายค้ามนุษย์และของนายปัจจุบัน ไปแล้ว 30 กว่าล้านบาท รวมทั้งบัญชีธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ ยานพาหนะและยังอยู่ในระหว่างดำเนินการตรวจยึดทรัพย์สินอย่างอื่นเพิ่มเติมอีกด้วย หนึ่งในนั้นคือทรัพย์สินบนเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล

ตร.ไทย-มาเลย์ประชุมทวิภาคี

วันเดียวกัน ที่ รร.เวสติน รีสอร์ส จ.ภูเก็ต พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. นำคณะเข้าร่วมประชุมทวิภาคีระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซียภายใต้การนำของ ตันศรี ดาโต๊ะ ศรี กาลิด บิน อาบู บาการ์ ผบ.ตร.ตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย เพื่อหารือและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างตำรวจสองประเทศในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และอาชญากรรมที่กระทบต่อความมั่นคงของทั้งสองประเทศ โดยได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของทั้งสองประเทศ อาทิ การก่อการร้าย การลักลอบค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ เป็นต้น จากนั้น ทั้ง 2 ฝ่าย ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง (Agreed Minute) เพื่อแสดงถึงเจตจำนงในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมร่วมกัน

มาเลย์พร้อมร่วมมือเต็มที่

ด้าน ผบ.ตร.มาเลเซีย เปิดเผยว่า การค้ามนุษย์เป็นปัญหาระดับชาติ ไม่ใช่ปัญหาของประเทศไทยหรือมาเลเซีย ที่ต้องหารือพูดคุยร่วมกัน ซึ่งทางการมาเลเซียยืนยันว่าจะร่วมมือดำเนินการกับประเทศไทยอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งในส่วนการติดตามตัวผู้ต้องหาที่ การข่าวของไทยระบุว่ามีผู้ต้องหาซึ่งเป็นขบวนการรายใหญ่ที่หลบหนีเข้าไปกบดานในมาเลเซีย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพภาค4วิเคราะห์ความรุนแรง\'ไฟใต้\'ระลอกล่าสุด ผู้ก่อเหตุเลือกเป้าหมายอ่อนแอ แม่ทัพภาค4วิเคราะห์ความรุนแรง'ไฟใต้'ระลอกล่าสุด ผู้ก่อเหตุเลือกเป้าหมายอ่อนแอ
  • ตกใจเจอตำรวจ! กลุ่มวัยรุ่นขี่จยย.กลับรถกระทันหัน กระบะทางตรงพุ่งชนซ้ำดับ ตกใจเจอตำรวจ! กลุ่มวัยรุ่นขี่จยย.กลับรถกระทันหัน กระบะทางตรงพุ่งชนซ้ำดับ
  • หมาหอนเกรียว! ตะครุบหัวคะแนนพรรคดัง แจกเงิน‘ซื้อเสียง’เลือกตั้งเทศบาลนครนนท์ หมาหอนเกรียว! ตะครุบหัวคะแนนพรรคดัง แจกเงิน‘ซื้อเสียง’เลือกตั้งเทศบาลนครนนท์
  • อุทาหรณ์ทำงานกับเครื่องจักร ยาย73ปีพลาดท่า สายพานเครื่องสีข้าวดูดร่างดับ อุทาหรณ์ทำงานกับเครื่องจักร ยาย73ปีพลาดท่า สายพานเครื่องสีข้าวดูดร่างดับ
  • สลดผัวเมียเมียนมา! จยย.ล้มท่ามกลางสายฝน กระบะชนซ้ำดับคู่ สลดผัวเมียเมียนมา! จยย.ล้มท่ามกลางสายฝน กระบะชนซ้ำดับคู่
  • ‘ตม.อุบลราชธานี’ซีลเข้มพื้นที่ ร่วมหน่วยปราบยาเสพติด แถลงจับยาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ด ‘ตม.อุบลราชธานี’ซีลเข้มพื้นที่ ร่วมหน่วยปราบยาเสพติด แถลงจับยาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ด
  •  

Breaking News

กระตุ้นคนตายเพิ่ม?! คำถามตัวโตๆถึง‘รัฐบาล’ ขายน้ำเมา 'วันพระใหญ่’

อย่าใช้ความรู้สึกตัดสิน!! ‘นพดล’ขอทุกฝ่ายพิจารณาปม'ทักษิณ ชั้น 14'ตามข้อเท็จจริง-กม.

ต้อนรับสมาชิกใหม่! 'ตู่ ปิยวดี'คลอดลูกสาวคนแรกแล้ว

‘นิพนธ์’ใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล ชี้บทบาทท้องถิ่นคือรากฐานพัฒนาประเทศ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved