โครงการพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง พสกนิกรของพระองค์ได้น้อมนำไปปรับ
ใช้ในที่นาและชีวิตประจำวัน ทั่วทั้งประเทศส่งผลให้การดำเนินชีวิตและการทำงานประสบความสำเร็จ ครอบครัวอบอุ่น อยู่อย่างมีความสุข
อย่างเช่น หมู่บ้านหาดทรายมูล หมู่ที่ 2 ต.ห้วยไร่ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ เป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก มี 100 หลังคาเรือน ประชากรประมาณ 500 คน ส่วนใหญ่ยึดอาชีพทำนาปลูกข้าวปีละ 1 ครั้ง เป็นหลัก จากนั้นก็จะว่างงาน หลายคนจำต้องเดินทางไปหางานทำตามต่างจังหวัดหรือไม่กกรุงเทพมหานคร เพื่อนำเงินมาเป็นทุนในการทำนาปลูกข้าวในปีถัดไป ซึ่งเป็นแบบนี้มาหลายชั่วอายุคน
ทว่าปัจจุบัน ชาวบ้านหาดทรายมูล ไม่ต้องเดินทางไปหางานทำยังต่างถิ่นอีกแล้ว เพราะมีหน่วยงานราชการหลายหน่วยงาน ได้น้อมนำ โครงการพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรบ้านหาดทรายมูล เป็นเวลา 3 วัน จนเข้าใจดี พร้อมมอบวัสดุและอุปกรณ์จำนวนหนึ่ง เพื่อนำไปปรับใช้ในที่นาและชีวิตประจำวัน เพียงไม่ถึง 10 ปี ส่งผลให้เกษตรกรชาวบ้านหาดทรายมูล ปรับพื้นที่บริเวณบ้านหรือไม่ก็ที่นา ทำโครงการเศรษฐกิจพอเพียงทุกคน จนกลายเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงแห่งแรกของ จ.อำนาจเจริญ จนได้รับรางวัลชนะเลิศ หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงดีเด่นระดับประเทศ ในปี 2556 นี้เอง
นางอุไรวรรณ บุญมูล อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ที่ 2 บ้านหาดทรายมูล ต.ห้วยไร่ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ เป็นหนึ่งในหลายคนที่น้อมนำพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในที่นาและชีวิตประจำวัน เล่าว่า ฐานะไม่ค่อยดี แม้จะมีที่นา สำหรับปลูกข้าว ก็มีข้าวไว้กินปีชนปีเท่านั้น หลังจากแต่งงานแล้ว ตนพร้อมกับสามีจึงเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อหางานทำและเข้าใจว่า เป็นแหล่งขุดทอง แหล่งทำเงินของชาวอีสาน โดยสามีเป็นช่างซ่อมรถยนต์อยู่ย่านหลักสี่ ส่วนตนก็เป็นแม่บ้าน อยู่กรุงเทพฯ 15 ปี ไม่ถึงกับร่ำรวย มีเงินใช้จ่ายวันต่อวัน กระทั่งคลอดลูกออกมา 2 คน ค่าใช้จ่ายในครอบครัวก็เพิ่มขึ้น
ทุกวันๆ จึงต้องหันหลังให้กับกรุงเทพแดนศิวิไลซ์ มุงหน้ากลับบ้านเกิดเมืองนอน คือบ้านหาดทรายมูล อยู่กับครอบครัวที่แสนอบอุ่น
นายอุไรวรรณ เล่าต่อไปว่า เมื่อกลับมาอยู่บ้านเกิด สามีก็ไปเปิดอู่ซ่อมรถยนต์ในตัวเมืองอำนาจเจริญ แบบไปเช้า
เย็นกลับ ส่วนตนก็ทำนาปลูกข้าวบนเนื้อที่ 17 ไร่ ทั้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้า รูปแบบทำนาปี แบ่งขายส่วนหนึ่งที่เหลือก็จะเก็บไว้กินปีชนปี
ต่อมา สำนักงานปฏิรูปการเกษตร จ.อำนาจเจริญ (ส.ป.ก.) ส่งเจ้าหน้าที่มาอบรมให้ความรู้ แก่เกษตรกรบ้านหาดทรายมูล เรื่อง โครงการเศรษฐกิจพอเพียง เป็นเวลา 3 วัน ทั้งสอนการทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ ชีวภาพ เพื่อนำไปใช้ในโครงการเศรษฐกิจพอเพียง จนกลายมาเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ส่งผลให้ทุกคนที่น้อมนำพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียง มีเงินใช้และเหลือเก็บ ที่สำคัญใช้ในสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น
นายอุไรวรรณกล่าวว่า โครงการเศรษฐกิจพอเพียง ที่นี่ ใช้เนื้อที่ 3 ไร่ แบ่งเป็นขุดบ่อ 4 บ่อ สำหรับเลี้ยงปลานิล ไน ยี่สก และตะเพียน รวมถึงปลาตามธรรมชาติ ริมบ่อก็จะมีการปลูกไม้ผล เก็บกินได้ ตระไคร้ ต้นกล้วย และการเลี้ยงเป็ด ไก่ บนบ่อปลา เพื่อให้มูลเป็ด มูลไก่ เป็นอาหารชองปลาด้วย
นอกจากนี้ยังกันพื้นที่ส่วนหนึ่ง สำหรับปลูกสระแหน่และพริก เพื่อจำหน่าย ซึ่งในแต่ละวันจะมีพ่อค้า แม่ค้ามารับซื้อถึงที่นี่ รวมถึงไม้ผลหลายชนิดในโครงการด้วย ได้เงินวันละ 400-500 บาท แม้จะเป็นเงินจำนวนไม่มาก แต่สำหรับเราถือว่ามากเลยทีเดียว
สำหรับขั้นตอนการปลูกพริก เริ่มแรกให้ปรับพื้นที่ก่อน จากนั้นให้นำเอาปุ๋ยหมักมาคลุกเคล้าให้เข้ากับดินที่จะปลูกให้เข้ากันดีแล้ว นำกล้าพริกที่ผ่านการเพาะแล้ว ลงใส่หลุมที่เตรียมไว้ ซึ่งก้นหลุมจะต้องมีปุ๋ยหมักใส่ลงก่อนนั้น เสร็จแล้วดินกลบคลุมด้วยฟางข้าวเพื่อให้เป็นปุ๋ย รดน้ำวันละ 1 ครั้งทุกวัน ประมาณ 1 เดือน
ก็เก็บขายได้
ส่วนการปลูกสระแหน่ เริ่มแรกก็ต้องปรับพื้นที่ ที่จะทำการปลูกเสียก่อน ด้วยการนำปุ๋ยหมักคลุกเคล้าผสมกับดินให้เข้ากันดีแล้วนำยอดสระแหน่มาปักลง รดน้ำวันละ 1 ครั้งทุกวัน ก็จะเริ่มแตกยอดและเก็บขายได้
นางอุไรวรรณ บุญมูล แม่บ้านผู้น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบความสำเร็จ กล่าวว่า แค่ระยะเวลาเพียง 2 ปี ซึ่งได้น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ จนกลายเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ต้นแบบ ซึ่งที่ผ่านมามีทั้งเกษตรกร นักเรียนนักศึกษา เดินทางเข้ามาศึกษาดูงานตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้จึงต้องปลูกกระเจี๊ยบ เพื่อทำเป็นน้ำกระเจี๊ยบไว้ต้อนรับแขก
ผู้มาเยือน วิธีทำก็ไม่ยากอะไร เริ่มแรก ให้นำผลแก่ลูกกระเจี๊ยบมาแกะเมล็ดออก แล้วเอาไปตากแห้ง ต่อมา ล้างให้สะอาด แล้วนำไปต้มใส่น้ำตาล ประมาณ 10 นาที ก็จะได้รสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆของน้ำกระเจี๊ยบจากที่นี่ ซึ่งทุกคนที่ได้ดื่มต่างก็ติดใจไปตามๆกัน และที่สำคัญ ผลิตผลที่ออกจากโครงการ จะปลอดสารเคมี 100%
นายสัมฤทธิ์ ถามะพันธุ์ อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านหาดทรายมูล ต.ห้วยไร่ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า มีความภาคภูมิใจมาก ที่หมู่บ้านหาดทรายมูล หมู่ที่ 2 ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงในปี 2556 ซึ่งทุกคนได้น้อมนำพระราชดำริของในหลวง เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ในที่นาและการทำงาน แม้บางคนจะมีที่ดินไม่มาก ก็ปรับเปลี่ยนกลายเป็น ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงทั้งหมู่บ้าน โดยเฉพาะการปลูกสระแหนะ พริก ต้นหอมคะน้าและอื่นๆ บริเวณที่นาและที่ว่าง ส่งขายตลาดตัวเมืองอำนาจเจริญ ทุกวัน ทำให้ทุกคนมีรายได้อย่างต่ำวันละ 400 บาท บางคนมีที่ดินเยอะปลูกมาก รายได้ก็จะสูงขึ้นเท่าตัว ส่งผลให้เศรษฐกิจภายในชุมชนดีมาก จึงไม่เดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจบางปีดี บางปีไม่ดี เพราะยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง นั่นเอง...
สนธยา ทิพย์อุตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี