31 พ.ค.58 คณะกรรมการธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ (เอสแคป) ได้จัดการประชุมใหญ่ครั้งที่ 71 ขึ้นในกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ผู้นำประเทศต่างๆ ร่วมกันหารือในประเด็น "การพัฒนาอย่างสมดุลสามด้าน : ร่วมมือและลงมือ" โดยมีผู้แทน 51 ประเทศ เข้าร่วม
ทั้งนี้ ในการเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การพัฒนา เมื่อวันนี้ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา นางชามฉัต อัคตาร์ รองเลขาธิการสหประชาชาติ และเลขาธิการเอสแคป กล่าวว่า นับจากที่ได้มารับตำแหน่งในประเทศไทยระยะหนึ่งแล้วนั้น ได้ติดตามเรื่องปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพบว่าเรื่องดังกล่าวมีความพิเศษเป็นอย่างยิ่ง
นางอัคตาร์ กล่าวต่อว่า ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้ความสำคัญกับทั้งด้านการพัฒนาอย่างสมดุล และส่งเสริมศักยภาพของคนไปพร้อมๆ กัน จึงนับว่าเป็นแนวทางอันมีคุณค่าอย่างมากต่อหนทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นประเด็นหลักของโลกในปัจจุบันและอนาคต
"มีการนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้อย่างกว้างขวางทั่วประเทศ และนำไปปรับใช้ในอีกหลายประเทศโดยมุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งล้วนสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลก"
นางอัคตาร์ กล่าวอีกว่า องค์กรและหน่วยงานต่างๆ ในประเทศ ได้นำแนวพระราชดำริไปพัฒนาชนบทอย่างประสบความสำเร็จ เช่น งานของมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ที่ร่วมกับชุมชนแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ เช่น เรื่องของน้ำ และดิน หรือ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ที่เริ่มจากการแก้ไขปัญหาฝิ่นแล้วพัฒนามาสู่งานการพัฒนาชนบท
การประชุมที่เกิดขึ้นนี้เป็นหนึ่งในกระบวนการขององค์การสหประชาชาติที่ระดมความคิดเห็นจากสมาชิกประเทศ ตลอดจนประชาชนทั่วไปให้ร่วมกันวางทิศทางการพัฒนาโลกในอนาคต ภายใต้ Post - 2015 Millennium Development Goals ซึ่งประเทศต่างๆ จะร่วมกันสรุปและให้ความเห็นชอบในที่ประชุมใหญ่องค์การสหประชาชาติ เดือน ก.ย.นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี