18 พ.ค.58 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) ในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงานตรวจสอบการทุจริต กรณีเรียกรับผลประโยชน์ในการรับนักเรียนโดยไม่เป็นธรรม เปิดเผยว่า จากการสุ่มตรวจสอบขั้นตอนการรับนักเรียนอย่างละเอียดในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 15 พ.ค.และ 18 พ.ค.เบื้องต้นพบว่า มีการฝากเด็กโดยอาศัยช่องของเงื่อนไขพิเศษ หรือผู้มีอุปการคุณ โดยผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษาธิการ เขียนจดหมายฝากเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบางรายก็ฝากผ่านทางไลน์ของผู้บริหารโรงเรียน ทั้งที่ไม่ถือว่าเป็นผู้มีอุปการคุณ แต่อาศัยความเป็นผู้บังคับบัญชาในการฝากเด็ก และในการประกาศรายชื่อนักเรียนที่ผ่านการสอบบางโรงเรียนก็ประกาศทั้งรายชื่อ คะแนน และรายชื่อสำรอง
ส่วนบางโรงประกาศเพียงรายชื่อคนที่สอบผ่าน แต่ไม่ประกาศรายชื่อสำรอง ส่วนคะแนนก็แจ้งเป็นรายคน ขณะที่บางโรงประกาศแต่ชื่อคนที่สอบผ่านเท่านั้น ซึ่งทำให้มีการตั้งข้อสังเกตได้ว่า อาจเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้โรงเรียนสามารถรับเด็กมากกว่าที่ประกาศรับและเป็นช่องทางในการเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะ
สำหรับการรับเงินจากผู้ปกครองนั้น คณะทำงานได้รับเอกสารจากคณะกรรมการรับนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง เพื่อยืนยันการจ่ายเงินของผู้ปกครองให้แก่ผู้บริหารโรงเรียน เป็นตัวเลข 6 หลัก โดยเงินนั้นไม่ใช่ค่าเทอม หรือค่าธรรมเนียมการเรียน และไม่ได้นำเข้าบัญชีโรงเรียน
นอกจากนี้ ยังพบว่า ในระหว่างวันที่ 17 - 19 เม.ย.และ 9 - 10 พ.ค.ปีนี้ ตู้เอทีเอ็มหน้าโรงเรียนบางโรงถูกกดเงินออกไปเป็นจำนวนมากจนเงินหมดตู้
ทั้งนี้ ได้มีการรายงานเบื้องต้นต่อหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตฯ แล้วเพื่อตั้งคณะทำงานลงไปตรวจสอบในเชิงลึกอีกครั้ง และในสัปดาห์หน้าจะมีการลงเก็บข้อมูลโรงเรียนในพื้นที่ต่างจังหวัดเพิ่มเติม โดยจะเร่งรวบรวมข้อมูลให้เสร็จสิ้นภายใน 2 เดือนนี้ เพื่อนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี