วันเสาร์ ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558, 14.09 น.
27 มิ.ย. 58 เมื่อกลางดึกของเมื่อวาน (26 มิ.ย.) ที่ศูนย์ปฎิบัติการชุดป้องกันปราบปราบยาเสพติด(ชุมพรใต้) อ.หลังสวน จ.ชุมพร พ.ต.ท.อภิชาติ เจียพานิช สวป.สภ.ละแม จ.ชุมพร ในฐานะหัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด(ชุมพรใต้)ตำรวจภูธร จ.ชุมพร ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปส.ภาค 8 เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด กก.2 บก.ปส 8 แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดให้โทษ(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 6 คน คือ นางมลฤดี อายุ 42 ปี นายสมพร อายุ 33 ปี นายเอกราช นพฤทธิ์ อายุ 51 ปี นายอรุณ 50 ปี น.ส.พัชรี อายุ 35 ปี และ น.ส.สุรินทร์ อายุ 55 ปี พร้อมยาบ้าจำนวน 5 มัด รวม 12,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย 1 เล่ม รถยนต์มิตรซูบิชิ ปาเจโร่ สีชาว ทะเบียน กค 3027 พังงา
พ.ต.ท. อภิชาติ เจียวพานิช เปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่า นางมลฤดี กับนายสมพร สองพี่น้อง ได้ลักลอบค้ายาบ้าในพื่นที่มานานแล้ว เจ้าหน้าที่จีงวางแผนส่งสายลับล่อซื้อยาบ้าจำนวน 400 เม็ด จนสามารถจับกุมสองพี่น่องได้พร้อมของกลางยาบ้าที่นำมาส่งให้กับสายลับ จึงรุดไปตรวจค้นบ้านพักพบยาบ้าซุกซ่อยอยู่อีกจำนวน 11,600 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวสองพี่น้องไปสอบสวนขยายผลต่อไป
โดยผู้ต้องหา สารภาพว่า ตนเป็นเพียงผู้รับจ้างส่งยาบ้าให้กับนายอานนท์ไม่ทราบนามสกุล โดยที่ผ่านมานายอานนท์ได้นำยาบ้าทั้งหมดจำนวน 10 มัด มัดละ 2,400 เม็ด รวม 24,000 เม็ด มาให้ตนนำไปวางให้กับลูกค้าตามจุดนัดหมายบริเวณหลักกิโลเมตรริมถนนสายต่างๆ
ที่ผ่านมาได้ส่งยาบ้าไปแล้วจำนวน 5 มัด ยังเหลืออีก 5 มัด จำนวน 12,000 เม็ด เป็นของนายเอกราช อายุ 51 ปี โดยนายเอกราชได้จ้างให้ตนนำยาบ้าไปส่งที่ จ.พังงา ในราคา 30,000 บาท และได้โอนเงินให้ล่วงหน้าผ่านธนาคารมาก่อนแล้วจำนวน 10,000 บาท ส่วนที่เหลือจะจ่ายให้ทั้งหมดในวันที่เอายาบ้าไปส่งให้แต่มาถูกตำรวจจับกุมเสียก่อน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้วางแผนให้นางมลฤดี กับนายสมพร สองพี่น้องที่ถูกจับกุม โทรศัพท์ไปหานายเอกราชให้เดินทางมารับยาบ้าเอง โดยอ้างว่ารถยนต์เสียไม่สามารถขับไปส่งได้ และนัดหมายให้นายเอกราชไปรับยาบ้าที่บ้านของ น.ส.สุรินทร์ อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นเครือข่ายยาบ้ากลุ่มเดียวกัน
จนกระทั่งช่วงกลางดึกของวันที่ 25 มิ.ย. นายเอกราชได้หลงเชื่อขับรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีชาว หมายเลขทะเบียน กค 3027 พังงา มาพร้อมกับนายอรุณ และ น.ส.พัชรี ที่บ้านของ น.ส.สุรินทร์ เพื่อรับยาบ้าจำนวน 5 มัดตามนัดหมาย และถูกตำรวจที่วางกำลังซุ่มจับกุมตัวได้ทั้งหมดยกแก๊งดังกล่าว
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายเอกราชพร้อมพวกให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าว โดยอ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับแก๊งค้ายาเสพติดดังกล่าว พร้อมจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น
เจ้าหน้าที่ ยืนยันว่า มีพยานหลักฐานจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายที่เหลือต่อไป
สำหรับ นายเอกราช นพฤทธิ์ อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นน้องชายของ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย มีประวัติเคยถูกจับกุมในคดีอุ้มฆ่าเผานั่งยางและถูกจำคุกเป็นเวลา 19 ปี เพิ่งจะได้พ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา จนกระทั่งมาถูกจับอีกกุมดังกล่าว