ตั้งกก.3ฝ่าย
ขุดศพโรฮีนจามาเลย์
สอบสาเหตุการเสียชีวิต
ส่อเค้าถูกทรมานก่อนฆ่า
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึง การตั้งศูนย์อำนวยการลาดตระเวนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ในมหาสมุทรอินเดีย (ศอ.ยฐ.) ว่า กองทัพบกปฏิบัติงานโดยยึดถือตามหลักมนุษยชน ตามนโนบายของกระทรวงกลาโหม และถูกต้องตามกฏหมายไทยด้วย ขอให้มั่นใจว่าประเทศไทยเองจะดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพราะเราเป็นประเทศที่เอื้ออารีอยู่แล้ว แต่เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น เราต้องปฏิบัติตามกฏหมายที่มีอยู่
ส่วนประเด็นที่นายกรัฐมนตรี สั่งให้มีดารตรวจสอบสมาคมโรฮิงจา ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยว่าถูกต้องหรือไม่นั้น พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ที่ต้องดูแลเรื่องความถูกต้องต่างๆ ในส่วนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)เองก็ติดตามเรื่องดังกล่าวเช่นกัน ทั้งนี้ การตั้งสมาคมโรฮีนจา ต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ตลอดจนบทบาทอยู่ในกรอบที่เหมาะสม ไม่ใช่ตั้งเป็นสมาคมแล้ว แต่มีการดำเนินการจนสร้างผลกระทบ ก็ต้องติดตามดู ตนเป็นห่วงบางสมาคมฯ ต้องติดตามการจัดตั้ง ความชัดเจน รายละเอียดต่างๆ หากจัดตั้งถูกต้องก็ไม่เป็นไร แต่หากทำให้เกิดปัญหาก็ต้องเร่งดำเนินการ
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า การจัดตั้ง ศอ.ยฐ. ขึ้นมานั้น โดยตนได้มอบนโยบายอย่างชัดเจนแล้ว เรามีกฎหมายการเข้าเมือง หากมีผู้โยกย้ายถิ่นฐานเข้ามาทางเรือ มีเจตนาเข้ามาประเทศไทยก็สามารถเข้ามาได้ แต่จะต้องถูกควบคุมพื้นที่ เพราะถือว่าหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย แต่ถ้าอยากไปประเทศอื่นเราก็จะช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ไม่ใช่ผลักไสไล่ส่ง ถ้ามีคนเจ็บป่วยอาการหนักเราก็จะนำตัวมารักษาพยาบาล ส่วนประเทศใดที่จะเข้าร่วมก็ต้องอยู่ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์ฯ สำหรับงบประมาณทางกองบัญชาการกองทัพไทยจะเป็นผู้ประเมิน จากนั้นก็จะไปหารือกับองค์การสหประชาชาติ ในวันที่ 29 พฤษภาคมที่จะมีการประชุม ทางกระทรวงการต่างประเทศก็จะรายงานปัญหานี้ด้วย
ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวว่า ทางการมาเลเซียได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากไทยเพื่อให้ช่วยขุดหลุมภายในค่ายพักพิงที่เจ้าหน้าที่มาเลเซียตรวจสอบพบ บริเวณรัฐปะลิส ทางตอนเหนือของประเทศ ติดกับชายแดนมาเลเซีย-ไทย กว่า 30 หลุม มีร่างผู้เสียชีวิตกว่า 100 ร่าง ซึ่งขณะนี้ตนได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบคดีนี้ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อให้การช่วยเหลือมาเลเซียต่อไป และยังได้แนะนำให้มีการตั้งเป็นรูปแบบคณะกรรมการ ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองในพื้นที่ บช.ภ.9 เพื่อให้ช่วยประสานงาน แลกเปลี่ยนข้อมูล วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่มาเลเซียตรวจสอบพื้นที่ บริเวณที่พบหลุมศพภายในค่ายชาวโรฮีนจา ที่ถูกค้นพบล่าสุดอย่างเต็มที่
ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค9 พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9(ผบก.ภ.9) ประชุมฝ่ายสืบสวนสอบสวนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา โดยในส่วนของผู้ต้องหาค้ามนุษย์ 2 คนคือ นายดีน เหมมันต์ และ นายหมาดสอาด ใจดี ที่เข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ยังให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ถูกควบคุมตัวไว้ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค9ส่วนหน้า สภ.หาดใหญ่ และจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนาทวีในวันที่ 28 พฤษภาคม ส่วนผลการตรวจยึดทรัพย์นั้น ดำเนินการไปแล้ว 52 คน แยกเป็นผู้ต้องหา 15 คนและเครือข่าย 37 คน รวมมูลค่าทรัพย์สิน 84 ล้าน 5 แสนบาท
พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รอง ผบก.ภ.9 กล่าวว่า การออกหมายจับคดีค้ามนุษย์ในขณะนี้ยังอยู่ที่ 77 หมายจับ มีการจับกุมและมอบตัวแล้ว 49 คน รวมถึงผู้เข้ามอบตัวล่าสุด 1 ราย ที่ สภ.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา คือ นายชาคริต หลงสาม๊ะ อดีตนายก อบต.ตะมะลัง อ.เมือง จ.สตูล ขณะนี้พนักงานสอบสวนนำตัวไปสอบปากคำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับที่ต้องติดตามจับอีก 28 ราย
วันเดียวกัน ตำรวจมาเลเซียได้นำศพที่เชื่อว่าจะเป็นชาวโรฮีนจาลงจากเขาบ้านวังเกลียน รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย หลังใช้เวลาร่วม 6 ชม. ในการเดินเท้าไป-กลับ ยังแคมป์ที่พักพิงและหลุมฝังศพ ซึ่งก่อนหน้านี้พบหลุมศพจำนวน 139 หลุม มีแนวทอดยาวติดบ้านวังเกลียน ถึง บ้านปาดังเบซาร์ รัฐเปอร์ลิส ซึ่งในครั้งนี้ นำศพลงมาพิสูจน์ได้เพียง 2 ศพเท่านั้น เนื่องจากท้องฟ้าอากาศไม่เอื้ออำนวย โดยศพอยู่ในสภาพเน่าเปื่อยเหลือแต่โครงกระดูก โดยหลังจากนั้นได้ส่งไปชันสูตรพลิกศพต่อที่โรงพยาบาลในรัฐเปอร์ลิส เพื่อตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต ขณะที่ทางการในประเทศมาเลเซีย รัฐเปอร์ลิส มีการตรวจเข้มตลอดแนวเขตชายแดน
สำหรับทางขึ้นเขาบ้านวังเกลียน รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย เพื่อไปยังแคมป์ที่พักพิงชาวโรฮีนจา เป็นเส้นทางที่ชาวโรฮีนจาและขบวนการค้ามนุษย์เคยใช้ขึ้น-ลง อีกทั้งอยู่ห่างจากชายแดนบ้านวังประจัน อ.ควนโดน ประเทศไทยเพียง 1 กม. และเส้นทางยังเชื่อมไปยังบ้าน นายอาบู ฮะอุรา ส.อบจ.สตูล ที่ถูกจับกุมในคดีค้ามนุษย์จากเทือกเขาแก้ว สภ.ปาดังเบซาร์ด้วย
ขณะที่สำนักข่าวเดอะสตาร์รายงานว่า ศพแรกที่ถูกขุดพบในค่ายที่พักของกลุ่มค้ามนุษย์ในเนินเขาวังเบอร์มา ห่างจากชายแดนไทย-มาเลเซีย 1.5 กม. อาจเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นถึงความทารุณ ซึ่งร่างของผู้เคราะห์ร้ายถูกตัดแยกเป็น 3 ส่วน คือส่วนหัว ลำตัว และขา โดยศพที่พบเหลือเพียงซากกระดูกที่มีเศษเนื้อติดอยู่เล็กน้อย ชิ้นส่วนขาห่อหุ้มด้วยโสร่ง โดยพบเสื้อแขนยาว 2 ตัว ผ้าห่ม 2 ผืน และกางเกงขายาวอยู่ใกล้กับศพ แต่ยังไม่สามารถระบุเพศหรือสัญชาติได้ รวมทั้งไม่สามารถตอบได้ว่าถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตหรือไม่ และเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะพบศพเป็นจำนวนมากน้อยเพียงใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี