ดร.ภูมิศักดิ์ ราศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร (KOFC) ได้วิเคราะห์การดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2558/59 ครอบคลุมภัยธรรมชาติ 7 ประเภท ได้แก่ น้ำท่วม ฝนทิ้งช่วง วาตภัย ภัยแล้ง อากาศหนาว/ลูกเห็บ อัคคีภัย และภัยศัตรูพืชหรือโรคระบาด ซึ่งแบ่งเป็น 5 พื้นที่ตามระดับความเสี่ยง ได้แก่ พื้นที่เสี่ยงต่ำมากที่สุด เสี่ยงต่ำมาก เสี่ยงต่ำ เสี่ยงปานกลาง และเสี่ยงสูง โดยจัดเก็บเบี้ยในอัตราที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ 124.12 บาท ถึง 483.64 บาท ซึ่งเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ จะรับภาระค่าเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 60-100 บาทต่อไร่ และรัฐบาลอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยในส่วนที่เหลือ 64.12 – 383.64 บาทต่อไร่ โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารโครงการ เป็นตัวกลางระหว่างเกษตรกรผู้เอาประกันภัย กับผู้รับประกันภัยภาคเอกชนซึ่งขณะนี้มีบริษัทประกันภัยเข้าร่วมโครงการ 7 บริษัท
สำหรับวงเงินความคุ้มครองภัยธรรมชาติ 6 ประเภทแรก เกษตรกรจะได้รับในอัตรา 1,111 บาท/ไร่ ส่วนภัยศัตรูพืชและโรคระบาดวงเงินความคุ้มครองจะอยู่ที่อัตรา 555 บาท/ไร่ ทั้งนี้ โครงการในปี 2558 ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายไว้ที่ 1.5 ล้านไร่ แต่ตั้งแต่เริ่มโครงการเดือนพฤษภาคมถึงปัจจุบัน มีการประกันภัยไปแล้วทุกพื้นที่ความเสี่ยง 295,050 ไร่ ค่าเบี้ยประกันภัยรวม 128 ล้านบาท ค่าเบี้ยประกันภัยที่รัฐบาลสมทบ 101 ล้านบาท เกษตรกรเข้าร่วม 31,787 รายที่เข้าร่วมโครงการ คิดเป็น 20% ของพื้นที่เป้าหมาย
ความจริงแล้วโครงการประกันภัยข้าวนาปีเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากเป็นการลดความเสี่ยงของเกษตรกร โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ภาวะภัยพิบัติเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อย่างกรณีภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้นหากเกษตรกรทำประกันภัยก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้ แต่จากผลการดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา พบว่าเกษตรกรให้ความสนใจต่ำกว่าเป้าหมายมาก ดังนั้นจึงควรมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงรายละเอียดและเงื่อนไขในการทำประกันอย่างชัดเจนเพื่อประกอบการตัดสินใจของเกษตรกร และควรมีการบูรณาการ การประเมินพื้นที่เสียหายที่เกิดจากภัยพิบัติของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างโปร่งใสและเป็นความคิดเห็นร่วมกัน รวมถึงการขยายประเภทของสินค้าเกษตรที่ทำประกันภัยเพิ่มขึ้น เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น พร้อมกันนี้ มูลค่าเบี้ยประกันโดยบริษัทประกันภัยดำเนินการนั้น จะต้องพิจารณาถึงเบี้ยประกันที่แท้จริงว่าควรอยู่ในระดับใด หากว่ารัฐบาลไม่เข้าไปอุดหนุน เพื่อให้โครงการนี้สามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี