ก่อนถึงฤดูทำนาปลูกข้าว ชาวนา ภาคอีสาน จะมีการจัดงานบุญประเพณีบั้งไฟทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งสืบทอดมาจากบรรพบุรุษช้านาน เพราะเชื่อว่า เป็นการทำพิธีขอฝนจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ฝนตกลงมาสู่ท้องทุ่งนา จะทำให้ข้าว ปลา อุดมสมบูรณ์ ขายได้กำไรดี
ทว่า ปัจจุบัน การจัดงานบุญบั้งไฟ กลับมีการเล่นพนันแอบแฝง ได้เสียเป็นเงินจำนวนมาก ขณะที่ช่างทำบั้งไฟ มีการดัดแปลงตกแต่งบั้งไฟ ให้สามารถพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าให้สูงกว่า 10 กิโลเมตร จะได้มียอดขายมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา การจุดบั้งไฟขึ้นสูง ไปรบกวนเส้นทางการบินของเครื่องบินที่บินไปมา เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย และมีผู้เสียชีวิตจากบั้งไฟระเบิดทุกปี
นายสุทธินันท์ บุญมี ผวจ.อำนาจเจริญ, พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ พร้อมด้วย นายอำเภอทั้ง 7 อำเภอ ส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการประชุมร่วมกัน ในเรื่อง การวางมาตรการป้องกันความปลอดภัยในการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ในระหว่างเดือนเม.ย.-มิ.ย. 2558 เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการจุดบั้งไฟ รวมถึง ไม่ให้ไปรบกวนเส้นทางการบิน และป้องกันการเล่นพนันบั้งไฟด้วย
นายสุทธินันท์ บุญมี ผวจ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยของชีวิตทรัพย์สินประชาชนและอันตรายของบั้งไฟ ที่อาจสร้างความเสียหายมากมายอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งทาง จ.อำนาจเจริญ ได้รับแจ้งจาก ท่าอากาศยานอุบลราชธานี ว่า
การจุดบั้งไฟและการปล่อยโคมลอย หรือวัสดุที่ลอยได้ แต่ไม่สามารถควบคุมทิศทางและความสูงได้ ขึ้นสู่ท้องฟ้าในเขต จ.อุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ ศรีสะเกษ, ยโสธรและอำนาจเจริญ อาจก่ออันตรายต่อการเดินอากาศและอุปสรรคต่อการขึ้น-ลงของเครื่องบินที่มาใช้บริการ ที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานี ซึ่งหากพื้นที่ใดมีการจุดบั้งไฟ ต้องแจ้งให้ท่าอากาศยานอุบลราชธานีทราบ เพื่อนักบินทราบ และระมัดระวังขณะบินเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวถ้าหากมีการละเมิดเกิดเหตุการณ์บั้งไฟพุ่งชนเครื่องบินขึ้นจะทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศชาติเป็นอย่างมาก เนื่องจากต่างประเทศจะขาดความเชื่อมั่นในความปลอดภัย
พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ กล่าวว่า ตามนโยบายของ จ.อำนาจเจริญและผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้สั่งการให้ ภ.จว.ในสังกัดตรวจสอบแหล่งผลิตและจำหน่ายพลุ ดอกไม้เพลิง (บั้งไฟ) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ หากพบมีการกระทำความผิด ให้ดำเนินการตามกฎหมาย และให้ถือตามนโยบายดังนี้
1.ห้ามไม่ให้มีการจัดการพนันแข่งขันเอาทรัพย์สิน ในการจัดงานประเพณีบั้งไฟอย่างเด็ดขาดทุกกรณี ไม่มีการยกเว้น หากพบจะให้เจ้าหน้าที่ทำการจับกุมทันที ทั้งผู้เล่น และคณะกรรมการผู้จัดงานถือว่าเป็นผู้สนับสนุนให้มีการเล่นพนัน ยกเว้นมีการประกวดโชว์ความสวยงามของบั้งไฟที่ทำจากกาบต้นกล้วยหรือประกวดนางงามบั้งไฟตามประเพณีแข่งขันชิงถ้วยรางวัลฯ
2.ห้ามจัดบ้องไฟมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของบั้งไฟเกิน 3 นิ้วครึ่ง อย่างเด็ดขาด เพราะถ้าเกินนี้จะเป็นอันตรายต่ออากาศยาน
หรือเครื่องบินทุกชนิด (ข้อห้ามจากกรมวิทยุการบิน)
3.ทุกครั้งที่มีการจัดงานประเพณีบั้งไฟจะต้องมีการขออนุญาตและจะต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอเจ้าจองพื้นที่นั้นและผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญก่อนทุกครั้ง
4.คณะกรรมการจัดงานจะต้องรีบประสานงานกับกรมวิทยุการบิน ที่อยู่ใกล้เคียงกับจังหวัดอุบลราชธานี ให้อนุญาตเป็นหนังสือราชการและต้องกำหนดการจัดงานที่แน่นอน จำนวนครั้งบั้งไฟต้องไม่มาก
5.ขอให้เป็นไปตามประเพณีพื้นบ้านในท้องถิ่นนั้นจริงๆ โดยมีคณะกรรมการหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ทำเรื่องขออนุญาอย่างถูกต้องและคณะกรรมการผู้ที่ทำการขออนุญาตจะต้องร่วมกันรับผิดชอบหากเกิดความเสียหายทุกกรณี ทั้งทางแพ่งและอาญา หากมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเกิดขึ้นจากการจัดงานทุกครั้ง
6.ผู้ผลิตบั้งไฟ ที่จุดต้องขออนุญาตจากนายทะเบียนและต้องได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องก่อนและจะต้องเป็นบั้งไฟขออนุญาตในพื้นที่ขออนุญาตนั้น ห้ามนำบั้งไฟจากพื้นที่เขตอื่นมาจุดอย่างเด็ดขาด ขออนุญาตที่ไหนต้องจุดที่นั้น
สำหรับบั้งไฟที่นิยมนำมาจุดกันมี 3 ขนาด ได้แก่ 1.บั้งไฟหมื่น ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกินของตัวท่อบั้งไฟ 2 นิ้ว
ถึง 3 นิ้ว ความสูงความยาวตัวบั้งไฟประมาณ 2-3 เมตร ใช้ดินประสิวอื่นๆ ประมาณ 12 กิโลกรัม
2.บั้งไฟแสน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อ พีวีซี ตั้งแต่ 5 นิ้ว ถึง 7 นิ้ว มีความสูงยาวของตัวบั้งไฟประมาณ 5 ถึง 7 เมตร ใช้ดินประสิวอื่นๆ ประมาณ 120 กิโลกรัม
3.บั้งไฟล้าน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อ พีวีซี ประมาณ 8 นิ้ว ถึง 10 นิ้ว ความยาวหรือความสูงของบั้งไฟ 8-10 เมตร ใช้ดินประสิวอื่นๆ ประมาณ 1,200 กิโลกรัม ซึ่งบั้งไฟล้านมีขนาดใหญ่และหนักมาก จะต้องใช้รถเครนหรือรถยกให้ยกขึ้นวางที่ฐานจุดบั้งไฟลักษณะคล้ายฐานปล่อยจรวด (แพททิออต)ขึ้นสู่อากาศ ด้วยเชื้อเพลิงที่ใช้ในการเผาไหม้จำนวนมาก จากภูมิปัญญาชาวบ้าน กลายเป็นจรวดดีๆ นี่เอง ซึ่งสามารถพุ่งจากพื้นดินสู่ท้องฟ้าถึงชั้นบรรยากาศเลยก้อนเมฆถึงระดั30,000 ฟุต หรือ 10 กิโลเมตร หรือมากกว่าซึ่งเท่ากับเพดานบินของเครื่องบินพาณิชย์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ หากบั้งไฟพุ่งชน ก็จะก่อให้เกิดความสูญเสียคณานับ
พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้มีการสนธิกำลังทหารและตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจสอบจับกุมแหล่งผลิตบั้งไฟได้ 3 ค่าย คือ ค่ายอรพิน, สกาวเดือนและช้างเผือก พร้อมผู้ต้องหา 6 คน ในข้อหาทำวัตถุระเบิดหรือดอกไม้เพลิง (บั้งไฟ) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ได้ของกลางหลายรายการ เช่น บั้งไฟทำจากกาบกล้วยจำนวน 2,900 บั้ง, บั้งไฟทำจากท่อ พีวีซี ขนาดต่างๆ จำนวน 356 บั้ง, หางบั้งไฟ จำนวน 8 หาง, บั้งไฟตะไล จำนวน 8 บั้ง, ท่อ พีวีซี บรรจุดินปืน จำนวน 2,828 แท่ง, ดินปืน จำนวน 35 กิโลกรัม, พลุ จำนวน 78 ลูก, สายชนวนบั้งไฟ ยาว 1 เมตร จำนวน 860 เส้น, ลูกปิงปอง จำนวน 100 ลูก, ท่อสำหรับจุดพลุ จำนวน 24 ท่อ, เครื่องบด (สำหรับบดถ่าน) จำนวน 1 เครื่อง และเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่อง ทั้งหมดมีมูลค่า 1 แสนบาท
จึงขอฝากความห่วงใยไปถึงพี่น้องประชาชนทุกคน ได้โปรดให้ความร่วมมือกับทางราชการและตระหนักถึงอันตรายจากการจุดบั้งไฟด้วย...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี