กทม.พัฒนาต้นแบบระบบจัดการขยะ
ใช้ประโยชน์เป็นทรัพยากร ตั้งเป้าลดฝังกลบเหลือ40%
นายพีระพงษ์ สายเชื้อ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครโดยสำนักสิ่งแวดล้อม จัดงานสานเสวนาการพัฒนาระบบการจัดการขยะเป็นการจัดการทรัพยากรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นการบริหารจัดการเชิงบูรณาการเพื่อให้เกิดกระบวนการ ลดและคัดแยกขยะที่แหล่งกำเนิด จัดระบบการเก็บขยะแยกประเภทและบำบัดขยะโดยการแปรรูปมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าก่อนนำไปกำจัดด้วยฝังกลบ โดยพัฒนาระบบการจัดการขยะของสำนักงานเขตสวนหลวงเป็นต้นแบบการจัดการขยะเป็นทรัพยากรคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมคัดแยก รีไซเคิล ขาย บริจาค และแยกเศษอาหาร กิ่งไม้ใบไม้หมักทำปุ๋ยที่แหล่งกำเนิด พัฒนาระบบเก็บขนและกำจัดมูลฝอยแยกประเภทเพื่อใช้ประโยชน์ หรือกำจัดได้อย่างถูกสุขลักษณะ โดยกำหนดวันเก็บขยะแยกประเภท 6 ประเภท ได้แก่ ขยะรีไซเคิล ขยะอันตราย ขยะเศษอาหาร ขยะกิ่งไม้ ขยะชิ้นใหญ่ และขยะทั่วไป ทดลองนำร่อง 45 เส้นทางในพื้นที่เขต สามารถดึงทรัพยากรออกก่อนทิ้ง ลดขยะที่ต้องนำไปฝังกลบได้น้อยลง จะนำโครงการขยายผลในพื้นที่ 50 เขตต่อไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตประชาชน กรุงเทพฯมีสภาพแวดล้อมที่ดี สะอาด ปลอดภัย และเป็นเมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ปริมาณขยะที่กทม.จัดเก็บส่งศูนย์กำจัดมูลฝอยปัจจุบันมีประมาณ 9,900 ตัน/วัน มีขยะรีไซเคิลถูกทิ้งรวมไป 10% หรือประมาณ 1,000 ตัน/วัน และมีเศษอาหาร กิ่งไม้ใบไม้ 50% หรือประมาณ 5,000 ตัน/วัน ซึ่งหากเราช่วยกันคัดแยกขยะรีไซเคิล เศษอาหาร กิ่งไม้ใบไม้ ที่แหล่งกำเนิด ใช้ประโยชน์หรือทิ้งตามประเภทตามวันที่เขตประกาศ กทม.จะสามารถนำขยะไปใช้ประโยชน์ได้ถึง 60% หรือประมาณ 6,000 ตัน/วัน เหลือขยะที่ต้องขนไปบ่อฝังกลบเพียง 40% หรือประมาณ 4,000 ตัน/วัน ลดการใช้งบประมาณในกำจัดขยะได้จำนวนมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี