นายอดินันท์ ปากบารา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนการศึกษาของโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศ พบว่ามีการเบิกเงินซ้ำซ้อนจำนวนมากถึง 79 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) ได้มีการเรียกเงินที่เบิกซ้ำซ้อนคืนแล้ว ส่วนกรณีที่ซ้ำซ้อนหรือเบิกเกินไปต่ำกว่า 1 ล้านบาท ก็ให้จ่ายคืนทันที หากเบิกเกิน 1 ล้านบาท ให้ทำการยอมรับสภาพหนี้และจ่ายคืนภายใน 1 ปี ทั้งนี้ ในจำนวนที่เบิกเงินอุดหนุนซ้ำซ้อนนั้นเฉพาะ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา สงขลา4 อำเภอ และ สตูล รวมแล้วเป็นเงินประมาณ 32 ล้านบาท ซึ่งก็ได้มีการเรียกเงินคืนแล้วบางส่วน
เลขาธิการ กช. กล่าวต่อว่า การจ่ายเงินอุดหนุนนั้น แม้ว่าจะพบว่ามีโรงเรียนเอกชนเบิกเงินอุดหนุนเกินไปแล้ว และอาจจะยังไม่จ่ายคืน แต่ก็เป็นหน้าที่ที่รัฐจะต้องจ่ายเงินอุดหนุนตามรายหัวเด็ก ดังนั้น จึงจำเป็นต้องจ่ายไปตามปกติ แต่ต้องทำด้วยความรอบคอบมากขึ้น และเด็กต้องมีตัวตนจริงในโรงเรียน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการเปลี่ยนระบบการจ่ายเงินมาเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้มากขึ้น หากพบว่าสถานศึกษาใดไม่มีเด็กจริง แต่รับเงินอุดหนุนก็ต้องถูกดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายกับผู้บริหารโรงเรียนหรือผู้รับใบอนุญาตโดยตรง ซึ่งมั่นใจว่าในปีการศึกษา 2558 นี้ น่าจะสามารถจ่ายเงินอุดหนุนได้ตรงตามจำนวนนักเรียนที่มีอยู่จริงได้เกือบ 100% ซึ่งจะสามารถป้องกันการรั่วไหลของงบประมาณแผ่นดินได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ในส่วนของโรงเรียนเอกชน ที่เบิกเงินอุดหนุนเกินไปแล้ว ได้มาขอผ่อนผันซึ่งอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ ในวงเงินสูงสุดประมาณ 4 ล้านบาท ที่มีประมาณ 10 กว่าโรง โดยมีทั้งโรงเรียนเอกชนสายสามัญ โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม โรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชน และโรงเรียนการกุศลของวัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี