2พันคนล่องเรือจ่ออ่าวไทย
โรฮีนจาทะลัก
ความมั่นคงสั่งสกัดห้ามเข้า
ทัพเรือโต้ใช้ปืนยิงขับไล่
สหรัฐทำเท่รับดูแล1พัน
จนมุมอีก10แก๊งค้ามนุษย์
เชื่อ‘โกโต้ง’ยังมีลูกพี่ใหญ่
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงข่าวที่ผู้ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายชาวโรฮีนจา ซึ่งเดินทางโดยเรือลอยลำเข้ามาในเขตน่านน้ำรอยต่อประเทศไทยและมาเลเซีย เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันขึ้นฝั่งอยู่ที่ จ.อาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ทหารไทยใช้ปืนขู่จะยิงเรือของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาเดินทางต่อไปว่า รัฐบาลไทยมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนที่จะไม่ใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ ยึดหลักการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม รวมทั้งทหารทุกนายที่ปฏิบัติการช่วยเหลือในคืนนั้นยืนยันว่าไม่มีการใช้อาวุธปืนข่มขู่แต่ใดๆ ทั้งสิ้น โดยทหารเรือได้สอบถามพูดคุย และทราบว่าทั้งหมดต้องการเดินทางต่อ ไม่ประสงค์จะขึ้นฝั่งไทย เพียงแต่ได้ร้องขออาหารและน้ำดื่ม ซึ่งเราก็จัดให้
ยอมรับทหารเรือเสียใจ
“รัฐบาลและกองทัพเรือขอปฏิเสธข่าวที่ไร้มูลความจริงนี้โดยสิ้นเชิง ข้อเท็จจริงคือนอกจากทหารเรือไทยจะให้อาหารและน้ำดื่มตามหลักมนุษยธรรมแล้ว ยังช่วยซ่อมเครื่องยนต์เรือที่ชำรุดให้ตามที่ร้องขอซึ่งต้องดำเนินการถึงตีสามกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจในวันนั้น ดังนั้นหากคิดจะใช้กำลังข่มขู่ขับไล่ก็คงไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องไปสอบถาม หรือให้การช่วยเหลือจนค่อนคืน และในวันนั้นก็มีสื่อมวลชนเป็นพยาน มาบันทึกภาพเหตุการณ์การช่วยเหลือด้วย แต่เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ความตั้งใจของทหารเรือไทย และรัฐบาลไทยรู้สึกเจ็บปวดกับคำกล่าวอ้างที่เลื่อนลอย ทำให้ทหารเรือไทยซึ่งทุ่มเท ตั้งใจทำงานเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และเพื่อปกป้องอธิปไตยทางทะเลของชาติรู้สึกเสียใจไม่น้อย” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
ผบ.ทร.จวกพูดเรื่อยเปื่อย
เช่นเดียวกับ พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผบ.ทร. ที่ยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากความเข้าใจผิดกันมากกว่า ซึ่งเรือของชาวโรฮีนจาที่เข้ามาในประเทศเกิดจากเครื่องยนต์มีปัญหา ซึ่งทางทัพภาคเรือที่ 3 ก็ได้ช่วยซ่อมแซมจนสามารถเดินทางต่อไปได้ ทั้งนี้ ได้มีการสอบถามว่าจะเดินทางไปประเทศไหน เขาก็บอกว่าจะไปประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นแบบนี้แล้วเราจะไปซ้อม หรือ ไล่ยิงเขาทำไม ตนไม่อยากให้ไปฟังเลย เพราะไม่มีน้ำหนักอะไร พูดไปเรื่อย เราจะต้องเข้าใจ และนึกภาพให้ออกว่าถ้าจะยิงชาวโรฮีนจาแล้ว ทำไมเราจะต้องช่วยเหลือเขาด้วย
ได้ตัวผู้ต้องหาเพิ่มอีก9ราย
วันเดียวกัน พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รอง ผบก.ภ.9 แถลงความคืบหน้าในคดีเครือข่ายค้ามนุษย์ว่า ขณะนี้มีผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวพิ่มอีกรวม 9 คน แยกเป็น ผู้ต้องหาที่มอบตัว 4 คน ประกอบด้วย นายโปเซี๊ย อังโชติพันธุ์ ลูกพี่ลูกน้องของนายปัจจุบัน อังโชติพันธ์ หรือโกโต้ง อดีตนายก อบจ.สตูล ผู้ต้องหาคนสำคัญ, นายสมพล อาดำ กำนัน ต.เกาะสาหร่าย จ.สตูล , นายสมบูรณ์ สันโด และนายสมเกียรติ แก้วประดับ ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม 5 คน คือ นายอับดุลลาซีด มันตะสุม, นายหมัดยุโส๊ป บิลเหล็ม, นายเจ๊ะเต๊ะ ยะฝาด, นายหมิด หมอชื่น และนายอูเซ็นต์ ชาวบังคลาเทศ โดยกลุ่มนี้ เป็นเครือข่ายค้ามนุษยใน จ.สตูล ระนอง และสงขลา นอกจากนี้ ศาลจังหวัดนาทวียังได้อนุมัติหมายจับในคดีนี้เพิ่มเติมอีก 6 ราย
มอบตัวอีก1-เชื่อมีใหญ่กว่าโกโต้ง
ต่อมา นายวุฒิ วุฒิประดิษฐ์ อายุ 49 ปี อดีตตำรวจ จ.สตูล ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายค้ามนุษย์ใน จ.สตูล กลุ่มเดียวกับโกโต้งได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค9 ส่วนหน้า(ศปก.ภ.9สน.) เพิ่มอีก 1 คน โดยนายวุฒิ เป็นหัวหน้าเครือข่ายที่รับผิดชอบในพื้นที่ ต.วังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล จากเครือข่ายค้ามนุษย์ที่มีอยู่ทั้งหมด 5 กลุ่มใน จ.สตูล ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวสอบสวนทันทีและแจ้งข้อหาดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ ค้ามนุษย์ หน่วงเหนี่ยวกักขังและเรียกค่าไถ่ รวมผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวได้แล้วทั้งหมด 44 คน จากที่ถูกออกหมายจับ 77 คน เหลือที่ยังหลบหนีอีก 33 คน
ด้าน พล.ต.ต.ปวิณ พงศ์สิรินทร์ รอง ผบก.ภ.8 หัวหน้าชุดสอบสวน เผยว่า การสอบสวนขยายผลน่าจะมีตัวการที่ใหญ่กว่าโกโต้ง เพียงแต่ขณะนี้พยานและหลักฐานยังสาวไปไม่ถึงตัว
โรฮีนจาจ่อทะลักอีก2พันคน
พ.อ.สุทธิพงษ์ จงภักดี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) จ.ระนอง เปิดเผยว่า ได้แจ้งให้หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จ.ระนอง ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของผู้อพยพทางทะเลชาวโรฮีนจา หลังจากมีเบาะแสว่าจะเดินทางมาจากรัฐยะไข่ซึ่งอยู่ตอนเหนือของพม่า หรือตอนใต้ของบังกลาเทศ ห่างจากประเทศไทยระยะทาง 780 ไมล์ ใช้เวลาเฉลี่ย 15 วัน คาดว่าจะเดินทางมายังน่านน้ำประเทศไทยในช่วงวันที่ 29 พฤษภาคม-3 มิถุนายนนี้ จำนวนกว่า 2,000 คน โดยให้ทุกหน่วยยึดแนวทางการปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลและเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน
สั่งสกัดกั้นการเข้าเมืองทันที
พ.อ.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางรับมือการเข้ามาของชาวโรฮีนจา จะเริ่มจากการสกัดกั้นและปฏิเสธการเข้าเมืองทันที โดยได้กำหนดแนวสกัดกั้นตามเส้นทางการหลบหนีเข้าเมืองทางทะเล ตั้งแต่แนวเกาะตาครุฑ,เกาะสินไห,เกาะช้าง,เกาะพยาม,เกาะค้างคาว ซึ่งเป็นเส้นทางหลบหนีเข้าเมืองทางทะเล โดยพยายามใช้วิธีชักจูงเเละโน้มน้าวไม่ให้ขึ้นฝั่ง พร้อมทั้งจะสนับสนุนเสบียง อาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค น้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้เดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม
พบนายทุนทำเอกสารเรือเก๊
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง จ.ระนอง เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่าเจ้าของเรือประมงดัดแปลงมีการเคลื่อนไหวในการจัดการด้านเอกสารกรรมสิทธิการครอบครองเรือ ซึ่งอาจจะเป็นเอกสารปลอม เพื่อไม่ให้ระบุว่าเรือที่ดัดแปลงเป็นของเจ้าของเดิม แต่อาจจะมีผู้ที่มาเช่าหรือมีการโอนให้บุคคลอื่นนำไปใช้ ส่วนใหญ่จะอุปโลกน์ป็นชาวเมียนมาที่มาขอเช่า โดยคาดว่าเป็นความพยายามที่จะไม่ให้มีการสอบสวนขยายผล ซึ่งนำไปพัวพันกับขบวนการค้ามนุษย์ หากมีการโยงมาถึงตัวหรือมาจากเรือดัดแปลงที่ครอบครองอยู่โดยจะได้ใช้เหตุผลว่าให้คนอื่นเช่าต่อไป เพื่อปัดความผิดให้พ้นตนเอง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้อายัดเรือดัดแปลงต้องสงสัยไว้แล้ว 16 ลำ
สมยศขู่เชือดตร.เอี่ยวค้ามนุษย์
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. แสดงความเชื่อมั่นว่า การประชุมเพื่อหาแนวทางทางแก้ไขปัญหาชาวโรฮีนจาของนานาชาติ ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ จะสามารถหาทางออกได้ ส่วนข้าราชการตำรวจถูกเรียกให้มาช่วยราชการที่ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.สตช.) กว่า 60 รายนั้น ขณะนี้ฝ่ายจเรตำรวจแห่งชาติ อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจาหรือไม่ หากพบว่ามีหลักฐานชัดเจนว่า หรือมีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิด ก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
18ชาติพร้อมถกแก้โรฮีนจา
รายงานข่าวจากกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่าในการประชุมว่าด้วยเรื่องโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย เพื่อแก้ปัญหาคนลักลอบเข้าเมือง ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ มี 18 ชาติที่เข้าร่วมประชุม ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ พม่า เวียดนาม กัมพูชา ลาว บรูไน สิงคโปร์ บังกลาเทศ อัฟกานิสถาน ออสเตรเลีย อินเดีย อิหร่าน ปากีสถาน ปาปัวนิวกินี ศรีลังกา และประเทศผู้สังเกตการณ์อาทิ สหรัฐฯ และสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งมีองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (ไอโอเอ็ม) สำนักงานยาเสพติดแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นโอดีซี) ร่วมประชุม ซึ่งจะมีการหยิบยกปัญหาชาวโรฮีนจาขึ้นมาหารือด้วย
มะกันประกาศรับไว้ดูแลพันคน
ด้านเว็บไซต์ไทม์ รายงานว่า ประธานาธิบดี บารัก โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประกาศว่า พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อพยพชาวโรฮีนจา ด้วยการรับมาอยู่ในสหรัฐฯ ประมาณ 1,000 คน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่จะถึงนี้ อันเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของประชาคมโลกในการช่วยเหลือผู้อพยพโรฮีนจาที่ต้องอยู่บนเรือลอยลำอยู่กลางทะเล
ขณะที่ แมรี ฮาร์ฟ โฆษกหญิงประจำกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า สหรัฐฯ จะช่วยหน่วยงานต่างๆ ของสหประชาชาติ จัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้อพยพและจะพิจารณาคำร้องของตั้งถิ่นฐานของผู้อพยพบางส่วน และสหรัฐฯ พร้อมให้ความช่วยเหลือประเทศต่างๆ ในภูมิภาค โดยจะรับบทบาทผู้นำในการให้ความช่วยเหลือรับผู้อพยพบางส่วนที่อ่อนแอที่สุด แต่ก็เตือนว่าต้องเป็นความพยายามของนานาชาติด้วย ไม่ใช่นำโดยสหรัฐฯ เพียงลำพัง
แกมเบียประกาศรับไว้ทั้งหมด
วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าประเทศแกมเบีย ซึ่งเป็นประเทศยากจนที่ตั้งอยู่ในแถบแอฟริกาตะวันตกออก ได้มีแถลงการณ์เสนอที่พักพิงให้แก่ผู้อพยพชาวโรฮีนจาทั้งหมด โดยระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อบรรเทาความทุกข์ร้อนของพี่น้องชาวมุสลิมเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อหลีกหนีการถูกกดขี่ข่มเหง พร้อมเรียกร้องต่อประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ช่วยส่งผู้อพยพมายังชายฝั่งของแกมเบีย ซึ่งจะมีการสร้างค่ายผู้ลี้ภัยให้แก่ชาวโรฮีนจา พร้อมแสดงความวิตกต่อสถานการณ์ผู้อพยพชาวโรฮีนจาในเมียนมา โดยเฉพาะเรือมนุษย์จำนวนมากลอยเคว้งคว้างอยู่ในทะเลนอกชายฝั่งอินโดนีเซียและมาเลเซีย
ออสเตรเลียลั่นไม่ให้เข้าปท.
แต่ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีโทนี่ แอบบอตต์ ของออสเตรเลีย กล่าวว่า จะไม่ยอมให้ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาเข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศเป็นอันขาด เนื่องจากผู้อพยพทางเรือเหล่านี้ ไม่สมควรได้รับรางวัลด้วยการเข้าไปใช้ชีวิตใหม่ในประเทศตะวันตก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี