วันจันทร์ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558, 15.42 น.
29 มิ.ย. 58 แฟจเฟซบุ๊ก
"คัดค้านโรงไฟฟ้าขยะกลางชุมชน อบต.เชียงรากใหญ่ จ.ปทุมธานี" ได้เผยแพร่คำชี้แจงซึ่งระบุว่าเป็นของ นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ที่โพสต์ข้อความในกลุ่มไลน์ "สิงห์ดำ" (ศิษย์เก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) เกี่ยวกับกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการไปดูงานโรงไฟฟ้ากำจัดขยะที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ซึ่งถูกทางการญี่ปุ่นจับกุมในฐานพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนเข้าไปในสนามบินนานาชาตินาริตะ ร่วมอยู่ในคณะเดินทางด้วย
ระบุข้อความดังนี้
กราบเรียนพี่สิงห์ดำที่เคารพรักทุกท่าน
ผม พงศธร สัจจชลพันธ์ สิงห์ดำ รุ่น 28 ติดตามการโพสต์ข่าวเกี่ยวกับกรณีคุณคำรณวิทย์ ถูกจับ แล้วมีนักข่าว(ชั่ว)คนหนึ่งเจตนาส่งข่าวว่าผมร่วมคณะไปด้วย (ทั้งๆ ที่มีหลักฐานว่าผมไม่ได้ไป) เป็นจุดเริ่มต้นของปรากฏการณ์ที่คนที่ในใจมีแต่ความเกลียดชัง แต่งเรื่องเชื่อมโยงว่าผู้ว่าฯ ปทุมธานีไปร่วมขบวนการ (แผนชั่วร้ายต่างๆ นานา) โดยกล่าวขึ้นลอยๆ มโนเอาเองว่าอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็สนุกกับการแชร์การโพสต์เรื่องที่คิดเอาเอง เชื่อมโยงการเมืองบ้าง ผลประโยชน์บ้าง บางคนก็บอกว่าคนจัดเป็นผู้รับเหมากับทางราชการบ้าง
ผมขอเรียนความจริงในฐานะพี่น้องจุฬาฯ ด้วยกัน และกล้าสาบานต่อหน้าพระแก้วมรกต หรือพระรูป ร.5 ได้ ว่าผมมาเป็นผู้ว่าปทุมธานีเกือบ 2 ปีด้วยความยากลำบากมากที่ได้ขึ้นก็มีคนผลักดันคนเดียว คือ ท่านวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย อยู่ในช่วงกีฬาสี ซี่งต้องดูแลไม่ให้คนไทยสองกลุ่มมาฆ่ากันตายที่ปทุมธานี
โดยการตั้งมั่นในความยุติธรรม อย่างมั่นคง จะเห็นได้ว่าแกนนำทั้งสองสี ถ้าทำผิดในปทุมฯ โดนจับทั้งหมดไม่ละเว้น นายโกตี๋ก็โดนจับ 2 คดี (คดีปะทะกันหลังชุมนุมหน้าศาลากลาง) กปปส.ถูกจับเรื่องมีดและใช้อาวุธปืนยิงกันที่ลำลูกกา ประคองจนสถานการณ์สงบ ไม่มีใครตาย
พอปฏิวัติกระแสว่าผมจะถูกย้าย แต่พอตรวจสอบการทำหน้าที่ของผม ในฐานะข้าราชการประจำ ก็อยู่ได้เกือบ 2 ปีแล้ว
ผมมุ่งมั่นทำหน้าที่ดูแลปัญหาของปทุมธานี ซึ่งเรื่องใหญ่ที่สุดคือขยะมูลฝอย ซึ่งมีปริมาณ วันละ มากกว่า 1,800 ตัน โดยทำตาม Roadmap ด้านขยะมูลฝอยของรัฐบาลเอาขยะตกค้างกว่า 200,000 ตันออก ส่งเสริมการแยกขยะ และข้อสุดท้ายคือ "ส่งเสริมภาคเอกชนให้เข้ามาลงทุนบริหารจัดการขยะแบบผสมผสาน โดยนำมาแปลงเป็นพลังงาน"
ปทุมธานี เป็น 1 ใน 6 ที่รัฐบาลประกาศว่าเป็นจังหวัดที่มีวิกฤตขยะ แต่ไม่มีงบประมาณให้ ผมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาโดยไม่มีเงินงบประมาณแต่ก็ทำเต็มที่ เพราะเห็นว่าเรื่องนี้คือความเป็นความตายของจังหวัดที่ผมรับผิดชอบ
ปรากฏว่ามีนักลงทุนสนใจเข้ามาสร้างโรงงานในปทุมธานีนับสิบบริษัท แต่พอเริ่มมีข่าว ก็มี NGO เข้ามาเป็นแกนนำ เพื่อล้มโครงการ สายข่าวรายงานมาว่ามีนายทุนบ่อขยะเถื่อน ร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่นที่ต้องการเสียงตรงจุดที่เอกชนสนใจให้การสนับสนุนด้านการเงิน
ในบรรดาบริษัทที่สนใจเข้ามาลงทุนมีอยู่บริษัทหนึ่งสนใจที่ดินที่ ต.เชียงรากใหญ่ ซึ่งเคยเป็นของนักการเมืองใหญ่ท่านหนึ่ง ตรงนี้ที่ "คุณคำรณวิทย์" เป็นคนกลางเสนอขายที่ดินให้สร้างโรงงาน เขาต้องการลดการต่อต้าน ก็เลยออกเงินผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ไปเห็นกับตา ว่าโรงงานที่นำขยะมาทำพลังงานไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หรือตามที่นักปลุกระดมสร้างภาพให้คิด เขากำลังจะนำชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับที่ดินแปลงนี้ไปอีกทริปหนึ่ง เท่าที่ผมทราบมาครั้งนี้ เขาเลือกไปดูงาน 3 โรงงาน ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ และกลางกรุงโตเกียว
เขาเชิญผม แต่ผมไม่ไป เพราะผมเป็นผู้บริหารสูงสุด ถ้าผมไปอาจถูกมองว่าไปเกี่ยวกับเอกชน ตอนแรกก็จะไม่ให้ท่านรองและปลัดจังหวัดไป แต่ลูกน้องเขาอยากเห็น เขาขออนุญาตไป ผมเห็นว่าการดูงานที่ตั้งใจจัดให้ดูในพื้นที่ใกล้แม่น้ำเช่นเมืองปทุมเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อน Roadmap การแก้ไขปัญหาขยะของรัฐบาล จึงให้ไป แต่เนื่องจากรัฐบาลสั่งห้ามไปดูงาน จึงใช้วิธีลาพักผ่อนประจำปี (อย่างที่มักเรียกกันว่าลาพักร้อน) ไปต่างประเทศ ก่อนไปมีกลุ่มต่อต้านมาขู่ว่าไปจะไปร้อง ป.ป.ช.ว่ารับเงินเกิน 3,000 บาท ทั้ง 2 ท่านกลัวเป็นปัญหา จึงจ่ายเงินเอง มีหลักฐานการถอนเงินธนาคารมาจ่ายค่าเครื่องบิน และมีใบเสร็จรับเงินค่าตั๋วออกในวันเดียวกัน
คุณคำรณวิทย์ไปด้วย ผมสันนิษฐานว่าเขาต้องการใช้ภาวะผู้นำโน้มน้าวพูดให้คนปทุมกลุ่มต่างๆ เข้าใจ ไม่ต่อต้าน และช่วยทำความเข้าใจกลุ่มที่ยังไม่ทราบเรื่องระบบกำจัดขยะระบบปิด เพราะเขาต้องการให้โรงงานสร้างได้ (น่าจะเกี่ยวกับการขายที่ดิน)
สรุป เรื่องนี้ไม่มีความซับซ้อน วาระซ่อนเร้น ปลัดจังหวัด กับรองผู้ว่าฯ ที่ไปก็ไม่ใช่ตัวแทนของผู้ว่าฯ ตามที่มั่วโพสต์มั่วแชร์กัน และบริษัทนี้ก็ไม่ใช่ผู้รับเหมากับทางราชการ เขาเป็นบริษัทลงทุนด้านพลังงานในตลาดหลักทรัพย์ครับ ผมก็ไม่ใช่ผู้อนุญาตให้สร้างโรงงาน (เป็นอำนาจของอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมอบต่อมาให้อุตสาหกรรมจังหวัด) คนที่ไปไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุญาตอนุมัติ อะไร เพียงภาคเอกชนที่อยากให้สร้างสำเร็จเขาจะหาแนวร่วมเพื่อลดการต่อต้าน
ผมว่าเรื่องนี้คนด่ากันมาก เกิดจากอคติกับคำรณวิทย์ เลยลามปามมั่วซั่ว แบบไม่สนใจว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
รบกวนพื้นที่ในไลน์ของพี่น้องแค่นี้นะครับ ขอประทานโทษด้วยหากไปกระทบความรู้สึกท่านใด แต่เป็นเรื่องจริงทั้งหมด
กราบสวัสดีครับ
พงศธร สัจจชลพันธ์ (ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี)