ความคืบหน้ากรณี นายพยงค์ ดอกไม้หอม อายุ 54 ปี อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติหน้าที่ประจำศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ถูกคนร้ายใช้ของแข็งทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตภายในบ้านพักอัยการ เลขที่ 150/259 หมู่ 4 ถนนดอนนก เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี แล้วชิงเอาทรัพย์สิน อาทิ สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 10 บาท พระเครื่อง ของผู้ตายไป ซึ่งเบื้องต้นตำรวจพุ่งประเด็นการสืบสวนไปที่ 3 ปมสังหาร คือ ชิงทรัพย์ ชู้สาว และความขัดแย้งส่วนตัว โดยมีชายหนุ่มคนใกล้ชิดของผู้ตายเป็นผู้ลงมือ
โดยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ห้องประชุม สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.สมเกียรติ แก้วมุข รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ได้เชิญตัวกลุ่มบุคคลที่ใกล้ชิดและอยู่แวดล้อมผู้ตายกว่า 10 ราย อาทิ นายอธิราช หนูจีนเส้ง นักศึกษาฝึกงานซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรก คนดูแลสวน มาให้ปกคำเพิ่มเติม โดย นายอธิราช เปิดเผยว่า เพิ่งมาฝึกงานได้เพียง 1 เดือนเท่านั้น โดยที่ผ่านมา นายพยงค์ ถือเป็นผู้มีบุญคุณ คอยช่วยเหลือสอนงานต่างๆ ด้านกฎหมาย และให้การสนับสนุนเงินในการใช้จ่ายบ้างตามที่เห็นสมควร ส่วนในเรื่องส่วนตัวอื่นๆ ไม่เคยรู้ไปมากกว่านี้
ส่วนการติดตามตัว นายนิวัฒน์ จงสุข อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นชายหนุ่มคนใกล้ชิดผู้ตาย และต้องสงสัยว่าอาจจะรู้เห็นเกี่ยวกับการสังหารครั้งนี้นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สมเกียรติ ได้นำกำลังชุดสืบสวน บก.สส.ภ.8 เดินทางไปยังบ้านเกิดของ นายนิวัฒน์ ที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา แต่ไม่พบตัว จึงได้ขอเก็บดีเอ็นเอของพ่อแม่ นายนิวัฒน์ ไปตรวจสอบ เพื่อเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอที่คาดว่าจะเป็นของคนร้ายซึ่งตรวจพบในวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทราบว่า นายนิวัฒน์ ติดตามผู้ตายมาตั้งแต่สมัยที่รับราชการอยู่ที่ จ.ระนอง ก่อนย้ายไปประจำที่ศาลตะกั่วป่าและสุราษฎร์ธานี รวมไม่น้อยกว่า 5 ปี
ขณะที่ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมตัว นายนิวัฒน์ เอาไว้ได้ หลัง นายอุดร ทับแก้ว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.โคกเคียน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งเป็นญาติของ นายนิวัฒน์ ได้เดินทางเข้าแจ้งต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ตะกั่วป่า ไปรับตัว นายนิวัฒน์ ที่บ้านญาติใน อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี กลับมาต่อสู้คดี เนื่องจาก นายนิวัฒน์ ต้องการมอบตัว เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย
นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา จึงสั่งการให้ นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า ประสาน พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.สส.ภ.8 และชุดสืบสวนจากกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำโดย พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. ที่มาร่วมสอบสวนสืบสวนคลี่คลายคดี ออกเดินทางไปรับตัว นายนิวัฒน์ ที่ จ.ลพบุรี เพื่อนำตัวกลับมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงของคดีต่อไป
จากการสอบสวน นายนิวัฒน์ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ทำร้าย นายพยงค์ จนเสียชิวิตจริง โดยได้อยู่ช่วยงานนายพยงค์มากว่า 8 ปี จนมีความสนิทสนมกัน แต่หลังจากที่ นายพยงค์ ได้ย้ายมารับตำแหน่งที่ จ.สุราษฎร์ธานี ก็ได้มีปัญหาขัดแย้งกันเรื่อยมา จนที่ 28 มิถุนายน หลังจากตนและ นายพยงค์ ได้เดินทางไปดูแลสวนปาล์มที่ อ.ทุ่งใหญ่จ.นครศรีธรรมราช และระหว่างเดินทางกลับบ้านพักที่ จ.สุราษฎร์ธานี ก็ได้มีปากเสียงกันในเรื่องปัญหาส่วนตัว ที่ นายพยงค์ ไปให้ความสนิมสนมกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานี กระทั่งในช่วงบ่ายก็เกิดทะเลาะกันที่บ้าน จนเกิดบานปลายถึงขั้นลงมือทำร้ายร่างกายกัน ซึ่งตนได้ใช้ไม้และพัดลมกระหน่ำตี นายพยงค์ หลายครั้ง จนแน่นิ่ง เมื่อรู้ว่าเสียชีวิตจึงได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือด แล้วเดินทางไป อ.ตะกั่วป่า ด้วยรถโดยสารประจำทาง ก่อนต่อรถเข้ากรุงเทพฯ และเดินทางไปหลบอยู่กับเพื่อนที่ จ.ลพบุรี ก่อนจะตัดสินใจเข้ามอบตัวดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี