เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานการประชุมบูรณาการหน่วยงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการหาแนวทางสนับสนุนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) บังคับใช้กฎหมายต่อพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกปลูกยางพารา ในพื้นที่ความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรงของกองทัพภาคที่ 1 เข้าร่วมประชุม
โดย พล.อ.ดาว์พงษ์ เปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า เป็นการขับเคลื่อนแผนการนำพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกคืนตามนโยบายของรัฐบาล โดยจะให้ความเร่งด่วนกับพื้นที่ที่ถูกบุกรุกทำสวนยางพาราก่อน ซึ่งทั่วประเทศมีพื้นที่ถูกบุกรุกทำสวนยางพาราทั้งหมดประมาณ 5.5 ล้านไร่ ซึ่งทส.ไม่สามารถดำเนินการยึดคืนโดยลำพังได้ จึงต้องขอความร่วมมือจากกองทัพ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพ
“เราดีใจที่มีทหารมาร่วมกับเรา การดำเนินงานมีขั้นตอนครอบคลุมทุกพื้นที่แล้ว มีรายชื่อป่า รายชื่ออุทยานแห่งชาติที่ถูกบุกรุก ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไปจะเริ่มลงพื้นที่ เพื่อดำเนินงานตามขั้นตอนที่วางไว้ และขอย้ำว่าจะไม่มีการเคาะกะลาเรียกรับผลประโยชน์จากนายทุน รวมถึงเจ้าหน้าที่ต้องระวังการแอบอ้าง ผมประกาศเลยว่าจะไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ ตั้งโต๊ะแอบอ้าง อย่าไปหลงเชื่อเพราะจะเสียเงินไปเปล่าๆ” พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวและย้ำว่า พื้นที่ที่บุกรุกทำสวนยางพารามีประมาณ 5.5 ล้านไร่ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ปริมาณน้ำยางพาราล้นตลาด ดังนั้นปีนี้เราตั้งเป้าหมายนำพื้นที่คืน 6 แสนไร่ทั้งประเทศ ส่วนปี 2559 ตั้งเป้าไว้ 9 แสนไร่ รวมกันประมาณ 1.5 ล้านไร่ ที่เป็นพื้นที่ของนายทุน
ขณะที่ พล.ท.กัมปนาท กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 1 ตระหนักว่า รัฐบาลมีเจตนาและแนวทางที่ชัดเจน ในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าไม้ให้เป็นรูปธรรม พร้อมทั้งขับเคลื่อนการปฏิบัติงานทุกภาคส่วน ซึ่งปัญหาการบุกรุกป่าไม้เป็นบ่อเกิดปัญหาส่งผบกระทบประชาชน อาทิ ภัยแล้ง น้ำท่วม หมอกควัน ซึ่งกองทัพภาคที่ 1 พร้อมปฏิบัติงานให้เป็นตามเจตนารมย์ของรัฐบาล
วันเดียวกัน นายชำนาญ กลิ่นจันทร์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ส.ป.ก.โคราช) เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามตรวจสอบและยึดคืนพื้นที่บุกรุกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. ว่า สัปดาห์หน้า ชุดเฉพาะกิจจาก ส.ป.ก. ส่วนกลาง นำโดย นางเปรมจิต สังขพงษ์ รองเลขาธิการ ส.ป.ก. จะลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ของกลุ่มนายทุนรายใหญ่ในพื้นที่ ปาช่อง เขาใหญ่ และวังน้ำเขียว ซึ่งเป็นพื้นที่ส.ป.ก.ยังไม่ได้เข้ารังวัดให้เกษตรกรเข้าทำกินและออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 รวมพื้นที่ 4.3 หมื่นไร่ และเป็นพื้นที่มีปัญหามายาวนาน เพราะชาวบ้านไม่ยอมแสดงตนรับสิทธิ ส.ป.ก.
“การตรวจสอบครั้งนี้ จะเป็นการเอ็กซเรย์พื้นที่ประกาศเขต ส.ป.ก. แต่ยังไม่มีการออกเอกสารสิทธิ ซึ่งหากพบการบุกรุกในพื้นที่ใด และไม่ใช่เกษตรกร จะมีการแจ้งให้ออกจากพื้นที่ทันที ส่วนพื้นที่อื่นๆ ที่มีปัญหา เช่น รีสอร์ทโบนันซ่า คีรียามา โครงการมูนแดนซ์ ต้องผ่านขบวนการพิสูจน์การได้มาของโฉนดออกโดยชอบหรือไม่ หากพบว่าไม่ชอบจึงเป็นหน้าที่ของ ส.ป.ก.เข้าไปเพิกถอน” นายชำนาญ กล่าว
ส่วนการตรวจสอบกรณีนายชังรังวัดที่ดิน ส.ป.ก.โคราช ออกเอกสารสิทธิที่ดินทับพื้นที่ ส.ป.ก. บริเวณเขาใหญ่ 155 ไร่นั้น นายชำนาญ กล่าวว่า คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้สอบสวนฝ่ายโจทย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการสอบพยานและผู้เกี่ยวข้องตามเอกสารหลักฐาน หากพบความผิดก็จะดำเนินการสอบทางวินัยต่อทันที และถ้าผิดวินัยร้ายแรง ก็มีโทษ 3 ระดับ คือ ให้ออก ปลดออก และไล่ออก โดยตนได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายช่างรังวัดไว้แล้ว ในข้อหามีการใช้เอกสารราชการไม่ตรงตามระเบียบ เรื่องการออกโฉนด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี