วันที่ 21 พฤษภาคม ที่กระทรวงศึกษาธิการพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงาน “มิติใหม่การศึกษาเดินหน้าประเทศไทย” โดยมี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมผู้บริหารองค์กรหลัก ข้าราชการ ครู อาจารย์ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ต้อนรับ จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินเยี่ยมชมการแสดงนิทรรศการ เกี่ยวกับการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาฯ ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา พัฒนาผู้เรียน พัฒนาคุณภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่จัดแบ่งออกเป็น 9 โซน
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่ง ว่า ประเทศไทยติดหล่มตัวเองมานานในหลายๆ เรื่อง ซึ่งตนเห็นว่าที่แก้ปัญหาได้คือ การศึกษา ไม่ใช่ที่ผ่านมาการศึกษาไม่ดี เพียงแต่ต้องจัดหมวดหมู่ปัญหาใหม่ โดยใช้ศักยภาพที่มี ใช้ครูที่มีความรู้ความสามารถในการขับเคลื่อนการศึกษาให้เดินไปข้างหน้า ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่อำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนต่างๆ และดูแลกฎหมาย พร้อมทั้งเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมจัดการศึกษาควบคู่ จะทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว แต่หากไม่มีการจัดหมวดหมู่ใหม่ จะเป็นเบี้ยหัวแตก เพราะทุกหน่วยต้องการงบฯสูงมากในแต่ละปี แต่ผลสัมฤทธิ์ที่ออกมาไม่คุ้มค่ากับงบฯที่ใช้จ่ายไป ตนไม่อยากตำหนิใคร แต่อยู่ที่ผู้บริหารและรัฐบาลจะต้องควบคุม
นายกฯกล่าวถึงการส่งเสริมการจัดการศึกษาทางไกล ตามโครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมโรงเรียนวังไกลกังวล ว่าสามารถช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนครูของโรงเรียนชายขอบ และโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ห่างไกลได้ แต่หลายพื้นที่ยังมีปัญหาการ
เข้าถึงระบบอินเตอร์เนต และพลังงานไฟฟ้า ซึ่งรัฐบาลกำลังให้แก้ปัญหานี้อยู่ ซึ่งอีกไม่นานก็จะดีขึ้น ระยะนี้คงต้องพึ่งพาระบบการศึกษาทางไกล เพราะไม่ต้องการให้ครูไปอบรมบ่อยๆทำให้เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย จึงอยากให้อบรมครูในเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อลดค่าใช้จ่ายขณะเดียวกันจะต้องหาครูเก่งเข้ามาช่วยเสริมการจัดการเรียนการสอนทางไกล และอยากให้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ทางเทคโนโลยีของศธ.เพื่อเชื่อมโยงกับการจัดการเรียนการสอนทางไกลให้เป็นศูนย์ดูแลนักเรียน ที่อาจจะดูไปถึงเรื่องการกวดวิชา เพื่อเป็นทางเลือกให้เด็ก จะได้ไม่ต้องเสียเงินเรียนกวดวิชา เพราะบ้านเรามีทั้งคนรวยฐานะปานกลาง และคนยากจน ถึง 40% ของประชากรทั้งหมด ที่รัฐบาลจะต้องดูแล
“ขณะนี้ ยังมีปัญหาเด็กอ่านออก เขียนได้ ซึ่งเด็กไทยมีขีดความสามารถ แต่สมาธิสั้น ไม่สามารถคิดต่อได้ จึงต้องสอนให้คิดเป็น มีวิสัยทัศน์ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเด็กส่วนใหญ่ไม่ชอบอ่านหนังสือ ไม่ชอบทำอะไรที่ซับซ้อน ไม่รู้อนาคตของตัวเอง ไม่มีระเบียบวินัย ติดความทันสมัย อยากได้โทรศัพท์มือถือราคาแพงๆ พ่อ-แม่ก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสินหามาให้ เป็นปัญหาให้รัฐบาลต้องมาตามแก้ ดังนั้น จึงต้องสอนให้รู้จักความพอเพียง และประหยัดอดออม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ กล่าวต่อถึงการจัดการศึกษาเพื่ออาชีพ โดยเฉพาะระดับอาชีวศึกษา และอุดมศึกษา จะต้องผลิตบัณฑิตให้ตรงตามความต้องการของประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่จะต้องมีความเชื่อมโยงทั้งระบบ ทั้งการค้าการลงทุน ส่วนเรื่องการกระจายอำนาจการศึกษาลงไปสู่ท้องถิ่นนั้น จะต้องทำแผนเป็นระยะ ซึ่งระยะแรกนี้อยากให้ท้องถิ่นเข้ามาดูแลติดตามคุณภาพนักเรียนและครูก่อน เพราะหากให้ท้องถิ่นรับผิดชอบการศึกษาทั้งหมดทันทีจะเกิดปัญหา ซึ่งครูเองก็ยังไม่พร้อม ที่สำคัญประเทศไทยหากเปลี่ยนแปลงอะไรเร็วเกินไปมักจะเกิดปัญหา
ด้าน พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ต้องการประชาสัมพันธ์ผลงานที่ผ่านมา และสร้างการรับรู้สู่สังคม เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้เห็นเทคโนโลยีสมัยใหม่และสามารถนำไปใช้ ในการเรียนการสอนได้ งานครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เราได้มีวิวัฒนาการรูปแบบการเรียนการสอนที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งหากสามารถลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ ก็จะทำให้เด็กได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมแน่นอน ทั้งนี้ นายกฯ ได้ฝากให้ ศธ.ดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตครูให้ดีขึ้น รวมถึงระบบการเรียนการสอนในห้องเรียน เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีมีความเจริญก้าวหน้ามากกว่าสมัยที่นายกฯยังเป็นเด็กนักเรียนดังนั้น การพัฒนาเด็กในยุคปัจจุบันจึงจำเป็นต้องทำให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งครูและผู้บริหารจะต้องดูแลเด็กให้ดีด้วยเช่นกัน“ในปี 2558 มีการปฏิรูปการศึกษาไปหลายเรื่องเช่น การปฏิรูปการเรียนรู้สู่ห้องเรียน การยกระดับการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษ การพัฒนา เป็นต้น ส่วนประเด็นที่นายกฯเป็นห่วงคุณภาพชีวิตครูโดยเฉพาะปัญหาหนี้สินครู อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาโดยกำหนดเป็นมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งจะต้องเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเรื่องดังกล่าวมีความสำคัญเพราะเมื่อครูยังมีหนี้สินอยู่ก็จะไม่มีกำลังใจในการเตรียมการสอนให้แก่เด็กได้ แต่แน่นอนว่าแม้จะหาหนทางช่วยบรรเทาภาระหนี้สินครูก็จะต้องดูแลและสร้างวินัยการใช้จ่ายเงินด้วย โดยเฉพาะการต้องรู้จักใช้ชีวิตอย่างพอเพียงเป็นเรื่องที่นายกฯ ย้ำมาตลอด” พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี