เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร ภาค 9 ส่วนหน้า พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9(รองผบก.ภ.9) แถลงถึงความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาทั้งใน จ.สงขลา สตูล และระนอง ล่าสุดผู้ต้องหาเข้ามอบตัวอีก 2 คน คือ นายศราวุธ พรหมกะหมัด และนายทนงศักดิ์ เหมมัน เครือข่ายค้ามนุษย์ใน จ.สงขลา ทำให้ขณะนี้ ยอดรวมผู้ต้องหาทั้งที่มอบตัว ถูกจับกุมและอายัดตัวทั้งหมดอยู่ที่ 46 คน จากที่มีการออกหมายจับไปแล้ว 77 คน ยังเหลืออีก 31 คน ยังหลบหนี ซึ่งมีทั้งนักการเมืองท้องถิ่นและผู้ต้องท้องถิ่นโดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สตูล
วันเดียวกัน ทางอัยการสูงสุดยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา1 ชุดเพื่อเข้าร่วมประชุมกับทีมสอบสวน เพื่อให้ขั้นตอนการสอบสวนและรวมรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวดเร็วยิ่งขึ้นและเสร็จตามกำหนดในกลางเดือนมิถุนายนนี้ก่อนที่จะส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด เนื่องจากรายละเอียดของคดีนี้มีมาก โดยในวันนี้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. และ ร.ท.สมนึก เสียงก้อง รองอธิบดีอัยการ ได้ร่วมประชุมชุดสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างรัดกุม รวมทั้งประเด็นสำคัญที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติมก่อนส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด
ส่วนผลการสอบสวนผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ที่เข้ามอบตัวและจับกุมได้ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้ง นายโปเซี๊ย อังโชติพันธุ์ หรือโปเซี่ย เครือญาติ นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง ผู้ต้องหารายสำคัญ, นายสมพล อาดำ สจ.เขตต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล, นายสมบูรณ์ สันโด หรือกำนันดีน อดีตกำนันต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล และนายวุฒิ วุฒิประดิษฐ์ อดีตตำรวจสตูล ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและขอสู้คดีในชั้นศาล
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาเครือข่ายค้ามนุษย์ของโกโต้งจำนวน 9 คน ที่เข้ามอบตัวและถูกจับกุมเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ไปฝากขังศาลจังหวัดนาทวีผลัดแรก พร้อมทั้งคัดค้านการประกันตัว
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าคดีขบวนการค้ามนุษย์โรฮีนจา ว่า สามารถอายัดจับกุมและมอบตัวแล้ว 43 คน บางรายให้การรับสารภาพและเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวน ทั้งนี้ หากมีการพาดพิงถึงใครจะดำเนินการพิจารณาออกหมายจับต่อไป ส่วนทรัพย์สินที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวนั้น ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้นำเสนอผ่านคณะกรรมการธุรกรรมพิจารณาอายัดแล้ว เบื้องต้นมีมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท
ด้านน.ต.วีระพงษ์ นาคประสิทธิ์ ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยาน และรักษาฝั่งที่ 491 หลีเป๊ะ กองทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวถึงกรณีที่มีชาวโรฮีนจาให้ข้อมูลว่าถูกทหารไทยใช้ปืนข่มขู่ และไล่ยิงเพื่อให้เรือที่โดยสารมาแล่นพ้นน่านน้ำไทย โดยยืนยันว่า การปฏิบัติหน้าที่ของทหารไทยเป็นไปในกรอบของหลักมนุษยชน และเห็นว่า การให้ข้อมูลลักษณะนี้อาจจะเป็นการเข้าใจผิด คิดไปเองว่าต้องเป็นทหารไทย เพราะระหว่างทางอาจจะถูกกลุ่มเรือประมงข่มขู่มาจากหลายพื้นที่ ยอมรับว่า อาจจะรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย แต่ไม่ท้อในการทำหน้าที่ เพราะทำทุกอย่างตามหลักมนุษยชนแล้ว และหลังจากนี้ก็จะปกป้องน่านน้ำไทยอย่างเข้มแข็งต่อไป
ขณะที่นายนาจิบ ราซะก์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เปิดเผยว่า จะเริ่มภารกิจค้นหาและกู้ภัยเรืออพยพชาวโรฮีนจาในทะเลอันดามัน และจะมีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แก่คนเหล่านี้ทั้งทางบกและทางทะเลด้วย
ส่วนรองประธานาธิบดียูซุฟ คัลลา ของอินโดนีเซีย ยืนยันว่า จะจัดตั้งที่พักชั่วคราว และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่กลุ่มผู้อพยพชาวโรฮีนจาที่ยังติดค้างอยู่ในทะเล พร้อมกันนี้ ได้เรียกร้องต่อประชาคมโลกให้การสนับสนุนความพยายามของอินโดนีเซียด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี