นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณาผ่านร่าง พ.ร.บ. การยางแห่งประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว และจะได้นำเสนอเพื่อลงพระปรมาภิไธยและประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป ถือว่าเป็นความสำเร็จของรัฐบาลที่ผ่านกฎหมายนี้สำเร็จ เนื่องจากได้มีความพยายามที่จะผ่านกฎหมายนี้มาเป็นเวลานับ 10 ปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐบาล สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และกรรมาธิการที่ได้ช่วยตรวจร่างอย่างรวดเร็ว รอบคอบ และมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ก็จะทำให้การบริหารงานยางธรรมชาติเป็นไปอย่างครบวงจร ทั้งด้านการผลิต การจำหน่าย งานวิชาการ ทำให้การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ที่จะสนับสนุนการปลูกยาง การเพิ่มผลผลิต และการใช้ยางธรรมชาติ เกิดประโยชน์อย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับหลักสำคัญของกฎหมายนี้ ได้แก่ 1. การรวมองค์การสวนยาง สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง และงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตร (สถาบันวิจัยยาง) เข้าด้วยกัน มีกรรมการนโยบายเป็นผู้กำหนดนโยบาย ทำให้การดำเนินการและการสั่งการมีเอกภาพ สามารถสนับสนุนผู้ปลูก ผู้ประกอบการ และการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ทันท่วงที 2. การแก้ไขหลักการการใช้เงิน CESS เพื่อให้สามารถครอบคลุมกิจการต่างๆ ที่จะช่วยให้การพัฒนาการผลิตและการใช้ยางธรรมชาติมีประสิทธิภาพขึ้น นอกเหนือไปจากการปลูกทดแทน และงานวิจัยซึ่งใช้เงิน CESS อยู่แล้ว
ทั้งนี้ ในเรื่องของการควบคุมการผลิตและจำหน่ายยางตาม พ.ร.บ. ควบคุมการยางนั้น กรมวิชาการเกษตรจะต้องดำเนินการด้านการควบคุมข้อมูล การพัฒนา และควบคุมการส่งออก ตลอดจนการกำหนดคุณภาพการผลิต การพัฒนาการผลิตและจำหน่ายในอนาคต ต้องใช้กฎหมายทั้ง 2 ฉบับควบคู่กันไป เพื่อให้นโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลกำหนดไว้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งไว้ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้ผลิตทั้งที่เป็นเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ หรือวิสาหกิจชุมชนผู้จำหน่ายยางธรรมชาติ อุตสาหกรรมต่อเนื่อง จะได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทาง มาตรการ นโยบาย และโครงการต่าง ๆ ร่วมกัน ความร่วมมือของทุกฝ่ายจะทำให้กฎหมายทั้ง 2 ฉบับก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ผลิตและอุตสาหกรรมยางธรรมชาติอย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี