หมายจับ2มือปืน
แฉปมหนี้20ล.ดับสมยศ
เมียยันเจ้าตัวรู้ถูกปองร้าย
ผัวสาวคนสนิทเบี้ยวพบตร.
เผยเคยถูกแจ้งฉ้อโกง6คดี
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 กรกฎาคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. มอบหมายให้ พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รองผบก.ป.เรียกประชุมคณะทำงานคลี่คลายคดีสังหาร นายสมยศ สุธางค์กูรอายุ 62 ปี อดีตเจ้าพ่อพระราม9 คาเฟ่ โดยมี พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.พลฑิต ไชยรส ผกก.3 บก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรมัย ผกก.4 บก.ป.และชุดสืบสวน บก.ป.ภายหลังจากมีการลงพื้นที่เพื่อแสวงหาพยานหลักฐานต่างๆ ในคดี
รายงานข่าวแจ้งว่า ทาง บก.ป. ยังไม่ตัดทิ้งประเด็นใดๆ ออกไป ทั้งเรื่องหนี้จากการพนัน การวิ่งเต้นล้มคดีที่มีจำนวนเงินหลักสิบล้านบาทขึ้นไป และเรื่องความขัดแย้งเกี่ยวกับที่ดินย่านพระราม 9 ส่วนคำให้การของ นางศุภนิดา หรือก้อย นรรัตน์ อายุ 48 ปี คนสนิทของสมยศ เกี่ยวกับกรณีความขัดแย้งเรื่องหนี้สินที่มีการทวงถามไปยัง นายสมชัย หรือเล็ก นิตยา สามีของนางศุภนิดา นั้น ทางชุดสืบสวนยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นปมเหตุของการสังหารโหดในครั้งนี้หรือไม่
เมียเผยสมยศรู้ตัวถูกปองร้าย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน นางรัศมี สุธางค์กูร อายุ 53 ปี และ น.ส.ณัฐธิดา สุธางค์กูร อายุ 25 ปี ภรรยา และลูกสาวของ นายสมยศ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เพื่อให้ปากคำในคดีดังกล่าว โดยนางรัศมี กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบคือ นายสมยศ ได้ติดตามทวงหนี้จาก นางศุภนิดา หรือก้อย กว่า 20 ล้านบาท และหนี้พนันที่ถูกโกงไปอีก 4 ล้านบาท ซึ่งไม่เคยได้เงินคืนเลย สามีของตนยังเคยเล่าให้ฟังว่ามีคนขู่จะทำร้าย และเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนจะเสียชีวิต สามีได้นัด “เสธ.นุ” ให้ไปพูดคุยเรื่องทวงหนี้นายสมชัย กว่า 20 ล้านบาท หลังจากกลับมาก็มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด และมีการย้ายปืนพกจากน้องนอนชั้นบนลงมาไว้ชั้นล่าง
เชื่อปมสังหารมาจากหนี้20ล.
นางรัศมี เล่าต่อไปว่า กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 29 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ นางศุภนิดา ได้โทรศัพท์มาหาตน และได้ถามว่าวันนี้ จะไปไหนกันบ้าง ตนก็ตอบว่าช่วงบ่ายจะพาสามีไปโรงพยาบาล จากนั้นก็จะไปกินข้าวกัน กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว สำหรับนางศุภนิดา มีความสนิทสนมกับสามีตนมากว่า 20 ปี มีกุญแจเข้าออกในบ้านได้ ส่วนเรื่องเงินที่สามีถูกหลอกไปประมาณ 20 ล้านบาทนั้น นางศุภนิดา ได้มาสารภาพเมื่อประมาณ 2 เดือน ก่อนเกิดเหตุ ว่านำเงินไปให้ นายเล็กใช้จ่าย เล่นการพนัน และไปซื้อที่ดิน 2 แปลง ที่ จ.ชุมพร ทั้งนี้ โดยส่วนตัวก็สงสัย นางศุภนิดา อยู่แล้ว เพราะประเด็นที่เกิดขึ้นมันร้อนแรงอยู่ น่าจะเป็นเรื่องที่ถูกทวงถามหนี้
พยานยันภาพสเก็ตซ์ตรงมือปืน
พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ ภรรยาและลูกสาวของนายสมยศ ทำให้ประเด็นการโกงเงินพนัน กว่า 4 ล้านบาท และประเด็นการวิ่งเต้นเรื่องคดี กว่า 25 ล้านบาท มีน้ำหนักมากขึ้น ซึ่ง 2 ประเด็นนี้มีบุคคลที่เกี่ยวข้อง 4 คน โดยช่วงที่เกิดเหตุนั้น ใกล้วันครบกำหนดในการจัดการเรื่องหนี้สิน โดย นายสมยศ มีการข่มขู่จะเอาชีวิต รวมถึงดำเนินคดีกับอีกฝ่าย จึงอาจจะนำไปสู่ปมสังหารขึ้น ทั้งนี้ ได้นำภาพสเก็ตช์คนร้ายจำนวน 2 คน ไปขออำนาจศาลจังหวัดพระโขนง อนุมัติออกหมายจับ โดยพยานที่เห็นเหตุการณ์ 2 คน คือ รปภ. และพนักงานของร้านอาหาร ได้ยืนยันภาพสเก็ตช์ดังกล่าวว่ามีความเหมือนคนร้ายที่ก่อเหตุ
สามีก้อยเบี้ยวให้ปากคำ
รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า อย่างไรก็ตามยังไม่ตัดประเด็นเรื่องที่ดินย่านพระราม 9 ทิ้ง ต้องสอบปากคำพยานในเรื่องนี้อีก 1-2 ปาก ทั้งนี้ ได้โทรศัพท์นัดนายสมชัย สามีของนางศุภนิดา เข้าให้ข้อมูลในวันที่ 1 กรกฎาคม แต่นายสมชัย ยังไม่เข้าให้ปากคำ โดยอ้างว่าเกรงจะไม่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามจะพยายามติดต่อเพื่อมาให้ปากคำโดยเร็วที่สุด พร้อมกันนี้ จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับครอบครัวผู้ตายด้วย ส่วนชายที่ใช้ชื่อ เสธ.นุ ก็รู้ตัวแล้วว่าเป็นใคร
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้นายสมยศ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคล ทั้ง 4 คน ซึ่งอยู่ในกลุ่มของนายสมชัย โดยเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ จำนวน 6 สน. ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และยักยอกทรัพย์
ศาลอนุมัติหมายจับ2มือปืน
ต่อมา เวลา 16.00 น. ภายหลังพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ได้รวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งภาพสเก็ตซ์ของ 2 คนร้ายที่ก่อเหตุยิงนายสมยศ ยื่นต่อศาลจังหวัดพระโขนง เพื่อขออนุมัติหมายจับ ล่าสุดศาลได้อนุมัติหมายจับตามภาพสเก็ตซ์แล้ว โดยคนร้ายชายตามภาพสเก็ตซ์ที่ใส่หมวกแก๊ป ผมยาว ผิวคล้ำ อายุประมาณ 30 ปีเศษ ศาลอนุมัติหมายจับเลขที่ 303/2558 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 58 ข้อหา ร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยมีและใช้อาวุธปืน ส่วนผู้ต้องหาอีกคน ผมสั้น ผิวคล้ำ ศาลอนุมัติหมายจับเลขที่ 304/2558 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 58 ในข้อหาเดียวกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี