นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย ศ.กิตติคุณ นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย, นพ.ไมเคิล คาสเซลล์ (Dr.Michael Cassell) ที่ปรึกษาระดับภูมิภาคด้านโรคเอดส์และวัณโรค องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา, นพ.จอห์น แมคอาเธอร์ (Dr.John McArthur) ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข, นพ.สุเมธ องค์วรรณดี ผู้อำนวยการสำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
นพ.โสภณ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2558 นี้ กรมควบคุมโรคได้จัดโครงการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาระบบการดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีให้เข้าถึงยาต้านไวรัสอย่างรวดเร็ว ได้แก่ “โครงการตรวจเอชไอวี และรักษาด้วยยาต้านไวรัสทันที ในชุมชนและสถานบริการสาธารณสุขหรือเทสต์แอนด์ทรีต (Test and Treat)” และ“โครงการประเมินการกินยาต้านไวรัส เพื่อป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวี หรือเพร็พ (Pre-exposure prophylaxis : PrEP)” ทั้ง 2 โครงการนี้ดำเนินการในกลุ่มชายรักชายและสาวประเภทสองโดยเฉพาะ
ประเทศไทยต่อสู้กับปัญหาโรคเอดส์มาเป็นเวลา 31 ปี สามารถควบคุมปัญหาการแพร่ระบาดได้ผลดีในอันดับต้นๆ ของโลก ในปี 2557 คาดว่ามีผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ยังมีชีวิตอยู่ทั่วประเทศ 426,707 คน และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,324 คน ในจำนวนนี้พบว่าร้อยละ 46.7 เป็นกลุ่มชายรักชาย และสาวประเภทสอง ซึ่งมีอัตราการติดเชื้อเอชไอวีสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ พบมากถึงร้อยละ 19.8 จึงต้องเร่งพัฒนาโดยการศึกษาวิจัยระบบบริการเฉพาะกลุ่ม เพื่อนำข้อมูลที่ได้จาก 2 โครงการที่กล่าวมา ไปกำหนดนโยบายเพื่อยุติปัญหาเอดส์อย่างตรงสภาพปัญหา
สำหรับยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ.2555–2559 นี้ กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัย 100 เปอร์เซ็นต์เมื่อมีเพศสัมพันธ์ และให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีทุกคน ทุกสิทธิประกันสุขภาพ เข้าถึงบริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยสนับสนุนให้ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น มีคู่นอนหลายคน ฉีดยาเสพติดเข้าเส้น เข้ารับบริการตรวจเลือด ดูการติดเชื้อเอชไอวี เมื่อผลเลือดบวก จะได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสทันที ไม่ต้องรอให้ระดับซีดีสี่ต่ำ ซึ่งมีผลวิจัยพบว่านอกจากจะเป็นการรักษาโรคแล้ว ยังช่วยป้องกันการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีสู่ผู้อื่นได้อีกวิธีหนึ่ง โดยตั้งเป้ายุติปัญหาเอดส์ให้ได้ภายในปี 2573 คือเด็กทารกแรกเกิดไม่มีการติดเชื้อเอชไอวีจากแม่ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่วัยผู้ใหญ่ลดลงน้อยกว่า 1,000 รายต่อปี ผู้ติดเชื้อทุกคนได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสหลังการวินิจฉัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี