โจรใต้ท้าทายอำนาจรัฐ
บึ้มซ้ำยะลา
ป่วนหนักแต่เช้ายันค่ำ
ผบ.ทบ.กร้าว!รับไม่ได้
มีข่าวเตือนแต่เอาไม่อยู่
แฉแนวร่วมใหม่ลองวิชา
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกลุ่มก่อความไม่สงบก่อเหตุวางระเบิดหลายสิบจุดทั่วเมืองยะลาตั้งแต่ช่วงค่ำวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาต่อเนื่องไปจนถึงเวลา 23.15 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสรุปภาพรวมเหตุการณ์ว่า คนร้ายวางระเบิดไว้ 24 จุด เกิดเหตุระเบิด 20 จุด เก็บกู้ได้ 4 จุด มีประชาชนบาดเจ็บ 20 ราย ได้แก่จุดที่ 1 หน้าร้านศรีภัณฑ์ยะลา จุดที่ 2 ร้านอีซี่สโตร์ พบระเบิด 1 ลูก เก็บกู้ทำลายอีก 6 ลูก จุดที่ 3.ร้านเมืองใหม่การไฟฟ้า จุดที่ 4.หน้าศูนย์ดีแทค ถนนเมืองใหม่ จุดที่ 5.หน้าร้านอภิรักษ์เครื่องเรือน จุดที่ 6.หน้าธนาคาร ธกส.สาขายะลา จุดที่ 7.ตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้าร้านซีบาท จุดที่ 8.หน้าร้านปลาน้อย ตรงข้ามวิทยาลัยเทคนิคยะลา จุดที่ 9.บริษัทซัมซุนฮวด จุดที่ 10.ร้านศักดิ์อิเลคโทรนิค ถนนวิฑูรย์ 1 ต.สะเตง
จุดที่ 11.หน้าร้านแว่นท้อปเจริญ จุดที่ 12.หน้า หจก.แสงเจริญนาประดู่ สาขาตลาดเก่า พบระเบิด 2 ลูก เก็บกู้ได้ 1 ลูก จุดที่ 13.ร้านขายของชำ ปากซอยวิฑูรย์อุทิศ 11 จุดที่ 14. ร้านขายน้ำแข็งปากซอยวิฑูรย์อุทิศ 5 จุดที่ 15.ตู้โทรศัพท์สาธารณะปากซอยศรีบุตรา ต.สะเตง จุดที่ 16.อู่เปี้ยก ปากซอยศรีบุตรา จุดที่ 17.แผงลอยขายของ ทางขึ้น สะพานเฉลิมพระเกียรติ จุดที่ 18.โกดังสวัสดี จุดที่ 19.ริมถนนสายสวนส้ม-วังพญา จุดที่ 20.บ้านไม่มีเลขที่ ถนนสาย 15 ม.3 ต.สะเตงนอก
จุดที่ 21.ตู้เอทีเอ็ม หน้าสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ถนนสาย 15 จุดที่ 22.เสาไฟฟ้า ถนนสาย 15 จุดที่ 23.สามแยกทางไปเรือนจำ ตู้ควบคุมสัญญาณโทรศัพท์มือถือดีแทค จุดที่ 24.หน้าสุสานจีน เส้นทางปารามีแต-พงยือไร ม.1 ต.บันนังสาเรง พบระเบิดแสวงเครื่อง 6 ลูก ระเบิด 3 ลูก เสาไฟฟ้าเสียหาย 3 ต้น เจ้าหน้าที่เก็บกู้ทำลายได้ 3 ลูก
ต่อมาในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ยังได้รับรายงานเกิดเหตุร้ายต่อเนื่องในอ.เมืองยะลา โดยมีกลุ่มคนร้ายปาระเบิดเข้าไปในร้านขายน้ำชาและวางระเบิดร้านขายของชำเพิ่มอีก 6 จุด คือ ที่ร้านขายของชำทองดี เลขที่ 64/1 ถนนเนินหูกวาง หมู่ 9 ต.สะเตงนอก ถัดมาเป็นร้านน้ำชาเลขที่ 49/63 หมู่ 4 ต.สะเตงนอก สภาพถูกแรงระเบิดบ้านพังเสียหาย ต่อมาเวลา 07.30 น. เกิดเหตุระเบิดที่ร้านขายของชำอีกแห่งเลขที่ 90/51ถนนผังเมือง 4 ซอย 12 โดยคนร้ายนำระเบิดซุกไว้ในตู้แช่ของร้าน ไล่เลี่ยกันเกิดเหตุระเบิดบริเวณสามแยกอนามัยสะเตงนอก มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย จากนั้น เจ้าหน้ารับแจ้งเหตุระเบิดที่แผงขายของ แยกมาสด้า ถนนรวมมิตร อีก 1 จุด ช่วงบ่ายวันเดียวกัน เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ร้านขายส่งขนมกัวเซ่งเฮง เลขที่ 617 ถ.สิโรรส ตรวจสอบพบจุดชนวนด้วยการตั้งเวลาจากโทรศัพท์มือถือ
ฝีมือRKKหน้าใหม่อยากลองของ
จากเหตุการณ์ดังกล่าว แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเผยว่า เบื้องต้นคนร้ายต้องการทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่ที่มีต่อภาครัฐ และท้าทายเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ คาดว่าผู้ก่อเหตุเป็นแนวร่วมกลุ่มใหม่ ที่เพิ่งสำเร็จการฝึกเป็นอาร์เคเค และออกปฎิบัติการเพื่อทดลองสภาพจิตใจ
ต่อมาเวลา 10.30 น. ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.ภาค 4) ส่วนหน้า ค่ายสิริธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงถึงเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดหลายสิบจุดในเขตเทศบาลนครยะลาว่า แม่ทัพภาคที่4 สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจยะลา บูรณาการกำลัง 3 ฝ่าย เข้าควบคุมสถานการณ์ตามขั้นตอนแผนรักษาความปลอดภัยเมืองยะลา ยืนยันจะใช้วิธีแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี ไม่มีการประกาศใช้เคอร์ฟิวส์แต่อย่างใด
ใช้ระเบิดขนาดเล็กหวังป่วน
ตรวจสอบขั้นต้นพบ กลุ่มคนร้ายใช้วัตถุระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็กแบบพกพากระจายไปวางยังจุดต่างๆ ในเขตเทศบาลนครยะลา 20 จุดทำให้มีผู้บาดเจ็บ 20 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ในจำนวนนี้พบบาดเจ็บเล็กน้อย 17 ราย พักรักษาตัว 3 ราย อาการปลอดภัย
ประณามไร้มนุษยธรรม
“สาเหตุการก่อเหตุครั้งนี้ มุ่งสร้างสถานการณ์ก่อกวน สร้างความเดือดร้อน และความเสียหายให้เกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริสุทธิ์ ทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว ภาพลักษณ์เศรษฐกิจ ไม่คำนึงถึงประชาชนทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมจะได้รับผลกระทบถือเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม”โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 กล่าว
สงขลาเฝ้าระวังจยย.บอมบ์3คัน
หลังเกิดเหตุวางระเบิดหลายสิบจุดในเขตเทศบาลนครยะลา ทำให้หลายพื้นที่หลายจังหวัดชายแดนภาคใต้ปรับมาตรการรักษาความปลอดภัย หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เช่นที่จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจทหารและฝ่ายปกครองยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุดในพื้นที่เสี่ยง7 อำเภอของจ.สงขลา โดยเฉพาะในอ.หาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการE.O.R. หรือสายตรวจค้นหาสรรพาวุธและวัตถุระเบิด กองร้อย อส.อ.หาดใหญ่นำเครื่องแจมเมอร์ ซึ่งเป็นเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ออกตรวจสอบรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ต้องสงสัยที่จอดอยู่ในย่านเศรษฐกิจกลางเมืองหาดใหญ่ เฝ้าระวังรถจักรยานยนต์เป้าหมาย 3 คันคือ ฮอนด้า เวฟ125 สีน้ำเงิน ทะเบียน กมข 209 ปัตตานี ฮอนด้า เวฟ125 สีดำ ทะเบียน คบค 730 สุราษฎร์ธานี และฮอนด้า เวฟ110 สีดำกษว 402 ปัตตานี
สุไหงโกลกคุมเข้มหวั่นเป้าต่อไป
ส่วนจ.นราธิวาส พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.สุไหงโกลกระดมกำลังตำรวจ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองตรวจเข้มพื้นที่เขตเทศบาล ตั้งจุดตรวจ 2 ชั้น ป้องกันเหตุคนร้ายรวมตัววางแผนลอบก่อเหตุร้ายในอ.สุไหงโกลก ซึ่งถือเป็นพื้นที่ 1 ในเป้าหมายที่คนร้ายมีแผนก่อเหตุป่วนเมืองซ้ำ ต่อจากอ.เมือง จ.ยะลา ซึ่ง พ.ต.อ.กองอรรถย้ำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ทุกคัน โดยเฉพาะที่วัยรุ่นขับขี่เข้าในในเขตเทศบาล เกรงลอบนำวัตถุระเบิดแสวงเครื่องเข้าไปก่อเหตุในตัวอ.สุไหงโกลก
ซุ่มยิงชุดรปภ.ครูตาย1เจ็บ3ที่สุคิริน
วันเดียวกัน เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุด รปภ.ครู สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 1102 กรมทหารพรานที่ 11 เหตุเกิดริมถนนบ้านลูโบ๊ะลาเซาะ ม.1 ต.ร่มไทร ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อคือ จ.ส.อ.เอกพจน์ โสวัณณะ หัวหน้าชุด อส.ทพ.สรายุทธ เถียงมี อส.ทพ.นภดล อาบูยา โดนยิงที่หน้าท้อง และอส.ทพ.เอกชัย ดอเลาะ ถูกยิงที่ศรีษะและเสียชีวิตเวลาต่อมา ส่วนอส.ทพ.นภดลแพทย์ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลสุไหงโกลก สอบสวนทราบว่า ระหว่างชุดรปภ.ครูทั้ง 4 นายขี่จักรยานยนต์ กลับจาก รปภ.ครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านกูยิ ม.1ต.ร่มไทรได้ขี่รถตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทาง เพื่อเตรียมรับครูกลับบ้านพักช่วงเย็น ถึงที่เกิดเหตุคนร้าย4- 5 คน ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มและปะทะกันนาน 3 นาที ก่อนคนร้ายหลบหนีไป
มทภ.4แจงช่องโหว่รปภ.งานกาชาด
ส่วนท่าทีรัฐบาลหลังเกิดเหตุระเบิดที่ยะลาหลายสิบจุดช่วงค่ำที่ผ่านมา ต่างให้น้ำหนักว่าเป็นฝีมือกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ เพื่อแสดงศักยภาพให้รัฐเห็น โดยอาวุธที่ใช้เป็นระเบิดขนาดเล็กหรือไปป์บอม์บ ในเรื่องนี้ พล.ท.ปราการ ชมยุทธ แม่ทัพภาคที่4 (มทภ.4)แถลงว่า คนร้ายใช้วัตถุระเบิดขนาดเล็กที่เรียกว่าไปป์บอมก่อเหตุ และเมื่อคืนที่ผ่านมามีการจัดงานกาชาดที่จ.ยะลา จึงต้องส่งกำลังเน้นไปดูแลงานดังกล่าว ทำให้เกิดช่องว่างจนคนร้ายนำระเบิดเข้ามาในพื้นที่ได้ โดยแฝงมากับตัวบุคคล รถจักรยานยนต์ และกระจายไปลอบวางระเบิด ทำให้เกิดเสียงดัง มีผู้บาดเจ็บกว่า10 คน
ต่อต้านทุ่งยางแดงโมเดล
ทั้งนี้ จากการประเมินการก่อเหตุดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาเราทำงานการเมืองได้ผล เข้าถึงประชาชนในพื้นที่ ได้รับการยอมรับและร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ทำให้จับกุมและนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ อาจเป็นประเด็นทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุต้องสร้างสภาวะแวดล้อมให้ดูรุนแรง นอกจากนี้ ยังมีประเด็น ทุ่งยางแดงโมเดล ที่ประชาชนออกมาช่วยรักษาความปลอดภัยบนถนนประมาณวันละ 20,000 กว่าคน ถือว่าค่อนข้างชัดเจนว่าประชาชนปฏิเสธความรุนแรง ผู้ก่อเหตุรุนแรงต้องต่อสู้กับทุ่งยางแดงโมเดล ที่เรากำลังขับเคลื่อนอยู่ ซึ่งมาตรการดังกล่าวแม้ลำบาก ไม่สะดวกและเสียเวลาบ้างแต่ขอให้ประชาชนเข้าใจและช่วยกัน เพราะสามารถป้องกันการก่อเหตุในเขตเมืองได้ ยืนยันไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการใดๆอีก
อ้างฝีมือกลุ่มวัยรุ่นจ้องก่อกวน
“คาดว่าบุคคลที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มเด็กวัยรุ่น ใช้วิธีกระจายกันนำวัตถุระเบิดเข้ามาวางในพื้นที่ ส่วนที่มองกันว่าเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่ที่วิสามัญผู้ก่อเหตุรุนแรงช่วงที่ผ่านมานั้น ที่ผ่านมาเราใช้การวิสามัญน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย จะเน้นเชิญตัวตามหลักสันติวิธี”พล.ท.ปราการกล่าว
สอดคล้องกับ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)ที่ระบุว่า เหตุลอบวางระเบิดที่จ.ยะลานั้น เป็นการก่อกวนสร้างความวุ่นวายในพื้นที่ โดยใช้ระเบิดไปป์บอม์บพกพา ไม่ทำให้ถึงแก่ชีวิต ทั้งนี้ ตนสั่งการให้ผล.ฉก.ยะลาควบคุมสถานการณ์ สั่งเข้มจุดตรวจ จุดสกัดป้องกันกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมาก่อเหตุพื้นที่อื่น และให้กำลัง 3 ฝ่ายในพื้นที่มาช่วยเจ้าหน้าที่ดูแลสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษหรือประกาศเคอร์ฟิวส์ กฎหมายที่มีอยู่สามารถปฎิบัติงานได้
“บิ๊กโด่ง”ลั่นรับไม่ได้ปล่อยระเบิดลาม
ทั้งนี้ ช่วงเช้าวันเดียวกัน พล.อ.อุดมเดช ในฐานะรอง ผอ. รอมน. เรียกประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) วาระพิเศษติดตามสถานการณ์ระบิดในจ.ยะลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อุดมเดช กล่าวในที่ประชุมว่ารับไม่ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะหน่วยที่รับผิดชอบดูแลสถานการณ์รายงานชี้แจงว่าควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่เพราะอะไรจึงเกิดเหตุระเบิดต่อเนื่องขึ้นอีกช่วงเช้าวันนี้ อีกทั้ง แผนป้องกันเมืองเศรษฐกิจ 7 เมือง ก็ไม่สามารถดูแลได้เลย กำลังที่เข้ามาเพิ่มเติมปฏิบัติงานกันอย่างไร
ฉะรับมือไม่ได้ทั้งที่การข่าวเตือนแล้ว
“ทั้งที่มีข่าวแจ้งเตือน เมื่อ 3 วันก่อนแล้วว่าจะมีการก่อเหตุในจ.ยะลา พร้อมทั้งระบุสีรถ ลักษณะรถที่จะใช้ก่อเหตุ แต่ก็ยังละเลยการเฝ้าระวังป้องกัน หรือไม่ทราบข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะพื้นที่วงในของตัวเมืองเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องช่วยดูแลร่วมด้วย ฉะนั้นต้องระมัดระวังป้องกัน และทำความเข้าใจกับผู้ใต้บังคับบัญชา ให้อดทนและตื่นตัวตลอดเวลา”พล.อ.อุดมเดชกล่าว
สั่งเพิ่มจุดสกัดชี้ฝีมือคนนอกพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า พล.อ.อุดมเดชยังแสดงความห่วงสถานการณ์ พร้อมทั้งระบุว่า การลอบวางระเบิดในจ.ยะลา ไม่ใช่ฝีมือคนในพื้นที่ และอาจยังไม่ได้หลบหนีกลับไป เจ้าหน้าที่จึงต้องตื่นตัวตั้งจุดตรวจ จุดสะกัดให้เข้มข้น แต่ถ้าตั้งจุดตรวจเส้นทางหลักแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้เส้นทางป่าเขาเล็ดลอดไปได้ ก็น่าเห็นใจเจ้าหน้าที่ จึงอยากให้ลงลึกในรายละเอียดด้านการข่าวมากขึ้น เพิ่มจุดสกัด ศึกษาเส้นทางพื้นที่หลบหนี กำลังเจ้าหน้าที่เพียงพอที่จะดูแลพื้นที่หรือไม่
เตือนปัตตานี-นราฯระวังหวั่นซ้ำรอย
“ขอให้เฝ้าระวังอีก 2 จังหวัดคือ ปัตตานีและนราธิวาส โดยเฉพาะเขตเมืองเศรษฐกิจ เช่น อ.สุไหงโก-ลก ผมไม่ต้องการให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดหลายจุดมาก เกินกว่าที่ผมจะรับได้ ต้องบริหารจัดการภายใน กำลังพลที่มาเพิ่มเติม ออกปฏิบัติงานกันเต็มที่หรือไม่ เพราะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ตามที่รายงานชี้แจงมา” พล.อ.อุดมเดชกล่าว
ลั่นภายใน3-7วันนี้ห้ามเกิดเหตุอีก
และว่า ผมเห็นใจและเข้าใจว่ากำลังพลเหนื่อย ทั้งนี้ ให้ที่ตำรวจติดตามเรื่องคดี ตรวจสอบกล้องวงจรปิด รายชื่อจากบันทึก ไล่เลียงตรวจสอบ เพื่อคลี่คลายเหตุการณ์ให้เร็วที่สุด และในระยะ 3-7วันนี้ต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก ต้องควบคุมสถานการณ์ให้ได้ ซึ่งบางทีอาจต้องแก้ไขปัญหาเรื่องกำลังพล ขอให้ทุกคนรับทราบตามนี้
“บิ๊กป้อม”โวจับเร็วๆนี้วงจรปิดได้ภาพ
ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า คนร้ายใช้ระเบิดขนาดเล็ก ที่ทำให้เกิดความวุ่นวายมากกว่ามุ่งทำลาย ทำให้มีคนเจ็บ และช่วงเช้าวันเดียวกัน เกิดเหตุระเบิดอีก 2 ครั้ง เป็นการปาระเบิดปิงปองทำให้เกิดเสียง เจ้าหน้าที่มีภาพวงจรปิด 4 จุดที่เห็นผู้ก่อเหตุชัดเจน คาดว่าน่าจะจับกุมผู้ก่อเหตุได้ เพราะเห็นชัดจะได้รู้ว่าเป็นกลุ่มใด อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย เพราะเท่าที่ดูไม่มีสาเหตุเรื่องอื่น ประชาชนร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มากขึ้น เหตุต่างๆลดลงถึง 60% ทั้งนี้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่เร่งหาตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้
“สุวพันธุ์”รับการข่าวแจ้งเตือนแล้ว
ขณะที่นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ด้านการข่าวมีการเตือนมาแล้วว่าจะมีการก่อเหตุ เพราะใกล้งานวันกาชาดจ.ยะลา จึงได้ประเมินและแนะนำให้เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย และความระมัดระวังให้มากซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ปฎิบัติแล้ว แต่เหตุเกิดพื้นที่อื่น ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจจัดวางกำลังไว้น้อย สาเหตุน่าจะเกิดความไม่พอใจที่ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ ระเบิดที่ใช้เป็นไปป์บอมบ์ ดังนั้นมองได้ว่ากลุ่มก่อเหตุไม่ต้องการอะไรมาก เพียงกลุ่มวัยรุ่นต้องการก่อกวนธรรมดา แต่ยังไม่ทราบกลุ่ม เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดอยู่
ปัดนายกฯเรียกถกด่วน
ต่อมาเวลา 13.20 น. ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยนายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการ สมช.เผยว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการนัดล่วงหน้าไม่ใช่เพราะเกิดเหตุระเบิดหลายจุดที่ยะลา ซึ่งในที่ประชุมได้ตรวจสอบสถานการณ์และความร่วมมือของกลุ่มคนที่จะเข้ามาพูดคุยสันติสุข ซึ่งเป็นไปในทางที่ดี
รับมีข่าวเตือนแต่ไปป์บอมบ์ระวังยาก
สำหรับเหตุที่จ.ยะลา เป็นระเบิดขนาดเล็ก นำไปวางจุดต่างๆ เจตนาก่อความวุ่นวายในพื้นที่เท่านั้น โดยภาพจากกล้องวงจรปิด ตนเห็นภาพไม่ชัด แต่เห็นว่าเป็นไอ้โม่ง สตช.ต้องหามาตรการดูแลประชาชนด้านความปลอดภัย เช่น ทบทวนเรื่องการใช้หมวกกันน็อคของพวกอาชญากรทั้งหลายในทุกจังหวัด ทั้งนี้ ด้านการข่าวเราติดตามอยู่ มีการเฝ้าระวัง และแจ้งเตือน แต่ผู้ก่อเหตุก่อใช้ไปป์บอมบ์วางจุดเล็กๆแล้วเดินหนีไป จึงเฝ้าระวังลำบาก แต่นายกฯและรมว.กลาโหมกำชับกอ.รมน.ภาค4ส่วนหน้า และสตช.ให้ปฏิบัติการเข้มงวดมากขึ้น
คุมเข้ม-ลั่นทุกคนต้องเสียสละ
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์หลังการหารือว่า ตนกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเหตุระเบิดหลายจุดที่จ.ยะลา แม้เป็นระเบิดเล็กๆ แต่เกิดหลายที่ ซึ่งผู้ก่อเหตุต้องการสร้างแรงกดดันว่ามีศักยภาพอยู่ และประเด็นนี้คือ ความยากง่ายในการทำงาน ที่ยากจะตรวจดูรถทุกคันได้ทั้งหมด การกำหนดเวลาห้ามเข้าออกเส้นทางต่างๆนั้นไม่ได้ทำเลย ฉะนั้น เมื่อตรวจทุกเป้าหมายไม่ได้ ก็ต้องมีรั่วไหลมาก่อเหตุ จึงอยากให้เข้าใจ แต่รับรองว่าจะให้เจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานเข้มแข็งที่สุด จึงต้องรบกวนกันบ้าง พื้นที่ใดมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นประชาชนต้องร่วมกันดูแล ต้องเสียสละกันบ้าง ไม่ใช่ทุกคนเอาแต่สะดวกสบายอย่างเดียว ต้องนึกถึงคนเดือดร้อน ประเทศชาติเดือดร้อน
บึ้มซ้ำกลางเมืองยะลา2ลูกซ้อน
ต่อมาเวลา 18.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุลอบวางระเบิด 2 ลูกซ้อน ภายในร้านจำหน่ายสินค้า 20 บาท บริเวณซอยมะลิ ถนนผังเมือง 4 เทศบาลนครยะลา จ.ยะลาอีกระลอก แรงระเบิดทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ ข้าวของภายในร้านพังเสียหาย แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี