นับเนื่องมาถึงปี พ.ศ. 2558 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีอายุครบ 72 ปี ซึ่งนับว่า เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย
ตลอดระยะเวลา 72 ปี ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้มีการพัฒนาทางด้านการศึกษา การบริหาร และกิจกรรมต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่ยอมรับของคนไทยทั้งประเทศ ตลอดรวมไปถึง ชาวต่างประเทศว่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ของไทยมีศักยภาพโดดเด่น ทางด้าน สาขาเกษตรสัตวแพทยศาสตร์ ประมง วนศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์มนุษยศาสตร์ และ บริหารธุรกิจ นอกจากนี้ยังเป็นที่ยอมรับกันถึงคุณภาพการเรียนการสอนในหลายๆ ด้าน อาทิ ด้านการเรียนการสอน ภาษาและวัฒนธรรม ตลอดจนด้านการวิจัย ด้านธุรกิจและการค้า ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปจากนานาประเทศ
และ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยได้มีการเปิดแถลงข่าวถึง การเปิดประตูสู่ประเทศบราซิล ให้สื่อมวลชนได้รับรู้ โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าวหลายท่าน อาทิ ดร.อนามัย ดำเนตร รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นประธานการแถลงข่าว พร้อมด้วย นายพิชยพันธุ์ ชาญภูมิดล เอกอัครราชทูต ณ บราซิเลีย, H.E.MR.Gilberto de Moura เอกอัครราชทูตบราซิลประจำประเทศไทย,นายทรงศัก สายเชื้อ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้กระทรวงการต่างประเทศ และคณะผู้บริหาร มก. ได้แก่ รศ.ดร.พูนพิภพ เกษมทรัพย์ รักษาราชการแทนรองอธิการบดีวิทยาเขตกำแพงแสน, ศ.น.สพ.ดร.อภินันท์ สุประเสริฐ คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ โดยมีเป้าหมายหลักอยู่ที่ต้องการสร้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้เป็นศูนย์กลางทางด้านการศึกษา วิจัย ธุรกิจและการค้า รองรับการเปิดประตูการค้าของไทยกับบราซิล ซึ่งนับได้ว่า เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทยในการเริ่มกิจกรรมความร่วมมือทางวิชาการ แนวทางการส่งเสริมและขยายความร่วมมือทางวิชาการระหว่างไทย กับ บราซิล และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กับ สถาบันอุดมศึกษา และหน่วยงานวิจัยในบราซิล
ดร.อนามัย ดำเนตร รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ในฐานะของสถาบันการศึกษาที่มีการเรียนการสอน การวิจัยด้านการเกษตรแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งครบรอบ 72 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยังคงรักษาอันดับหนึ่งในกลุ่มสาขา Agricultural & Forestry (ด้านเกษตรและป่าไม้) ได้อย่างต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกแยกตามสาขาวิชา ประจำปี พ.ศ.2558 โดย Quacquarelli Symonds (QS World University Ranking by Subject 2015) ซึ่งในปี พ.ศ. 2558 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ติดอันดับโลก จำนวน 2 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชา Agriculture & Forestry อยู่ในอันดับโลกที่ 39 และอันดับไทยเป็นที่ 1 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2014 ที่อยู่ในอันดับโลกที่ 48 และสาขาวิชา Biological Sciences อยู่ในอันดับโลกที่ 301-400 อันดับไทยที่ 4
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ยังเป็นสถาบันการศึกษาของประเทศไทยแห่งแรกที่มีความร่วมมือกับสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยมีการลงนามความร่วมมือทางวิชาการ(MOU) กับ สองสถาบันการศึกษาของสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล คือ Federal University of Santa Maria และ Universidade de Sao Paulo ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาอันดับ 1 ของบราซิล และ มีความคล้ายคลึงกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สามารถเชื่อมโยงความร่วมมือด้านการศึกษาเข้ากับภาคธุรกิจ ในลักษณะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่เป็นจุดเด่นระหว่างกัน นับเป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาเป็นครั้งแรกของประเทศไทย เพื่อต่อยอดการพัฒนาเศรษฐกิจตามแผนพัฒนาของประเทศไทย สาขาวิชาต่างๆ ที่มหาวิทยาลัยมีศักยภาพโดดเด่น ได้แก่ สาขาเกษตร สัตวแพทยศาสตร์ ประมง วนศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และบริหารธุรกิจ ดังนั้นจึงสามารถตอบโจทย์ความร่วมมือทางวิชาการกับบราซิล ทั้งในด้านการเรียนการสอน ภาษาและวัฒนธรรม ตลอดจนด้านการวิจัย ด้านธุรกิจ และ การค้า นับเป็นการนำร่องเปิดประตูก้าวสู่บราซิลของสถาบันการศึกษา โดยมีนายพิชยพันธุ์ ชาญภูมิดลเอกอัครราชทูต ณ กรุงบราซิเลีย และกระทรวงการต่างประเทศประสานความร่วมมือและให้คำแนะนำมาโดยตลอด ดร.อนามัยดำเนตร ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับนักศึกษาแลกเปลี่ยนจากสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล เพื่อการศึกษาด้านการเกษตรในระดับปริญญาเอกจากDepartment of Forest Sciences, Universidade de Sao Paulo สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล จำนวน 1 คน เข้าเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนภายใต้เครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการด้านยางพารา หรือ Heavea Research Platform in Partnership (HRPP) เป็นระยะเวลา 9 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม-9 ธันวาคม 2558) ภายใต้การดูแลของรศ.ดร.พูนพิภพ เกษมทรัพย์ ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร นอกจากนี้คณะสัตวแพทยศาสตร์ รับนักศึกษาแลกเปลี่ยนจาก The Federal University of Santa Maria จำนวน 2 คน เพื่อเข้าร่วมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการนานาชาติ “โครงการสัตวแพทย์อาสาอาเซียน” ประจำปี 2558 (ASEAN Veterinary Volunteer Project-AWP 2015) ระหว่างวันที่ 24 พฤษภาคมถึงวันที่ 13 มิถุนายน 2558 คณะมนุษยศาสตร์ เปิดการเรียนการสอนภาษาโปรตุเกส ในระดับปริญญาตรี พร้อมกันนี้ยังได้จัดส่งหนังสือและตำราภาษาไทยเพื่อการศึกษาและเรียนรู้ณ Thai Corner สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล ด้วย
สำหรับการส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการศึกษาและการต่อยอดงานวิจัยในเชิงพาณิชย์ในอนาคตนั้น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท-เอก แก่นักศึกษาจากสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล จำนวน 14 ทุน ในลักษณะของการยกเว้นค่าธรรมเนียมการศึกษา และผู้รับทุนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนตัว ได้แก่สาขาวิชาบริหารธุรกิจ ระดับปริญญาโท-เอก 4 ทุน สาขาวิทยาศาสตร์ ระดับปริญญาเอก 2 ทุน (Bioscience Technology และ Chemistry) สาขาวิศวกรรมศาสตร์ ระดับปริญญาโท 2 ทุน สาขาวนศาสตร์ ระดับปริญญาโท-เอก 2 ทุน (ด้าน Tropical Forestry) สาขาเกษตร ระดับปริญญาโท 2 ทุน สาขาวิชาสัตวแพทยศาสตร์ ระดับปริญญาโท 2 ทุน (หลักสูตร Inter Risk Master Program ด้านระบาดวิทยา เป็นหลักสูตรร่วม 2 ปริญญา (Double Diploma, International Master program ระหว่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประเทศไทยกับ Veterinary School of Toulouse ประเทศฝรั่งเศส) ส่วนทางด้านการต่อยอดงานวิจัยในเชิงพาณิชย์ วางแผนที่จะร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจด้านความหลากหลายทางชีวภาพ กับ The National Institute of Amazonian Research (INPA) การเปิดร้านอาหาร ซึ่งดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ร่วมกับผู้ประกอบการภาคเอกชนของสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล ตลอดจนจัดตั้งศูนย์จำหน่ายสินค้า (Out Let) ที่เป็นผลผลิตจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ณ สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล
นับว่าเป็นโครงการและเจตนารมณ์ที่ดีอย่างยิ่งทางด้านการพัฒนาประเทศ ท่ามกลางการทำงานอย่างจริงจังของคณะ คสช. ที่ปรารถนาจะเปลี่ยนแปลง และสร้างชาติ สร้างพลเมืองรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพให้เกิดความยั่งยืนกันประเทศชาติต่อไปในอนาคต
ชนิตร ภู่กาญจน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี