นายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงประเด็นการเคลื่อนย้ายแรงงานภาคเกษตร จากการสำรวจของสำนักงานสถิติ เดือนเมษายน 2558 ว่า ผู้มีงานทำ 37.53 ล้านคน เป็นแรงงานภาคการเกษตร จำนวน 10.61 ล้านคน นอกภาคเกษตร จำนวน 26.92 ล้านคน ซึ่งสำนักสถิติระบุว่า เมื่อมีอัตราการเปลี่ยนแปล พบว่า แรงงานภาคเกษตร ลดลง 430,000 คน แต่นอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 630,000 คน โดยอยู่ในสาขาการผลิต 400,000 คน และภาคบริการ (โรงแรมและภัตตาคาร 100,000) ทั้งนี้ แรงงานไทยอยู่ในภาคเกษตร 40% ของแรงงานที่มีงานทำทั้งหมด แต่มีมูลค่าผลผลิตเพียง 8% ของ GDP แรงงานภาคเกษตร ดังนั้น การทำงานภาคเกษตรต้องมีการนำเทคโนโลยีทางการเกษตรเข้ามาช่วยเพื่อสร้างคุณค่างานภาคเกษตรรวมถึงยกระดับอาชีพเกษตรกรที่มีเกียรติและสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคเกษตร อีกทั้งเป็นการยกระดับผลิตภาพแรงงานภาคเกษตรได้ไปพร้อมกัน เพื่อดึงดูดแรงงานรุ่นใหม่มาทำงานภาคเกษตรต่อไป
“ถามว่าการเคลื่อนย้ายแรงงานภาคการเกษตรจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยหรือไม่ สิ่งแรกคือ ทำให้ความมั่นคงทางด้านอาหารการเกษตรซึ่งแนวทางแก้ไขโดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเกษตรกรที่น่าจะดำเนินการได้ อาทิ การทำเกษตรแบบไฮเทค ใช้เครื่องมือ ลดต้นทุนการผลิต ซึ่งหากใช้วิทยาศาสตร์ จะทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ ถึงเวลาแล้วที่จะนำเทคโนโลยีมาช่วยภาคการเกษตรอย่างจริงจัง”
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้เตรียมพร้อมในการรองรับการเคลื่อนย้ายแรงงานภาคการเกษตร เมื่อย้ายมาอยู่ในภาคอุตสาหกรรม เบื้องต้นได้ให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเปิดหลักสูตรวินัยอุตสาหกรรม เพื่อปรับพื้นฐานเตรียมความพร้อม เป็นหลักสูตรการอบรมด้านวินัยของการทำงาน อาทิ การตรงต่อเวลา ทำงานเป็นทีม ฯลฯ เป็นต้น แรงงานภาคเกษตรกรรมต้องมีการปรับตัว อย่างไรก็ตาม แรงงานภาคเกษตรที่เข้ามาในภาคอุตสาหกรรมไม่ได้ตอบโจทก์ในความต้องการแรงงานของภาคอุตสาหกรรม
“แม้ว่าปัจจุบันนายจ้างจะแสดงความต้องการแรงงานเป็นจำนวนมาก แต่แรงงานภาคการเกษตรที่เข้ามาอาจไม่มีประสบการณ์หรือพื้นฐานความเข้าใจในงานที่นายจ้างต้องการ บางครั้งเรียนมาไม่ตรงกับตลาดแรงงาน เนื่องจากปัจจุบันตลาดแรงงานต้องการแรงงานด้านช่างเทคนิค ผู้จัดการโรงงาน ผู้ให้บริการ ฉะนั้น แรงงานภาคเกษตรที่เข้ามาในภาคอุตสาหกรรมไม่ได้ตอบโจทก์ในความต้องการแรงงานของภาคอุตสาหกรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี