ไทยเข้าสู่วิฤกติน้ำแล้ง
“รอยล”ชี้เหลือใช้อีก30วัน
แฉเตือนหลายครั้งแต่ไม่ฟัง
กรมชลฯเต้นประชุม23มิย.
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แห่งชาติ เปิดเผยว่าขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่โมดวิฤกติการณ์น้ำแล้ง สถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ เช่นเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติส์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อยู่ในระดับวิฤกติสุดแล้ว ซึ่งปริมาณน้ำสำรองแทบไม่มีทำให้พื้นที่ภาคกลาง มีน้ำใช้อีก30วัน ต้องชะลอปลูกข้าวนาปี 4 ล้านไร่ใน22จังหวัดออกไปอีก1เดือน
“ควรไปถามนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯและพล.อ.ฉัตรชัย สาลิกัลยะ รมว.พาณิชย์ ที่ทั้งสองท่านรับผิดชอบดูแลผลผลิตการภาคเกษตร หากฝนไม่ตกช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้จะแก้ปัญหาให้เกษตรกรอย่างไร ทั้งพื้นที่ในเขต และนอกเขตชลประทานกว่าร้อยละ 80 ทั่วประเทศมีแผนรองรับหรือไม่ ซึ่งราชการต้องปรับวิธีคิดในการทำงาน หันมาสร้างแหล่งเก็บน้ำขนาดเล็ก ขยายแหล่งเก็บน้ำธรรมชาติเตรียมไว้รองรับน้ำฝน เกษตรกรในพื้นที่จะอยู่รอดได้”
ทั้งนี้ นายรอยล กล่าวอีกว่าก่อนหน้านี้ ทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ออกมาเตือน กรมชลประทาน หลายครั้งถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนที่ไม่เพียงพอกับภาคเกษตร แม้แต่นายกรัฐมนตรี ได้เตือนมาเกือบสองเดือน และสั่งการไปแล้ว แต่หน่วยงาน ไม่รับไปปฏิบัติ ส่วนจะทำอย่างไร ต้องไปถาม รมว.เกษตรฯกับรมว.พาณิชย์ จะแก้อย่างไรทั้งปัญหาน้ำกิน น้ำใช้ด้วย รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางมาตรการไว้รองรับหรือไม่
ด้านนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้ประชุมทางไกลผ่านวีดีคอนเฟอร์เรนท์กับสำนักงานชลประทานและเจ้าหน้าที่การเกษตรทั้ง 22 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาและ7 จังหวัดลุ่มน้ำแม่กลอง โดยสั่งการให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจรองรับสถานการณ์น้ำน้อยจากฝนทิ้งช่วงและให้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปริมาน้ำแต่ละพื้นที่และจำแนกพื้นที่ปลูกข้าวแล้วกับยังไม่ปลูก พร้อมจะต้องเน้นให้เร่งทำความเข้าใจกับเกษตรกรในส่วนที่ปลูกข้าวแล้วให้ใช้น้ำอย่างคุ้มค่า ส่วนที่ยังไม่ปลูก ให้เลื่อนออกไปอีก1เดือน และได้สอบถามข้อมูลความต้องการจากเกษตรกรเพื่อที่จะประมวลความช่วยเหลือ เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ส่วนเขื่อนวิฤกติสุดคือป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำเหลือใช้การได้เพียง 7 เปอร์เซนต์เท่านั้น ถือว่าวิฤกติมาก
นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำขาดแคลนว่าในสัปดาห์หน้าวันที่23 มิถุนายน จะประชุมคณะอนุกรรมการวิเคาระห์และติดตามสถานการณ์น้ำ เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำอีกรอบ จะดูปริมาณฝนที่ไหลเข้าเขื่อน เพราะขณะนี้สถานการณ์น้ำในอ่างขนาดใหญ่ส่อเค้าว่าจะรุนแรง และได้เตรียมเครื่องสูบน้ำเพื่อไปช่วยพื้นที่อาจมีปัญหาขาดแคลนน้ำ เหตุการณ์นี้ เป็นวงรอบ17 ปี เพิ่งมาเกิดภาวะแล้งต้นฤดูฝนช่วงนี้ยังพอประคองไปได้แต่ขอความร่วมมือไม่ให้ปลูกข้าวเพิ่ม ให้รอปลายเดือน ก.ค.ฝนจะมาตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน ได้ประเมินถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุด อยู่ในเกณฑ์น้อย ทั้ง 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทั้ง เขื่อนภูมิพลเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน ประมาณ 1,257 ล้านลูกบาศก์เมตร ถือว่าสถานการณ์ปริมาณน้ำต้นทุนอยู่ในเกณฑ์น้อย จึงขอความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วนร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัดเพื่อให้มีน้ำสำรองในเขื่อนให้มากที่สุด เก็บไว้ใช้ในยามขาดแคลนที่อาจเกิดวิกฤติในอนาคต
นายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก เผยว่าตอนนี้สถานการณ์น้ำกักเก็บในเขื่อนภูมิพลเข้าสู่ภาวะวิกฤต เป็นครั้งที่4ในรอบ51 ปีของการก่อสร้างเขื่อน ซึ่งปัจจุบัน เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำกักเก็บ คงเหลือ4,172ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น30.99% เหลือน้ำใช้ได้เพียง 372 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น3.85% ได้ลดการระบายน้ำเหลือวันละ10 ล้านลูกบาศก์เมตร หากฝนยังทิ้งช่วงต่อไป จะลดการระบายน้ำเหลือ5-4-3ล้านลูกบาศก์เมตรตามลำดับ
เช่นเดียวกับ เขื่อนสิริกิติ์ มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำจำนวน3.52 ล้านลูกบาศก์เมตร คงเหลือน้ำกักเก็บทั้งหมดเพียง3,561ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 37.45% สามารถระบายได้เพียง711 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 10.69% โดยเขื่อนสิริกิติ์ ลดการระบายน้ำเหลือเพียง 22ล้านลูกบาศก์เมตร
ต่อมาเวลา14.15น.พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ได้ปรารถเรื่องปัญหาภัยแล้ง โดยกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตราการรับมือและช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ขณะที่นายสุพัฒน์ ฤทธิชู ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่าได้ขอความร่วมมือและแจ้งเตือนเกษตรกรทั้งในและนอกเขตชลประทาน ให้ชะลอการเพาะปลูกข้าวออกไปก่อน เป็นช่วงปลายเดือนกรกฎาคม หรือต้นเดือนสิงหาคมเพื่อลดความเสี่ยงผลผลิตข้าวที่จะขาดน้ำหล่อเลี้ยง จากภาวะฝนทิ้งช่วง ปัญหาภัยแล้งหลังฝนตกน้อย ส่งผลให้น้ำในเขื่อนลำนางรอง มีปริมาณน้ำกักเก็บเพียงร้อยละ52.16 หรือ 63.33 ล้านลูกบาศก์เมตรรวมทั้งน้ำใน 4 อ่าง มีปริมาณน้ำลดลงมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี