15 มิ.ย.58 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.พร้อมด้วย พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. , พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี , พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป.และ พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ สว.กก.1 บก.ป.แถลงจับกุม น.ส.รินทร์ลภัส บุญพรวิจิตรโชติ อายุ 38 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัท เดอะวอลล์สตรีท แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด และ นายรัฐธนันท์ หรือ อดีต พ.ต.ท.รัฐธนันท์ หิรัญอมรภาคย์ อายุ 42 ปี อดีตพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สภ.เมืองขอนแก่น ออกจากราชการเมื่อปี 2551 ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1166 และ 1167/2558 ลงวันที่ 8 มิ.ย.58 ตามลำดับ จับกุมได้ที่อาคารเอไอเอเซ็นเตอร์ ถ.รัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง
ทั้งนี้ สำหรับข้อหาตามหมายจับดังกล่าว ประกอบด้วย ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนโดยโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไป กู้ยืมเงินจากผู้ให้กู้ยืมเกิน 10 คน โดยมีจำนวนเงินกู้ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป อันมิใช่การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินตามกฎหมาย จ่ายหรือโฆษณา ประกาศแพร่ข่าว หรือตกลงว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้กู้ยืม สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 , พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มาตรา 4 และ 12
พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ม.ค. - 30 ส.ค.57 ต่อเนื่องกัน ผู้ต้องหาทั้งสองกับพวก ได้ร่วมกันเปิดบริษัท เดอะวอลล์สตรีท แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด และบริษัท เดอะวอลล์มาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ชักชวนให้ประชาชนทั่วไปร่วมลงทุนในตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างๆ หรือ FOREX (Foreign Exchange Market) อ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนสูงถึง 10% มีการจัดทำเว็บไซต์ www.wscg.co.th และจัดอบรมสาธิตโปรแกรมการเทรด แต่ภายหลังผู้เสียหายหลงเชื่อนำเงินมาลงทุนด้วยแล้ว กลับไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่กล่าวอ้าง รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 27 ล้านบาท
พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวอีกว่า ต่อมาทางกลุ่มผู้เสียหายกว่า 50 ราย ได้เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อขอให้สืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง กระทั่งชุดสืบสวนสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้ย้ายสถานที่ทำงานจาก ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนนอก เขตพญาไท กทม.ไปอยู่ที่อาคารเอไอเอเซ็นเตอร์ ถ.รัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ และติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองไว้ได้ ขณะที่ยังมีผู้ต้องหาอีกราย คือ นายวรกร หรือเพชร ศรีอังคาร อ.ฝ่ายการตลาดของบริษัทดังกล่าว สามารถหลบหนีการจับกุมไปได้
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าเปิดบริษัทแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อชักชวนประชาชนเข้าร่วมลงทุน FOREX จริง แต่ไม่ได้มีเจตนาจะหลอกลวง แต่อยู่ระหว่างไกล่เกลี่ยกับกลุ่มผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความ โดยขอรับผิดชอบชดใช้เงินคืนให้กับทุกราย
อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบประวัติของนายรัฐธนันท์ พบว่าเคยรับราชการตำรวจ ยศสุดท้ายคือ พ.ต.ท.ตำแหน่งพนักงานสอบวน สังกัด สภ.เมืองขอนแก่น โดยออกจากราชการเมื่อปี 2551 เพื่อประกอบธุรกิจด้านการรักษาความปลอดภัย หลังจากนั้นประมาณ 4 ปี จึงหันมาเปิดธุรกิจ FOREX โดยอาศัยความรู้และมีผู้ที่รู้จักกันทำธุรกิจในด้านนี้อยู่ หันมาชักชวนประชาชนมาร่วมลงทุน นอกจากนี้ ยังปรากฎชื่อว่ามีตำแหน่งเป็นผู้ชำนาญการประจำตัวสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รายหนึ่งอีกด้วย
ด้าน นางปภาดา เดชรักน์ หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้ร่วมลงทุนกับบริษัทของผู้ต้องหาเพราะมีคนที่รู้จักกันชักชวนให้นำเงินมาลงทุน เนื่องจากเห็นว่ามีผลตอบแทนดี ต่อมาก็เริ่มศึกษาและเริ่มลงทุนก็พบว่าได้รับเงินจริง จึงสมัครสมาชิกเสียเงิน 1,250 บาท โดยทางบริษัทจะให้ยูสเซอร์ไอดี (User ID) สำหรับลูกค้า เข้าไปซื้อขายผ่านโปรแกรมของทางบริษัท โดยเงินที่ลงทุนบริษัทจะดูแลให้ทั้งหมด ทั้งนี้ การซื้อขายแต่ละครั้งต้องผ่านโบรกเกอร์ ที่ผ่านมาตนได้ลงทุนไปเป็นเงิน 1.5 ล้านบาท ระยะแรกได้ผลตอบแทนเป็นเงิน 1.5 แสนบาท หรือ 10% แต่ภายหลังก็ไม่ได้รับเงินตอบแทนอีกเลย
ผู้เสียหายรายนี้ กล่าวต่อว่า หลังจากไม่ได้รับผลตอบแทนกลับคืน จึงสอบถามไปยังบริษัทแต่ก็ได้รับคำตอบเชิงบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา เมื่อได้พูดคุยสอบถามกับกลุ่มผู้ที่ลงทุนกับบริษัทแห่งนี้ ก็พบว่าต่างก็ไม่ได้รับเงินตอบแทนเช่นเดียวกัน จึงเชื่อว่าน่าจะถูกหลอกลวง ต่อมาจึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความดำเนินคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี