บึ้มเผายะลาวันที่3
วอด5หลัง
ฝ่ายความมั่นคงชี้
ฝีมือกลุ่มอาร์เคเค
มีแนวร่วมนับร้อย
จากเหตุกลุ่มก่อความไม่สงบลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่เทศบาลนครยะลา เมื่อ 14-15 พ.ค. 2558 ล่าสุดคนร้ายยังคงเหิมเกริม ก่อเหตุป่วนไม่เลิก โดยเช้าวันที่ 16 พ.ค. 2558 เวลา 07.00 น. ศูนย์วิทยุ 191 สภ.เมืองยะลา รับแจ้งเหตุระเบิดที่บริเวณร้านราชาเฟอร์นิเจอร์ ถ.สิโรรสตัดกับ ถ. ณ นคร เขตเทศบาลนครยะลา และเกิดเพลิงลุกไหม้อาคารบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง
เ จ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงนับสิบคัน เนื่องจากเป็นอาคารไม้เก่าแก่ ทำให้เปลวเพลิงโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาชั่วโมงเศษจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ มีบ้านเรือนเสียหายรวม 5 หลัง แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์จากกลุ่มผู้ไม่หวังดี ทั้งนี้อาคารที่เกิดเหตุมีนางประภา บุญพงศ์มณี เป็นเจ้าของทั้งหมด แต่ให้ผู้อื่นเช่าทำการค้า ประกอบด้วย ร้านราชาเฟอร์นิเจอร์ เลขที่ 51-55 มีนายธนากร แซ่โก้ เป็นเจ้าของร้าน กับร้านพันธ์ศิลป์การเบาะ เลขที่ 53 มีนางวันเพ็ญ ศรีนาคช เป็นเจ้าของร้าน
พบประวัติถูกบึ้มมาแล้ว 4 ครั้ง
นายกิตติพงศ์ บุญพงศ์มณี บุตรชายเจ้าของอาคารที่เกิดเหตุ ให้การว่า ปกติแล้วบิดามารดาจะพักอาศัยในอาคารดังกล่าว ส่วนตนจะอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งไกลออกไป และต้องถือว่าเคราะห์ดีที่ขณะเกิดเหตุทั้ง 2 ไปออกกำลังกายที่อื่น ทำให้ไม่ได้รับอันตรายจากแรงระเบิดและเพลิงไหม้ ทั้งนี้พื้นที่ใกล้กับอาคารหลังนี้เคยถูกวางระเบิดมาแล้วรวม 4 ครั้ง แต่ยืนยันว่าจะยังคงอยู่อาศัยที่ จ.ยะลาต่อไป เพราะไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน
เช่นเดียวกับนายธนากร แซ่โก้ ให้การว่าเมื่อ 15 พ.ค. 2558 มีลูกค้าเข้าร้านเป็นจำนวนมาก อาจทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง โดยขณะเกิดเหตุตนอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง กระทั่งเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน (อส.) มาบอกว่าเกิดระเบิดขึ้นตนจึงรีบไปดู เบื้องต้นคาดว่าจุดวางระเบิดน่าจะอยู่บริเวณมุมของบ้านตรงประตูทางเข้า คนร้ายน่าจะนำระเบิดมาวางไว้ตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำของเมื่อวานนี้
อีก 2 จุด “ห้องน้ำ-ร้านของเล่น”
จากนั้นเวลา 08.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองยะลา รับแจ้งเหตุระเบิดที่บริเวณหลังห้องน้ำ ใกล้กับร้านหมอนงลักษณ์ ทางไปตลาดเมืองใหม่ เขตเทศบาลนครยะลา เบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย ซึ่งหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) ได้เข้าตรวจสอบและปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม นำไปวางไว้ด้านหลังห้องน้ำชาย และเกิดระเบิดขึ้น แต่โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีใครเข้าไปใช้บริการ
ถัดมาเวลาประมาณ 13.00 น. ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองยะลา รับแจ้งเหตุระเบิดที่บริเวณร้านขายของเล่น และขายเสื้อผ้า เลขที่ 504 ถนนสิโรรส ย่านชุมชนตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา เบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย เจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นสถานที่การสัญจรบนถนนเพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อน จากนั้นจึงให้ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ พบเศษชิ้นส่วนระเบิดแบบเดียวกับที่ใช้ในเหตุป่วนเมืองยะลาตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา ตกอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบยังพบวัตถุต้องสงสัยวางอยู่หน้าร้านแว่นท็อปเจริญ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านที่เกิดเหตุ แต่หลังตรวจสอบพบเป็นเพียงถุงกระดาษเปล่าเท่านั้น
คาดฝีมือกลุ่มอาร์เคเค
ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ รายงานสรุปเหตุป่วนเมืองยะลาช่วงวันที่ 14-15 พ.ค. 2558 มีสถานที่พบระเบิด 36 จุด ในจำนวนนี้เกิดระเบิด 38 ลูก สามารถเก็บกู้ได้ 11 ลูก และมีผู้บาดเจ็บ 21 คน โดยสันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มอาร์เคเค สังกัดนายอิสมาแอ ระยะหลง หรืออุสต๊าสโซ๊ะ และเชื่อว่ามีแนวร่วมที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 100 คน ซึ่งมีทั้งผู้วางระเบิดแบ่งเป็นชุดละ 2 คนต่อระเบิด 1 ลูก แต่งกายปกปิดใบหน้าคล้ายสตรีมุสลิม ส่วนแนวร่วมที่เหลือทำหน้าที่ดูต้นทาง มีเป้าหมายอยู่ที่ร้านค้าของคนไทยพุทธและคนไทยเชื้อสายจีน
อย่างไรก็ตามทาง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เหตุระเบิดต่อเนื่องในพื้นที่ จ.ยะลา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มที่ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากวัตถุระเบิดที่ใช้มีความแตกต่างกัน แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นฝีมือกลุ่มใด ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกลุ่มที่ต้องการเรียกร้องความสนใจ หรือกลุ่มบุคคลที่มีความผิดหวังบางอย่างที่ต้องการสร้างสถานการณ์
“สุไหงโก-ลก” รับมือ
อีกด้านหนึ่ง ในวันเดียวกัน ที่ห้องประชุม สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายวรเชษฐ์ พรมโอภาษ นายอำเภอสุไหงโก-ลก พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก พ.ท.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมปรับแผนพิทักษ์โก-ลก ในการรับมือกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่อาจแฝงตัวเข้ามาลอบก่อเหตุร้ายขึ้นเหมือนในพื้นที่ จ.ยะลา
โดยมีการแจ้งเตือนจุดสังเกตสำหรับยานพาหนะต้องสงสัย เช่น การติดสติกเกอร์บอกฝ่าย การถอดใส่ล้ออะไหล่แทนล้อแมกซ์ทั่วไป ทั้งนี้ให้ทหารกับ อส.อำเภอ ดูแลความปลอดภัยพื้นที่ชั้นนอก ขณะที่ให้ตำรวจกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษดูแลพื้นที่ชั้นใน และให้ตำรวจร่วมทำงานกับตำรวจบ้าน ดูแลพื้นที่ใจกลางเมือง
ภายหลังการประชุม นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ออกรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยเป็นหูเป็นตาแจ้งเจ้าหน้าที่หากพบบุคคลหรือยานพาหนะต้องสงสัย นอกจากนี้ยังตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งของรัฐและของประชาชนว่าสามารถใช้การได้หรือไม่? เพราะเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี