ล่าตัว11เหยื่อโรฮีนจา
แหกห้องขัง
ปีนเรือนนอนหนีเข้าป่า
แฉจนท.คุมเข้มที่พักยังเผ่นได้
“เอก”เร่งสรุปสำนวนส่งฟ้อง
จ่อหมายจับอีก1แก๊งค้ามนุษย์
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ว่า เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น.วันที่ 7 มิถุนายน เกิดเหตุเหยื่อค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา จำนวน 11 คน จากทั้งหมด 112 คน หลบหนีออกจากศูนย์พักพิงภายในสถานคุ้มครองสวัสดิภาพภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตภูมิ และฝ่ายปกครอง ได้ออกติดตาม แต่ยังไม่พบตัว โดยคาดว่าน่าจะยังคงซ่อนตัวอยู่ตามชายป่าในหมู่บ้านไม่ไกลจากศูนย์พักพิง หรือตามแนวเชิงเขาแก้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านในพื้นที่ให้ช่วยแจ้งเบาะแส เพราะจากสภาพความหิวโหยอาจทำให้ชาวโรฮีนจาที่หลบหนีไปออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน
ทั้งนี้ ชาวโรฮีนจาทั้ง 11 คน ได้หลบหนีออกจากศูนย์พักพิง โดยปีนกำแพงที่อยู่ด้านหลังเรือนนอนออกไป แม้จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยเฝ้าดูแลอยู่ 2 นายก็ตาม ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าไม่น่าจะมีนายหน้ามารับตัวไป เนื่องจากที่ผ่านมามีการคุมเข้มการเข้าออกภายในศูนย์พักพิงเป็นอย่างดี ห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าออกอย่างเด็ดขาด ส่วนสาเหตุที่ทำให้หลบหนีเชื่อว่าน่าจะมาจากความอึดอัดที่ต้องอยู่ภายในศูนย์พักพิงโดยไม่ทราบชะตากรรม และต้องการหลบหนีเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม
วันเดียวกัน พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนและพนักงานอัยการ เพื่อเร่งรัดการสอบสวนคดีให้ทันกรอบระยะเวลาส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณาในวันที่ 19 มิถุนายน นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ พล.ต.อ.เอก ได้ควบคุมการสอบสวนพยานบางคนด้วยตนเอง ซึ่งได้มีการนำพยานทั้งที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้นำศาสนา ในพื้นที่ จ.สงขลา และสตูล มาสอบปากคำเพื่อนำไปประกอบสำนวนการสอบสวนเอาผิดกับผู้ต้องหาในคดีนี้ มกลางบรรยากาศค่อนข้างเคร่งเครียด เนื่องจากทางฝ่ายสอบสวนต้องเร่งทำงานแข่งกับเวลา โดยจะต้องเรียกพยานแวดล้อมทั้งในพื้นที่ จ.สงขลา สตูล และระนอง มาสอบสวนอีกหลายปาก
รายงานข่าว ระบุว่า วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน นี้ พล.ต.อ.เอก จะประชุมกับเรือโทสมนึก เสียงก้อง รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน อัยการเขต ตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 เพื่อสรุปความคืบหน้าภาพรวมทั้งหมดของคดี ซึ่งจนถึงขณะนี้มีผู้ต้องหาถูกหมายจับรวม 84 ราย ควบคุมตัวได้แล้ว 53 ราย และยังหลบหนีอีก 31 ราย แต่มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาคนสำคัญเพิ่มเติมอีก 1 รายในเร็วๆนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของคดีหลังจากที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้นำตัวเหยื่อค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา 1 ราย ไปสำรวจเส้นทางบนเทือกเขาแก้วตั้งแต่ อ.สะเดา จ.สงขลา ถึง อ.ควนโดน จ.สตูล ซึ่งถูกระบุว่าใช้เป็นเส้นทางลำเลียงชาวโรฮีนจา ปรากฏว่าพบข้อมูลสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยเมื่อนำเหยื่อไปไปถึงหลักเขตชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่ 4C/34 พบแคมป์ชาวโรฮีนจาอยู่ในเขตประเทศมาเลเซีย ซึ่งเหยื่อระบุว่าเป็นของนายเจ๊ะอาด โต๊ะดิน หนึ่งในผู้ต้องหาเครือข่ายค้ามนุษย์ใน จ.สตูล ที่ถูกออกหมายจับและอยู่ระหว่างหลบหนี อยู่ห่างจากฝั่งไทยใช้เวลาเดินเท้า 15-20 นาที
นอกจากนี้ มีการระบุว่ามีผู้อพยพมาอยู่ที่แคมป์ดังกล่าวราว 200-1,500 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวบังคลาเทศ และชาวโรฮีนจา โดยเหยื่อระบุว่าอยู่ที่แคมป์นี้มานานกว่า 4 ปี โดยรับจ้างทำอาหารเลี้ยงผู้อพยพ ได้รับเงินเดือน 15,000 บาท ซึ่งข้อมูลและคำให้การทั้งหมดเจ้าหน้าที่จะนำไปประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี