ตั้งคณะทำงานวิเคราะห์ข้อดี-เสีย วิธีปรับขึ้นเงินเดือนทั้ง2แบบ
วันพฤหัสบดี ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558, 19.31 น.
Tag :
28 พ.ค. 58 นางรัตนา ศรีเหรัญ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (เลขาธิการ ก.ค.ศ.) เปิดเผยภายหลังประชุม ก.ค.ศ. โดยมีพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมรับทราบกรณีที่ ก.ค.ศ.มีหนังสือเวียนแจ้งเรื่อง บัญชีเงินเดือน ตามพ.ร.บ.ระเบียบเงินเดือนเงินวิทยฐานะและเงินประจำตำแหน่ง ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่3) พ.ศ.2558 ที่มีการประกาศใช้พร้อมหลักเกณฑ์ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ เพื่อดำเนินการปรับเงินเดือน ขึ้นเงินเดือนตามที่กำหนด นอกจากนั้น ที่ประชุมยังได้หารือกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช) ขอให้ ก.ค.ศ. ปรับการได้รับเงินเดือน ของข้าราชการครูจากที่ปัจจุบันมีการปรับขึ้นเป็นแท่งหรือขั้นเงินเดือน มาเป็นแบบช่วงหรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เช่นเดียวกับข้าราชการทั่วไปให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี โดยสนช.ได้มีหนังสือสอบถามแนบท้ายมาด้วยว่า หากปรับวิธีการขึ้นเงินเดือนเป็นแบบช่วงแล้วศธ.มีปัญหาหรือไม่ ถ้ามีปัญหาก็ขอให้แจ้งไปที่สนช. ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติให้ก.ค.ศ.ไปตั้งคณะทำงาน วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ของวิธีการปรับขึ้นเงินเดือนทั้งสองรูปแบบว่า ควรจะใช้แบบใด โดยรัฐมนตรีว่าการศธ.ได้ให้นโยบายว่า การปรับวิธีการขึ้นเงินเดือนต้องส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาอย่างแท้จริง
นางรัตนา กล่าวต่อว่า การขึ้นเงินเดือนทั้งสองรูปแบบจะมีความแตกต่างกันตรงที่ ถ้าเป็นการขึ้นเงินเดือนแบบช่วง จะทำให้สามารถปรับเพิ่มเงินเดือนได้ตามวงเงิน 6%ของจำนวนงบประมาณที่ได้รับ โดยส่วนราชการต่าง ๆ จะต้องไปคิดจำนวนเงินที่จะปรับเป็นเปอร์เซ็นต์เอง ซึ่งจะมีปัญหาว่าอาจจะคิดผิดคิดถูก ซึ่งอาจทำให้รวดทั้งระบบ แต่ถ้าเป็นแบบขั้นตามที่ก.ค.ศ.เคยดำเนินการจะทำให้มีวงเงินเหลือ และแต่ละขั้นก็มีวงเงินกำหนดไว้แน่นอนแล้วโดยหากมีการแก้ไขจริงก็ต้องเสนอให้ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
“สนช.ได้มีข้อสังเกตว่าพ.ร.บ.ระเบียบเงินเดือนเงินวิทยะฐานะฯ มีการกำหนดวิธีการปรับขึ้นเงินเดือนเป็นแบบช่วง แต่จะมีบัญชีชั่วคราว ที่กำหนดการขึ้นเงินเดือนเป็นขั้นแทรกไว้ในพ.ร.บ. จึงอยากให้มีการปรับการขึ้นเงินเดือนให้เป็นแบบช่วงเช่นเดียวกับข้าราชการทั่วไป เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ซึ่งในที่ประชุมก็ได้มีการวิเคราะห์ โดยยกตัวอย่างว่า ถ้าในโรงเรียนที่จำนวนมีครูน้อย แล้วใช้วิธีเลื่อนเงินเดือนเป็นเปอร์เซ็นต์จะได้รับการขึ้นเงินเดือนน้อย ขณะนี้ที่ถ้าขึ้นเป็นขั้น จะได้เพิ่มเงินเดือนมากกว่า ดังนั้นรัฐมนตรีว่าการศธ. จึงขอให้ไปวิเคราะห์วิธีการปรับเพิ่มเงินเดือน รูปแบบไหนถึงจะดีที่สุด”เลขาธิการก.ค.ศ.กล่าว
ทั้งนี้ ถ้าก.ค.ศ.มีความเห็นว่า การขึ้นเงินเดือนแบบขั้นดีกว่า ก็จะต้องแจ้งไปยังสนช. เพื่อขอปรับแก้พ.ร.บ.เงินเดือนฯใหม่ ให้เป็นแบบขั้นอย่างเต็มรูปแบบ