5 มิ.ย.58 เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมอาคารเอนกประสงค์ สนง.ทต.เหมืองจี้ อ.เมือง จว.ล.พ. ผู้แทนจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด, อุตสาหกรรมจังหวัด, สาธารณสุขจังหวัด, บ.ไทยอริฟูดส์ จก.(มหาชน), ตำรวจ, นอภ.เมืองลำพูน, กกล.รส.พล.ร.๗ จว.ล.พ. และชาวบ้านจากหมู่ 4, หมู่ 10 และ หมู่ 14 ต.เหมืองจี้ อ.เมือง จำนวน 75 คน ร่วมประชุมหาทางออกแก้ไขปัญหาจากโรงงาน เนื่องจากร่องน้ำหน้า บ.ไทยอริฟูดส์ จก.(มหาชน) มีน้ำเน่าส่งกลิ่นเหม็น ไหลลงสู่ลำเหมืองที่ใช้ในการเกษตรและสวนลำไย เผาฟืนเพื่อใช้ความร้อนในการอบผลไม้(ลิ้นจี่) กระป๋อง ทำให้เกิดควันไฟที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานานตั้งแต่ปี 2534 สิ่งที่ชาวบ้านต้องการให้บริษัทแก้ไขคือ การกำจัดน้ำเสีย การขุดลอกบ่อ การซ่อมแซมปล่องควัน การกำจัดขยะทั้งระยะสั้นและระยะยาว และการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นรายๆไป
นายภัทรวรรธน์ บิลังโหลด ผจก. บ.อริฟู้ดส์ จก.(มหาชน) ได้กล่าวคำขอโทษแก่ชาวบ้านที่ทำให้เกิดปัญหา เบื้องต้นทางบริษัทตัดสินใจหยุดการผลิตลิ้นจี่กระป๋องเป็นเวลา 1 สัปดาห์เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ดีขึ้น ขณะที่ พ.ต.ท.สุรวัฒน์ จึงอนุวัฒน์ ที่ปรึกษาบริษัทฯ ได้เห็นด้วยกับปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งเห็นใจ และจะแก้ไขให้ดีที่สุด เมื่อทุกฝ่ายเปิดใจพูดคุยจนได้ข้อสรุปเป็นที่น่าพอใจ จึงได้ทำบันทึกการประชุมแก้ไขปัญหาจากโรงงานระหว่างบริษัทฯกับชาวบ้าน ทั้งนี้หลังจากเสร็จสิ้นการปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆเรียบร้อยภายในระยะเวลาที่กำหนดแล้ว จะได้มีการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคาดเป็นวันที่ 15 มิ.ย.นี้ หากบริษัทฯ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาตามที่ชาวบ้านได้เรียกร้องได้ ต้องหยุดแก้ไขไปเรื่อยๆ จนกว่าแล้วเสร็จก่อนปิดการประชุมลงเวลา 15.37 น.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.58 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านฝายแป้นและบ้านบวกมะกัง หมู่ที่ 4 ต.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน จำนวนกว่า 30 คน ว่ามีปลาที่เลี้ยงไว้ในบ่อตายลอยเป็นเบือจำนวนมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมชาวบ้านจำนวนกว่า 30คน พาผู้สื่อข่าวไปดูปลาที่ตายลอยในบ่อเลี้ยงจำนวนมาก ส่วนมากเป็นปลานิลและปลาตะเพียน บางตัวตายมานานหลายชั่วโมงเริ่มส่งกลิ่นเหม็น บางตัวเพิ่งตาย บางส่วนขึ้นมาลอยคอ จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบบ่อและท่อน้ำรวมถึงลำเหมือง พบว่า มีน้ำสีดำไหลมาตามลำเหมืองสาธารณะมีร่องรอยของต้นบอนและต้นไม้เล็กๆ ที่อยู่ติดน้ำเริ่มเหี่ยวเฉา ห่างไปประมาณ 200 เมตร พบว่า มีโรงงานผลิตผลไม้กระป๋องแห่งหนึ่งตั้งอยู่
จากการสอบถาม นายทองอินท์ ภูชัย อายุ 70 ปี ชาว ตำบลเหมืองจี้ อ.เมือง กล่าวว่า ตนเลี้ยงปลานิล และปลาอีกหลายชนิดไว้ในบ่อภายในสวนลำไยใกล้บ้านจำนวนมากปล่อยมาหลายรุ่นเพื่อเลี้ยงไว้ขายเป็นรายได้เสริมให้ลูกหลาน จู่ๆวันนี้ช่วงสายที่ผ่านมาปลาที่เลี้ยงไว้จำนวนมากก็เริ่มลอยคอและทะยอยตายจำนวนมากจึงบอกให้ลูกหลานและชาวบ้านมาดู และหาสาเหตุการตายของปลา ซึ่งตนเสียดายปลามากเพราะต้องขาดทุน ต่อมาได้มีผู้ใหญ่บ้าน สท.นายกฯเทศบาลได้เข้ามาดู ยังไม่ทราบสาเหตุ
ส่วนนางวันทนา สุยะวารี อายุ 47 ปี ชาว ต.เหมืองจี้ อ.เมือง ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับโรงงานผลิตผลไม้กระป๋อง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าปลาที่ตนเลี้ยงไว้ในบ่อหลังบ้านที่ติดกับโรงงานดังกล่าวได้ลอยคอตายจำนวนมากตนจึงนำขึ้นมาได้หลายเข่ง ตนมั่นใจว่าสาเหตุของปลาตายต้องมาจากน้ำเน่าเสียจากโรงงานนี้แน่นอนเพราะสังเกตุเห็นน้ำมีสีดำต้องซึ่มมาแน่เพราะช่วงนี้เป็นช่วงผลไม้ออกเยอะโรงงานเร่งกำลังการผลิต
เคยมีปัญหามาหลายปีแต่ไม่รุนแรงเหมือนครั้งนี้ตนอยู่ติดกับโรงงานทราบปัญหาดี ตนเดือนร้อนทั้งน้ำเสียที่เน่าเหม็น และกลิ่นควันจากท่อควันของโรงงานเคยแจ้งไปที่เทศบาลเหมืองจี้ และทางเทศบาลสั่งให้มีการต่อท่อสูงขึ้นไปอีกแต่เวลาล่วงเลยมานานโรงงานดังกล่าว ยังไม่ดำเนินการแก้ไข
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี